“บิ๊กป้อม” ส่งใจเชียร์ “พาณิภัค” ประเดิมเหรียญโอลิมปิกให้ได้

21 ก.ค.64 –พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯเปิดเผยว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของนักกีฬาไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และฝากความชื่นชมด้วยว่า “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ทำหน้าที่ได้ดี ดูแลนักกีฬาด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทราบข่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในประเทศญี่ปุ่นยังคงมีอย่างต่อเนื่องและพบว่ามีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านนักกีฬาติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่มีนักกีฬาไทยแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ประธานโอลิมปิคไทย จึงได้กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างดีที่สุด ในขณะที่ “บิ๊กแนต” นายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะติดตามเชียร์ 2 นักเทควันโดไทย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ  และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี ที่จะลงชิงชัยเป็นวันแรก แม้ว่าอาจจะต้องลุ้นเหรียญตั้งแต่เช้าถึงค่ำแต่สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยค่อนข้างมีความมั่นใจ โดยเฉพาะเส้นทางของ พาณิภัค ที่อาจจะเริ่มหนักในรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ถ้าสาวไทยจอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ไม่พลาดหรือโชคร้ายจนเกินไป เราจะได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์ ตั้งแต่วันแรก สร้างรอยยิ้มและความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ จะมีพิธีเปิดการแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020” อย่างเป็นทางการ เจ้าภาพได้มีข้อจำกัดจำนวนคนในการเข้าร่วมพิธีของแต่ละประเทศ  โดยนักกีฬาที่จะถือธงชาติไทยนำคณะนักกีฬาเข้าสู่สนามในพิธีเปิด ได้แก่ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืนหญิง และ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชายร่วมรับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้เป็นครั้งแรก ตามนโยบายของ ไอโอซี ที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ-สำนักข่าวไทย

เรือใบสาวไทยลุยพายุญี่ปุ่น ลุ้นเข้ารอบสุดท้าย โตเกียว 2020

21 ก.ค.64-พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของนักกีฬาเรือใบไทยที่ปักหลักเตรียมพร้อมเพื่อการแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020” อยู่ที่เอโนะชิมะ ยอชต์ ฮาร์เบอร์ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ที่ห่างจากกรุงโตเกียว 60 กม.ว่า นักกีฬาแล่นใบหญิงของไทย”แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม ที่จะลงแข่งประเภทเลเซอร์เรเดียล หญิง ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม -1 สิงหาคมนี้ มีความพร้อมอย่างมาก สุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม หลังจากเดินทางไปถึงญี่ปุ่นก็ได้ลงฝึกซ้อมเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสภาพลม สภาพคลื่นน้ำ และสภาพอากาศ จากการฝึกซ้อมผ่านมา 5 วันที่ผ่านมาพบว่าอุปสรรคที่สร้างความกังวล และจะต้องระมัดระวัง คือ กระแสลมที่ค่อนข้างแรงมาเป็นระยะๆ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีพายุเข้าญี่ปุ่นหลายครั้ง และยังจะต้องเผชิญพายุอีกในช่วงแข่งขันด้วย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฯได้ทำการประเมินความแรงของพายุแบบวันต่อวัน  “การเกิดพายุและการมีกระแสคลื่นลมที่แรงแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของนักกีฬา โดยเฉพาะนักกีฬาไทยที่อาจจะไม่คุ้นชิน แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันนักกีฬาต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ที่ต้องเตรียมพร้อมให้ดีในขณะนี้คือสภาพร่างกายของนักกีฬาที่ถือว่ามีความแข็งแรง พร้อมแข่งได้เต็มที่ โดยจากที่สมาคมประเมินและตัวนักกีฬาเองก็มีความหวังที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้” ในขณะที่  “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม กล่าวว่า จากการลงซ้อมในทะเลพื้นที่จริงที่จะใช้แข่งขันยอมรับว่ากระแสคลื่นลมเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการแข่งขัน และที่ญี่ปุ่นก็อาจจะเกิดพายุหรือคลื่นลมแรงมาได้ทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะแรงระดับไหน เราก็ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์นี้ให้ดีที่สุด และต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่คาดเดาได้ยากในแต่ละวันด้วย และด้วยขวัญกำลังใจที่ดีตัวเองก็พร้อมเสมอกับการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นมักจะเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว และ พายุพัดเข้าฝั่งช่วงฤดูมรสุมที่มักจะเกิดขึ้นประมาณเดือนสิงหาคม ถึง กันยายนของทุกปี-สำนักข่าวไทย

‘ไอโอซี’ เลือก ‘บริสเบน’ จัดกีฬาโอลิมปิก ปี 2032

21 ก.ค.64-คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) เปิดเผยว่า จากการประชุมใหญ่ไอโอซี ครั้งที่ 138 ที่โรงแรมโอกุระ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ซึ่งมี โธมัส บาคประธานไอโอซี เป็นประธานการประชุมในรูปแบบนิวนอร์มอล ตั้งโต๊ะแยกอิสระ เป็นรายบุคคล มีวาระสำคัญในการเลือกเมืองเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 35 ปี 2032 โดยที่ประชุม ได้ให้ความเห็นชอบ เมืองบริสเบน ของออสเตรเลีย เป็นเจ้าภาพในครั้งดังกล่าว ตามระบบการคัดเลือกใหม่ของไอโอซี  สำหรับระบบใหม่ของไอโอซี ในการคัดเลือกเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ปี 2032 นั้น ไอโอซี ต้องการลดกระบวนการเลือกเจ้าภาพ โดยให้ลดต้นทุนการเสนอตัวของเจ้าภาพ หลังจากครั้งก่อน ๆ ต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด ใช้งบประมาณในการเสนอตัวที่มากเกินไป บางครั้งก็มีการล็อบบี้กันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ ไอโอซี จะดูจากความพร้อมเป็นหลัก ใครมีทุกอย่างพร้อมตามความต้องการ ไอโอซี ก็จะได้พิจารณาเลือก ดังเช่นกรณีของเมืองบริสเบน ที่แสดงความพร้อมในทุก ๆด้านมาตั้งแต่แรก ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมืองบริสเบน นับเป็นเมืองที่ 3 ของออสเตรเลีย ที่ได้จัดกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ต่อจากเมืองเมลเบิร์น เมื่อปี 1956 และนครซิดนีย์ เมื่อปี 2000 โดยนอกจากกีฬาโอลิมปิกแล้วเมืองบริสเบน ยังจะได้จัดกีฬาพาราลิมปิก ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งกำหนดวันเบื้องต้นของ โอลิมปิก บริสเบน 2032 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม–8 สิงหาคม และ พาราลิมปิก บริสเบน 2032 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม–5 กันยายน2032 “การคัดเลือกเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก บริสเบน 2032 ครั้งนี้ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ระบุว่า แผนวิสัยทัศน์ของ บริสเบน 2032 เหมาะสมกับกลยุทธ์ระดับภูมิภาค และระดับชาติในระยะยาวสำหรับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในรัฐควีนส์แลนด์ และยังช่วยส่งเสริมเป้าหมายสำหรับกระบวนการโอลิมปิก ที่ระบุไว้ในวาระโอลิมปิก 2020 และ 2020+5 ที่ต้องการมอบประสบการณ์กีฬาที่น่าจดจำให้แก่นักกีฬาทุกคน” คุณหญิงปัทมา กล่าวในตอนท้าย-สำนักข่าวไทย

“เศวต” นักแม่นเป้าบิน พร้อมสู้ศึกโอลิมปิกครั้งแรก

21 ก.ค.64- “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบิน ประเภทแทร็ป ที่เป็นนักกีฬาที่อายุมากที่สุดของทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่ญึ่ปุ่น ครั้งนี้ ในวัย 56 ปี ซึ่งเป็นการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรก ได้ลงฝึกซ้อมเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดย เศวต  เปิดเผยว่า  พอมาถึงญี่ปุ่น ก็กักตัวเป็นเวลา 2 วัน ถึงได้เริ่มการฝึกซ้อม ที่ตอนนี้เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว การฝึกซ้อมค่อนข้างเข้มงวด จริงจัง และซีเรียสมากกว่า 2 วันที่ ผ่านมา ที่จะฝึกซ้อมยิงแบบสบายกว่านี้ ซึ่งจะมีนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน ที่มาซ้อมด้วยกันจะมีนักกีฬาจากหลายชาติที่เป็นเพื่อนๆ แข่งขันคว้าโควต้าโอลิมปิกมาด้วยกัน เมื่อปี 2019 เช่นเพื่อนจากโครเอเชีย  “ส่วนนักกีฬายิงเป้าบินอีก 2 คน “น้องณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร และ “น้องวอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข นักกีฬายิงเป้าบินประเภทสกีต จะฝึกซ้อมคนละเวลา ซึ่งที่พักนักกีฬาที่นี่ เจ้าภาพ จะจัดให้พักห้องละ 2 หรือ 3 คน โอลิมปิกครั้งนี้ เป็นการแข่งขันครั้งแรกจะพยายาม ทำให้ดีที่สุด”  โดย “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ ได้รับคัดเลือกให้ถือธงไตรรงค์ในพิธีเปิดโอลิมปิก 2020 พร้อมกับ “เอิน” ณภัสวรรรณ หย่างไพบูลย์ นักกีฬายิงปืนสั้น สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ ในประเภทแทร็ป วันที่ 28 กรกฎาคม เวลา 07.25 น. ตามเวลาประเทศไทย จะเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก วันที่ 1 วันที่ 29 กรกฎาคม เวลา 07.50 น. จะเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก วันที่ 2 และ เวลา 13.30 น. จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ-สำนักข่าวไทย

ไทยชาติที่ 102 เดินขบวนพาเหรด เปิด โอลิมปิกเกมส์ 23 ก.ค.นี้

21 ก.ค.64 “บิ๊กแนต” นายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานประชุมทาง ZOOM ร่วมกับหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ และนายกสมาคมกีฬาฯ, ผู้จัดการทีม และ ผู้ฝึกสอน เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว ปัญหา และ ความเป็นอยู่ของนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อคืนวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา  การประชุมครั้งนี้ นายธนา ได้แจ้งว่า ขณะนี้นักกีฬาไทยส่วนใหญ่ได้ทยอยเดินทางเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬาเรียบร้อยแล้ว โดยมียอดรวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่อยู่ในหมู่บ้านแล้ว 61 คน ไม่รวมนักกีฬาเรือใบ วินด์เซิร์ฟ ที่พักอยู่ที่เอโนะชิมะ ยอชต์ ฮาร์เบอร์ จังหวัดคานางาวะ ห่างจากกรุงโตเกียว 60 กม. และ จักรยานประเภทถนนที่พักอยู่ที่ฟูจิ เลค ห่างจากกรุงโตเกียว 130 กม. “นักกีฬาอื่นๆ จะเดินทางมาตามโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์, กอล์ฟทีมชาย ที่จะมาถึงวันที่ 22 กรกฎาคม, กรีฑา จะมาถึงวันที่ 23 กรกฎาคม, คีริน ตันติเวทย์ นักกรีฑามาราธอนจะมาถึงวันที่ 26 กรกฎาคม เช่นเดียวกับ ทีมเรือแคนู ส่วนกอล์ฟทีมหญิงจะมาถึงวันที่ 31 กรกฎาคม นายธนา กล่าวอีกว่า สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ได้รับแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมมาจากเจ้าภาพว่าในพิธีการต่างๆ จะไม่จำกัดจำนวนนักกีฬาที่จะเข้าร่วม แต่จำกัดเฉพาะเจ้าหน้าที่แต่ละทีมที่จะเข้าร่วมได้ไม่เกิน 6 คนโดยทัพนักกีฬาไทย จะเดินพาเหรดเข้าสนามในพิธีเปิดเป็นลำดับที่ 102 ตามการจัดอันดับตัวอักษรญี่ปุ่น ต่อจากหมู่เกาะโซโลมอน ส่วนชาติที่ตามหลังไทยก็จะเป็น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเจ้าภาพก็จะเดินเข้าพิธีเป็นลำดับสุดท้าย “สำหรับนักกีฬาไทยที่จะเข้าร่วมพิธีเปิดนั้น ผมได้แจ้งให้ทุกคนทราบแล้วและจริงๆ ก็อยากให้เข้าร่วมกันให้มากที่สุดแต่ก็ไม่ได้บังคับเพราะเข้าใจสถานการณ์ที่หลายคนยังกังวลเรื่องความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอีกทั้งยังอยากใช้เวลาพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในวันถัดไป” นอกจากนี้ หัวหน้านักกีฬาไทย ได้กล่าวขอบคุณสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ที่ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนอาหารกล่องส่งไปให้นักกีฬาไทยทั้งที่อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาและนอกหมู่บ้านอย่างเต็มที่ในปริมาณที่เพียงพอและอร่อยถูกปากนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไทยอย่างมาก สร้างพลังและขวัญกำลังใจให้นักกีฬาได้เป็นอย่างดี-สำนักข่าวไทย

“โค้ชเช” พา 2 จอมเตะไทย สัมผัสสนามจริง

21 ก.ค.64-ความเคลื่อนไหวการเก็บตัวฝึกซ้อมของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้ง “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่มรุ่น 58 กก. เข้าสู่วันที่สี่ของการฝึกซ้อม โดยช่วงเช้า โค้ช เช ยอง ซอก พร้อมโดยโค้ชวิชิต สิทธิกัณฑ์  ได้ให้นักกีฬาทั้ง 2 วิ่งรอบที่พักนักกีฬา และยืดกล้ามเนื้อเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นช่วงสายนักกีฬาและผู้ฝึกสอนรวม 4 คน ได้เดินทางไปทดสอบสนามแข่งขันจริง Vanue familiariZation ซึ่งเจ้าภาพได้สลับให้แต่ละชาติเข้าทดสอบตามคิว หลังจากนั้นทีมได้เดินทางไปซ้อมต่อที่เมกุโระ ยิมเนเซี่ยมเซ็นเตอร์ ใช้เวลาฝึกซ้อม 1 ชม.ครึ่ง โค้ชเช ยอง ซอก กล่าวว่า วันนี้ช่วงเช้าซ้อมปกติให้วิ่ง ส่วนในช่วงบ่ายเราให้ซ้อมเตะกับเกาะไฟฟ้าที่ใช้ในการแข่งขันจริง ซึ่ง เทนนืส-จูเนียร์ ทำได้ดี ร่างกายแข็แรงดี ไม่มีบาดเจ็บ รอแค่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น ส่วนการไปดูสนามแข่งขันจริง ถือว่าทันสมัย ใหญ่พอสมควร ยังดีที่ในวันแข่งขันไม่มีผู้ชม เพราะสนามใหญ่ขนาดนี้ เสียงเชียร์จะต้องดังมาก สร้างความกดดันให้นักกีฬาทุกชาติพอสมควร แต่สำหรับนักเทควันโดไทย ผ่านการแข่งขันรายการใหญ่มาหลายปี ประสบการณ์จะช่วยได้มากกับเกมแบบนี้ ซึ่งจากการเดินทดสอบสนาม ดูนักกีฬาทั้ง 2 คน มีความผ่อนคลายมาก เชื่อมั่นว่าในวันแข่งขันจะสู้เต็มที่ ขณะที่ก่อนการแข่งขันเทควันโด ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทางสำนักข่าว เอพี ได้วิเคราะห์ ตัวเต็งเหรียญทองในกีฬาเทควันโด ออกมาว่า ในรุ่น 49 กก.หญิง ยกเต็ง 1 คว้าเหรียญทองให้ ซิม เจ ยัง จากเกาหลีใต้ โดยที่ พาณิภัค ถูกจัดให้ได้เหรียญเงิน และทองแดง หวูจิงหยู จากจีน กับ คริสติน่า โทมิค จากโครเอเชีย ส่วนรุ่น 58 กก.ชาย เต็งทอง ได้แก่ จุนเจง จากเกาหลีใต้ เหรียญเงิน อาร์มิน ฮาดิเปอร์ จากอิหร่าน  ซึ่งเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของ เอพี ในครั้งนี้ ทาง”โค้ชแม็ก”ชัชวาล ขาวละออ 1 ในทีมผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย กล่าวว่า ก่อนไปโอลิมปิกเกมส์ตน และทีมโค้ชทุกคน รวมทั้งนักกีฬาหลายคนที่เดินทางไปแข่งขันรายการใหญ่ๆทั่วโลก ได้วิเคราะห์กันแล้ว ซิม เจ ยัง เป็นนักกีฬาที่เก่งในรุ่นเล็ก 46 กก. เป็นแชมป์โลก 2สมัย ในรุ่นเล็ก แต่รุ่น 49 กก. ที่ผ่านมา ยังสู้ เทนนิส ไม่ได้เจอกันมา 2 ครั้ง ในรายการ เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ปี 2017 ที่ไอวอรี่โคสต์ แพ้มาแล้ว และปี 2018 รายการชิงแชมป์โลก  “โดยอยู่ร่วมสายเดียวกับ เทนนิส ถ้าจะเจอกัน ต้องเป็นรอบรองชนะเลิศ แต่ที่เราวิเคราะห์กัน น่าจะยาก เพราะรอบ 8 คนสุดท้าย ซิม เจ ยัง จากเกาหลีใต้ ต้องเจอ ซู โป ยา จากไทเป ซึ่งนักกีฬาคนนี้รูปร่างสูง เก่ง ถือว่าเป็นนักกีฬาที่น่ากลัว โอกาสที่เกาหลีจะผ่านยาก โดยในสายบนนี้ที่น่ากลัวที่สุดคือ ไทเป แต่ในรายการโอลิมปิกเกมส์ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขอให้อย่าประมาทคู่แข่ง มีโอกาสที่จะคว้าเหรียญทองของนักเทควันโดไทย ครั้งนี้ถือว่ามีโอกาสที่ดีที่สุด ส่วนจูเนียร์ เราเป็นรองหลายชาติ แต่อาจมีเซอร์ไพรส์ “-สำนักข่าวไทย   

“บิ๊กต้อม” ไปเยี่ยมและให้กำลังใจ “จุฑาธิป”

21 ก.ค..64-“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย พร้อมด้วย รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และ น.อ.นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ แพทย์ประจำทีมชาติไทย เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจ “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักกีฬาจักรยานประเภทถนนหญิง และ “โค้ชตั้ม” พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัทผู้ฝึกสอน ในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดย “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์กสิยะพัท วางโปรแกรมให้ “จุฑาธิป” ซ้อมใหญ่ในเส้นทางแข่งขันจริง ระยะทางเกือบ 130 กม. ซึ่งคณะหัวหน้านักกีฬาไทย เดินทางมาเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจนักกีฬานักจักรยาน ซึ่งไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาที่กรุงโตเกียว แต่อยู่ห่างออกมาประมาณ 130 กม. ต้องใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที และขอให้ซ้อมอย่างเต็มที่ และสู้ให้สุดความสามารถเพื่อทำสถิติของตัวเองให้ดีที่สุด ด้าน จุฑาธิป กล่าวว่า จากการลงฝึกซ้อมเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งโค้ชวิสุทธิ์ ให้ซ้อมปั่นขึ้นภูเขา เป็นทางขึ้นประมาณ30 กม. และทางลงอีกประมาณ 30 กม. เส้นทางโดยรวมถือว่าไม่ยากมากนัก หากเปรียบเทียบกับที่เคยฝึกซ้อมอยู่ที่เขาใหญ่และเขาเขียว เส้นทางในเมืองไทยยังมีความชันมากกว่า แต่เส้นทางที่ญี่ปุ่นจะต้องปั่นขึ้น-ลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นวันแข่งขันจริงต้องวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้เหลือแรงมาปั่นขึ้นภูเขาลูกใหญ่ลูกสุดท้าย ระยะทาง 20 กม. ก่อนเข้าเส้นชัย ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่นตนเองก็ทำใจมาแล้วว่าเกมการแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้ต้องเล่นกันเร็ว จึงไม่มีความกดดันหรือความกังวลใด ๆ ขอเพียงเราเกาะกลุ่มใหญ่เอาไว้ให้ดี และจบการแข่งขันได้ตามเป้าหมาย ซึ่งตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สำหรับ จุฑาธิป จะลงแข่งขันในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ “ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้บีซในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ส่วนบีซก็จะเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยดี บีซอยู่ที่ญี่ปุ่นก็ติดตามข่าวสารของเมืองไทยทุกวัน ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพการ์ดอย่าตก งดออกจากบ้าน ไม่ไปในสถานที่มีคนเยอะ ๆ หรือแออัด หากจำเป็นต้องออกจากบ้านก็ควรสวมหน้ากากอยามัย พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ บีซขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน สู้ ๆ ค่ะ” จุฑาธิป กล่าวในตอนท้าย. – สำนักข่าวไทย.

WHO เชื่อมั่น ไอโอซี และ ญี่ปุ่น ป้องโควิดเข้ม ช่วยโอลิมปิก ปลอดภัย

21 ก.ค.64-โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เป็นประธานการประชุมใหญ่ไอโอซี ครั้งที่ 138 วันที่ 2 ที่โรงแรมโอกุระ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่  21 กรกฎาคม 2564 โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย ซึ่งเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่ไอโอซีครั้งที่ 138 พร้อม ๆ กับคณะกรรมการบริหารคนอื่น ๆ ด้วย ซึ่งการประชุมครั้งนี้ จัดในรูปแบบนิวนอร์มอล ตั้งโต๊ะแยกอิสระ เป็นรายบุคคล คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ทีโดรส อัดฮานอม กรีเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) มากล่าวเปิดในช่วงต้นของการประชุม โดยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แสดงความยินดีกับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับโอกาสเข้าร่วมในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 และแสดงความชื่นชม ทั้งไอโอซีและเจ้าภาพญี่ปุ่น ที่ทำงานหนักร่วมกันมาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้ โดยมีองค์การอนามัยโลก คอยให้คำแนะนำ เพื่อวางมาตรการป้องกัน สู้กับวิกฤติโควิด-19 ร่วมกัน ในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ญี่ปุ่นได้มอบความกล้าให้คนทั่วโลก ขอแสดงความเคารพให้ในเรื่องนี้ และขอแสดงความเคารพ ต่อนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูกะ และชาวญี่ปุ่นทุกคน ที่จัดโตเกียว 2020 ซึ่งให้ความหวังและแสงสว่างกับผู้คนทั่วโลก โอลิมปิกเกมส์ สามารถนำคนทั่วโลกมารวมกัน และทำให้คนทั่วโลกเกิดความสนใจร่วมกันได้ ผู้คนทั่วโลกถามว่า โรคระบาดนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด มีคนเสียชีวิตไปแล้ว 4 ล้านกว่าคน และยังคงมีคนเสียชีวิตเพิ่ม ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตปีนี้มากขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีที่แล้ว และจะยังคงมีผู้เสียชีวิตอีกนับแสน ผู้คนเหนื่อยหน่ายกับหลาย ๆเรื่อง ตอนนี้โรคระบาดเกิดขึ้นมา 19 เดือนแล้ว แต่เราเพิ่งมีวัคซีนได้ 7 เดือน ทั้งๆ ที่วัคซีนคือเครื่องมือที่ดีในการป้องกันโรคระบาด แต่เราไม่ได้ใช้วัคซีนอย่างที่ควรจะเป็น เพราะวัคซีนกระจุกอยู่กับคนที่มีอภิสิทธิ์ ในขณะที่ยังมีผู้คนอีกมากในโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีน โดย 75 เปอร์เซ็นต์ ของวัคซีนถูกฉีดให้กับคนใน 10 ประเทศเท่านั้น บางประเทศ ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศอื่น ๆ ยังไม่ได้รับวัคซีน สถานการณ์โรคระบาด เป็นเรื่องที่ทำลายสังคมและเศรษฐกิจ ยิ่งโรคระบาดอยู่นานส่ิงต่าง ๆ ก็จะยิ่งแย่ลง ทั้งการกลายพันธุ์ก็จะมีมากขึ้น และรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้าในเวลานี้ แม้แต่ในที่ที่สถานการณ์โรคระบาดจะดีขึ้นแล้ว แต่ในที่อื่นทั่วโลกสถานการณ์ยังแย่อยู่ และตราบใดที่โรคระบาดยังไม่หายไป ไม่มีทางที่เราจะปลอดภัย ไอซีเมมเบอร์หญิงของไทย กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลก มีเป้าหมายให้ทุกประเทศฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ภายในเดือนกันยายนนี้ แต่นอกเหนือจากวัคซีนแล้ว ระบบสาธารณสุขในแต่ละประเทศก็มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับโควิด เพราะมาตรการเหล่านี้ ชี้ความเป็นความตายได้เลย การที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องง่าย หากแต่เราเชื่อมั่นและหวังว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ทั้งไอโอซี และญี่ปุ่น วางแผนร่วมกันมาอย่างดีจะได้ผล ไม่มีอะไรที่ไม่เป็นความเสี่ยง ซึ่งการตัดสินใจของเรา ถ้าไม่เพิ่มก็ลดความเสี่ยง แต่ไม่มีทางทำให้ความเสี่ยงหายไปได้ และเราไม่สามารถทำให้การติดเชื้อเป็นศูนย์ได้ สิ่งที่เราทำได้คือเมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้วสามารถตอบสนองได้รวดเร็วและติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อ เป้าหมายของทุกประเทศไม่ใช่ศูนย์ราย แต่คือการตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลแต่ละประเทศต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการปกป้องชีวิตผู้คน และจัดระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ โดยเรามีโครงการ โคแวคซ์ ที่ทำให้มีการแพร่กระจายวัคซีนไปยังประเทศต่าง ๆ ผ่านความร่วมมือ อีกฝ่ายหนึ่งที่สำคัญคือบริษัทผลิตวัคซีน กับความรับผิดชอบในการทำให้มั่นใจว่าวัคซีนจะมีเพียงพอ ในที่ที่ต้องการ เราต้องการฉีดวัคซีนอีก 1.1 หมื่นล้านโดส ซึ่งควรผลิตให้ได้ภายในปี 2022 ถ้าเป็นในปี 2023 จะช้าไป การผลิตมากขนาดนี้ต้องมีการแบ่งปันองค์ความรู้ ไม่เช่นนั้นจะหาผู้มาช่วยผลิตไม่ทัน ฝ่ายสำคัญที่ 3 คือ ภาคประชาสังคม ที่ต้องออกมาช่วยกันสนับสนุน เรื่องการจัดหาวัคซีน ในอันที่จะช่วยทำให้เราถึงเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ ในทุกประเทศภายในกลางปีหน้า และฝ่ายสุดท้าย คือประชากรของโลก ต้องแสดงความต้องการออกมาให้รัฐบาลและบริษัทวัคซีนฟัง คุณต้องพูดเพื่อให้เกิดการปกป้องชีวิตของพวกคุณเอง “ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้เปรียบเทียบการกระจายวัคซีนไปทั่วโลก กับคำขวัญโอลิมปิกใหม่ “faster higher stronger, together” หรือ “เร็วกว่า สูงกว่า แข็งแรงกว่า ด้วยกัน” ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เราจำเป็นต้องกระจายวัคซีนให้เร็วขึ้น (faster) เราต้องให้มีจำนวนคนเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น (higher) เราต้องแข็งแกร่งขึ้น ในการขจัดอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อจะได้เพิ่มการผลิตวัคซีน (stronger) และเราต้องทำทุกอย่างนี้ร่วมกัน (together) พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ยังย้ำในตอนท้ายด้วยว่า ขอให้คบเพลิงโอลิมปิก เป็นสัญลักษณ์ของความหวังที่เดินทางไปทั่วโลก และขอให้ความหวังที่เกิดขึ้นในดินแดนอาทิตย์อุทัย ทำให้สังคมโลกมีสุขภาพดีขึ้น และมีความยุติธรรมมากขึ้น” คุณหญิงปัทมา กล่าว-สำนักข่าวไทย

‘ไอโอซี’ ปรับคำขวัญโอลิมปิกใหม่ ‘เร็วกว่า สูงกว่า แข็งแรงกว่า ด้วยกัน’

20 ก.ค.64-คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า การประชุมใหญ่ ไอโอซี ครั้งที่ 138 ซึ่งสามารถจัดขึ้นในรูปแบบการประชุมตั้งโต๊ะ แบบ แยก อิสระต่อคน  แบบnew normal  ที่ห้องประชุม โรงแรมโอกุระ โตเกียว เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2564 ที่ประชุมใหญ่ ไอโอซี โดยมี โธมัส บาคประธานไอโอซี เป็นประธานการประชุม ได้ลงมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ปรับคำขวัญโอลิมปิก จาก “faster, higher, stronger” โดยเพิ่มคำว่า “together” ต่อท้ายเข้าไปอีก  เป็น “faster, higher, stronger – together” หรือ “เร็วกว่าสูงกว่า แข็งแรงกว่า ด้วยกัน” เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกในยุคปัจจุบันที่ความร่วมมือกัน เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ และยังเป็นการสะท้อนแนวคิดสำคัญของโอลิมปิก ในเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกันอีกด้วย ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าวต่อว่า ในส่วนของโอลิมปิก โตเกียว 2020 นั้น มีการตรวจพบเชื้อในนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ที่เดินทางเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬา แล้ว น้อยมาก เพียงแค่ 0.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนสนามแข่งขันนอกกรุงโตเกียว ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะอนุญาตให้มีผู้ชมได้แบบจำกัดจำนวน และต้องทำตามมาตรการโควิดอย่างเคร่งครัด โดยให้นักเรียนเข้าชมได้ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของ สกูล โปรแกรม (school programme)-สำนักข่าวไทย

“ณภัสวรรณ -เศวต”ถือธงไทยร่วมพิธีเปิดโตเกียวเกมส์

20 ก.ค.64-“บิ้กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาที่จะรับหน้าที่ถือธงไตรรงค์ในพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พยายามสอบถามสมาคมกีฬาต่างๆ แต่ปรากฎว่ามีปัญหาเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันเพราะพิธีเปิด ในวันที่ 23 ก.ค. นี้ จะเลิกค่อนข้างดึกคือเกือบเที่ยงคืน ทำให้นักกีฬาที่จะลงแข่งขันในวันที่ 24 ก.ค. ทั้งแบดมินตัน, เทควันโด, มวยสากล ไม่พร้อมจึงมอบหมายให้ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักยิงปืนหญิงทีมชาติไทย และ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชายทีมชาติไทย วัย56 ปี ซึ่งทั้งสองต่างก็มีผลงานที่น่าสนใจ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ โอลิมปิกเกมส์ จัดให้มีนักกีฬาชาย–หญิง รับหน้าที่ดังกล่าวพร้อมกัน เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ  อนึ่ง ในอดีตนักกีฬาไทย ที่ได้รับหน้าที่ถือธงชาติไทย ในโอลิมปิกเกมส์ ประกอบด้วย โอลิมปิกเกมส์ 2016 “เมย์” รัชนก อินทนนท์ (แบดมินตัน), โอลิมปิกเกมส์  2012 “เจมสบอนด์” ณัฐพงษ์ เกตุอินทร์ (ว่ายน้ำ), โอลิมปิกเกมส์ 2008 “พจน์” วรพจน์ เพชรขุ้ม (มวยสากลสมัครเล่น), โอลิมปิกเกมส์ 2004 “บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ (เทนนิส), โอลิมปิกเกมส์ 2000 “บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ (มวยสากลสมัครเล่น), โอลิมปิกเกมส์ 1996 วิศณุ โสภานิช (กรีฑา), โอลิมปิกเกมส์1992 สุรพงษ์ อาริยะมงคล (โค้ชกรีฑา), โอลิมปิกเกมส์ 1988 สมชาย จันทวานิช (ยิงปืน) และโอลิมปิกเกมส์ 1984 รังสิต นาโยทัย (ยิงปืน)-สำนักข่าวไทย

‘มาดามแป้ง’ ตั้ง ‘ดุสิต’ นั่งแท่นกุนซือสิงห์เจ้าท่า

20 ก.ค.64- ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. เปิดเผยข่าวอย่างเป็นทางการ โดยแต่งตั้ง โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน รับตำแหน่ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน การท่าเรือ เอฟ.ซี. พร้อมแต่งตั้ง โค้ชอู๊ด สระราวุฒิ ตรีพันธ์ขึ้นรับตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านเทคนิคของทีม สำหรับการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2021/22  โดย ‘มาดามแป้ง’ กล่าวว่า “ขอต้อนรับโค้ชโอ่งสู่ครอบครัวแสดน้ำเงินอีกครั้ง ประสบการณ์ของโค้ชโอ่งตั้งแต่การเป็นนักเตะยุคดรีมทีม จนได้คุมทีมมากมายทั้งต่างประเทศ และในประเทศ รวมถึงผลงานในฤดูกาลล่าสุดย่อมการันตีถึงความสามารถ ที่สำคัญ เป็นกุนซือที่เคยสร้างความประทับใจให้แฟนๆ สิงห์ท่าเรือ เมื่อครั้งพาทีมเลื่อนชั้นในฤดูกาล 2013 ด้วย เขาคือตำนานคนหนึ่งของที่นี่ และนี่จะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่แป้งเชื่อว่า โค้ชโอ่งจะพาเราไปถึงเป้าหมายได้” “สำหรับโค้ชอู๊ด เป็นน้องที่แป้งยังเชื่อใจและทำงานร่วมกันอย่างดีมาโดยตลอด ในฐานะที่ปรึกษาของทีมนั้น เราเชื่อว่าความเข้าใจและวิธีการทำงานจะช่วยสอดประสานให้ทีมเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด” มาดามแป้ง กล่าวเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม นอกจาก ‘โค้ชโอ่ง’ แล้ว การท่าเรือ เอฟ.ซี. ยังดึง ‘โค้ชแอม’ ปรมัต พรหมแก้ว โค้ชผู้รักษาประตูคู่ใจมาร่วมทีมด้วย โดยจะร่วมวางแผนการทำงานทันทีเพื่อเตรียมความพร้อมของนักเตะ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันไทยลีก2021/22 ซึ่งมีกำหนดการคือ 13 สิงหาคม นี้-สำนักข่าวไทย

2 จอมเตะ “เทนนิส”-“จูเนียร์” ซ้อมวันที่ 3 เน้นเตะหัว

20 ก.ค.64-ความเคลื่อนไหวการเก็บตัวฝึกซ้อมของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้ง “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่มรุ่น 58 กก. เป็นการฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่นเป็นวันที่สาม โดยช่วงเช้า โค้ชเช ยอง ซอก พร้อมโดยโค้ชวิชิต สิทธิกัณฑ์  ยังคงให้วิ่งรอบที่พักนักกีฬา และวอร์มร่างกายเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงจากนั้นช่วงบ่าย ได้เดินทางไปซ้อมที่เมกุโระ ยิมเนเซี่ยมเซ้นเตอร์ ที่เจ้าภาพจัดให้ ซึ่งใช้เวลาให้แต่ละประเทศได้ฝึกซ้อมชาติละ 1 ชม.ครึ่ง  โค้ชเช ยอง ซอก กล่าวว่า เราได้ซ้อมในโรงยิมส์ขนาดเล็กซึ่งในส่วนที่นักเทควันโดไทยซ้อม จะมีทีมอื่นมาซ้อมร่วม 2 คน แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะไม่ให้ใกล้กัน โดยวันนี้ ได้ซ้อมการเตะ เน้นเทคนิคที่จะใช้ในการแข่งขัน โดยเฉาะการเตะหัว 3 คะแนน ซึ่งในการฝึกซ้อมจะให้ จูเนียร์ วิ่งมากขึ้นหน่อย เพราะยังมีน้ำหนักตัวเกินอยู่ โดยเสร็จจากการฝึกซ้อม จูเนียร์ มีน้ำหนักเกินอยู่ 1 กก. ไม่มีปัญหาในวันชั่งน้ำหนัก ส่วน เทนนิส น้ำหนักตัวพอดีกับพิกัด 49 กก. มาถึงตอนไม่มีอะไรกังวล ไม่มีคนดู ไม่มีเสียงดัง ไม่กดดัน ถ้ามีคนดู จะตื่นเต้น ซึ่งถ้าไม่มีคนดูจะส่งผลดีต่อทั้ง 2 คน ขณะที่ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางผู้จัดการทีมได้รายงานตนมาตลอดทุกวัน ถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งทุกอย่างไม่น่าเป็นห่วง จะห่วงก็คือการควมคุมไม่ให้เสี่ยง ติดโควิด โดยตนกำชับเด็ดขาด ห้ามนักกีฬาไปฟู้ดเซ็นเตอร์คอร์ท ในช่วงที่มีคนเยอะๆ ถ้าอยากกินอะไร จะให้โค้ชและผู้จัดการทีมจัดมาให้ ซึ่งเท่าที่ทราบมา ทางสถานทูตไทยฯได้จัดอาหารมาให้ทุกวัน ส่วนอาหารเช้า ถ้าจำเป็นจริงๆ  ให้เลือกเวลาที่มีคนน้อย แต่ถ้าไม่ไปดีที่สุด ส่วนในเรื่องการแข่งขันก็ไม่น่าห่วง ทางสหพันธ์เทควันโดโลก ควบคุมการตัดสินทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านทำได้ดีมาตลอดเรื่องความโปรงใส เดี๋ยวนี้ระบบเกาะไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์การให้คะแนนเชื่อถือได้ 100% ส่วนเรื่องผู้ตัดสินที่ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องแฟร์เพลย์ ไม่น่ามีปัญหา ตนเชื่อว่าอีก 4 วัน คนไทยจะได้มีความสุขกับเหรียญแรก-สำนักข่าวไทย

1 69 70 71 72 73 92