ศปช.รับมือน้ำทะเลหนุน สั่งระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้สมดุล
ศปช.เตรียมรับมือน้ำทะเลหนุน สั่งบริหารการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้สมดุล บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ด้าน ศปช.ส่วนหน้า เชียงราย เดินหน้าฟื้นฟูตามแผน
ศปช.เตรียมรับมือน้ำทะเลหนุน สั่งบริหารการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้สมดุล บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ด้าน ศปช.ส่วนหน้า เชียงราย เดินหน้าฟื้นฟูตามแผน
“วิสุทธิ์” อ้างชาวบ้านอยากให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม เลยเทกระทู้ถาม สส. บอกจะกำชับมาตอบ ให้ฝ่ายค้านหายข้องใจ ยันไม่มีความพยายามให้งดประชุม 24 ต.ค.
“ปกรณ์วุฒิ” โวย รมต. ชิ่งไม่มาตอบกระทู้ ทั้งที่แจ้งล่วงหน้า 2 วัน บอกหากให้ความสำคัญก็สามารถเคลียร์ตารางมาได้ แฉมีความพยายามงดประชุม 24 ต.ค.
“วิโรจน์” เดือด กลาโหมไม่ได้มี รมต.แค่คนเดียว หลัง “ภูมิธรรม” เทตอบ 2 กระทู้ ประกาศเตรียมใช้บทบาท “กมธ.ทหาร” สอบพลทหารดับในค่าย หากเข้าข่ายซ้อมทรมาน ยื่นอัยการ- ดีเอสไอ เอาผิดไม่มีละเว้น
เวทีประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น ไทยเสนอ 3 แนวทางเพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน เน้นด้านดิจิทัล พลังงานสีเขียว และนวัตกรรม ด้านนายกฯ เชื่อหากพัฒนา 3 แนวทางนี้อย่างจริงจัง ส่งประเทศไทยพัฒนาในทุกมิติแน่
“นายกฯ แพทองธาร” ชูวิสัยทัศน์ “เอบีซี” บนเวทีอาเซียน-เกาหลีใต้ เน้นพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาทุกรูปแบบและศก.สร้างสรรค์ของไทยให้เจริญ
สปป ลาว 10 ต.ค.- รมว.กต.ขอบคุณ ไทยได้รับเลือกนั่ง HRC วาระ 2568-70 ยืนยันจะเป็นสะพานเชื่อมความแตกต่างของชาติสมาชิก-หาทางออกผ่านจุดแข็งของไทยที่ก้าวหน้า เข้าใจบริบทที่หลากหลาย แสดงความมุ่งมั่นส่งเสริมสถานะประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนไทยให้เป็นที่ยอมรับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทย ได้รับเลือกตั้งเข้าไปดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ HRC วาระปี ค.ศ.2025 ถึง 2027 หรือ พ.ศ.2568 ถึง 2570 ซึ่งมีการออกเสียงลงคะแนน เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (9 ต.ค.) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ต.ค. ตามเวลาในไทย) ว่า ประเทศไทยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเลือกตั้งเข้าไปดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ.2025 ถึง 2027 หรือ […]
“ธีรยุทธ” หอบเอกสาร 5,080 แผ่น ร้องศาลรัฐธรรมนูญ 6 กรณี ชี้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง ขอสั่งหยุดการกระทำ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 10 ต.ค.- “อนุทิน” นำประชุม บกปภ.ช. หาข้อสรุปมอบอำนาจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทำคำให้การแก้คำฟ้องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เพื่อยื่นต่อศาลฯ ตามกรอบเวลาที่กำหนด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่มาจากปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางคำ ที่สร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในวันนี้จะเป็นการหาข้อสรุปเรื่องการมอบอำนาจให้บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถทำคำให้การแก้คำฟ้องยื่นต่อศาลได้ทันภายในเวลาที่กำหนด ตามที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเรียกให้คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ทำคำให้การแก้คำฟ้องในคดีปกครอง หมายเลขคดีที่ ส.14/2567 ที่ฟ้องคดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ และจะต้องจัดทำคำให้การแก้คำฟ้องต่อศาลปกครองกลางภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันได้รับคำสั่ง (วันที่ 23 กันยายน 2567) ส่วนในเรื่องของความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ต้องไปสอบถามความคืบหน้าจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มีบทบาทหน้าที่หลักในการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติตามชื่อ ซึ่งเรื่องการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ มีจุดกำเนิดมาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งถือว่าอยู่นอกเหนือขอบเขตการรับผิดชอบของ ปภ..-317 -สำนักข่าวไทย
“อนุทิน” ปัดไม่มีการเมืองใน มท. กรณีชาวบ้านไม่พอใจตั้งอดีตปลัด มท. เป็นผู้ว่าฯ สงขลา ยันผ่านมติ ครม.แล้ว ทำอะไรไม่ได้ ขอให้เวลาทำงาน ก่อนประเมินผลอีกครั้ง
“อนุทิน” บอกตื่นไม่ทัน ยังไม่ได้ตามข่าว กรณี “ธีรยุทธ” ยื่นศาล รธน.ยุบเพื่อไทย ปัดตอบนั่งนายกฯ หากเกิดเหตุสุดวิสัย ยันเดินหน้าทำงานตามนโยบายรัฐบาลต่อไป บอกอีก 2 ปี แซยิดแล้ว
“ณัฐพงษ์” แนะนายกฯ ใช้เวทีอาเซียน+3 คุยนอกรอบนายกฯ ญี่ปุ่น ขอส่งตัว-ขอเนรเทศ จำเลยคดีตากใบ กลับไทยก่อนหมดอายุความ 25 ต.ค.นี้ ชี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ “ไทยรักไทย” เชื่อจะแสดงสปิริตให้คนไทยเห็น ถึงเวลาพิสูจน์ความจริงใจต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชน