ป.ป.ช.จับตาเหรียญหลวงพ่อป้อมที่คอ “สิระ”
ป.ป.ช.จับตาเหรียญหลวงพ่อป้อม-สร้อยทอง “สิระ” แจ้งบัญชีทรัพย์สินหรือไม่
ป.ป.ช.จับตาเหรียญหลวงพ่อป้อม-สร้อยทอง “สิระ” แจ้งบัญชีทรัพย์สินหรือไม่
“สุทิน” รับอภิปรายวันแรกไม่เข้ม เพราะแค่จั่วหัว รอลงรายละเอียดวันนี้ ปัดข่าว ส.ส. เพื่อไทยเตรียมย้าย
“ศักดิ์สยาม” พร้อมแจง “รถไฟฟ้าสายสีเขียว-ส้ม” ยัน ทุกอย่างเป็นไปตามมติ ครม. ระบุภาพรวมอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก “อนุทิน” ชมนายกฯ ชี้แจงได้ดี มีประสบการณ์และความชำนาญ ยืนยันวัคซีนลอตแรกถึงไทย 24 ก.พ.นี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันแรก ว่า เรียบร้อยดี ไม่ได้มีปัญหา
สำนักงานป.ป.ช. 10 ก.พ.-ป.ป.ช. แจงข้อกล่าวหา “วิรัช” ทุจริตสนามฟุตซอล ส่งอัยการแล้ว 6 สำนวน รออัยการรวบส่งฟ้องศาล ไม่ยืนยันทันในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล ที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเรื่องดังกล่าวมีทั้งหมด 6 สำนวน สำนวนแรกได้ส่งให้อัยการสั่งฟ้องแล้ว ส่วน 5 สำนวนที่เหลือ อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน ระหว่างคณะกรรมการป.ป.ช. กับอัยการสูงสุด ซึ่งยังไม่มีกรอบเวลาในการดำเนินการ เนื่องจากอัยการจะขอนำสำนวนที่เหลือไปรวมกับสำนวนแรกที่ ป.ป.ช. ขอให้สั่งฟ้อง เพื่อดำเนินการในคราวเดียวกัน ส่วนการรวมสำนวนฟ้องคราวเดียว จะถือเป็นการยื้อเวลา ช่วยกันในพรรครัฐบาลหรือไม่นั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับหน่วยงานด้วย เพราะสำนวนทั้ง 6 เรื่อง มีความแตกต่างกัน ทั้งข้อกล่าวหา และบุคคลจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด หรือจะเสร็จสิ้นทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ เพราะถือเป็นดุลยพินิจของอัยการสูงสุด.- สำนักข่าวไทย
10 ก.พ. – วันนี้ (10 ก.พ.64) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงข่าวชี้มูล นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณียึดถือครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ในบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตามที่กรมป่าไม้ได้ร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ให้ดำเนินคดีอาญากับนางสาวปารีณา ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ เป็นพื้นที่ 711 – 2 – 93 ไร่ และคำนวณค่าเสียหายเป็นตัวเงิน จำนวน 36,224,791 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางสาวปารีณา ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง. – สำนักข่าวไทย
รัฐสภา 10 ก.พ. -รองประธานสภาฯ ไฟเขียวญัตติ “ไพบูลย์” ขอสภา ส่งศาล รธน.ชะลออภิปรายไม่ไว้วางใจพาดพิงสถาบัน ยันเข้าองค์ประกอบบรรจุวาระได้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง กล่าวว่า ได้พิจารณาญัตติด่วนที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พลังประชารัฐ ยื่นขอให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่เนื่องจากมีเนื้อหาเชื่อมโยงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยยืนยันว่าฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาเนื้อหาของญัตติดังกล่าวแล้ว พบว่าครบองค์ประกอบตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 48 เพราะเป็นกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเคลือบแคลงสงสัยอำนาจหน้าที่ของสมาชิก ดังนั้นเมื่อมีข้อข้องใจดังกล่าวก็สามารถเสนอญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้ และจะบรรจุเรื่องนี้เข้าสู่วาระการประชุมต่อไป ส่วนจะทันการประชุมในสัปดาห์นี้หรือไม่นั้นนายศุภชัย เห็นว่าขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน และที่ประชุมสภาจะพิจารณา เพราะตนมีหน้าที่เพียงกลั่นกรองญัตติเท่านั้น หากเห็นว่าเป็นเรื่องด่วนที่ประชุมสภาก็สามารถหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาก่อนได้.- สำนักข่าวไทย
สำนักงานป.ป.ช. 10 ก.พ.-ป.ป.ช. ชี้มูล “ปารีณา” ผิดจริยธรรมร้ายแรงรุกที่ดินของรัฐกว่า 711 ไร่ ส่งศาลฎีกาวินิจฉัย โฆษกป.ป.ช. ลั่นต้องหยุดปฏิบัติหน้าทันที เมื่อศาลฎีการับฟ้อง โวคดีแรกของนักการเมืองผิดจริยธรรม นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงข่าวชี้มูลนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณียึดถือครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ในบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตามที่กรมป่าไม้ได้ร้องทุกข์ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ให้ดำเนินคดีอาญากับนางสาวปารีณา ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ เป็นพื้นที่ 711 – 2 – 93 ไร่ และคำนวณค่าเสียหายเป็นตัวเงิน จำนวน 36,224,791 บาท โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาไต่สวนแล้วเห็นว่า การที่นางสาวปารีณา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของประชาชน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากความขัดกันแห่งผลประโยชน์ […]
รัฐสภา 10 ก.พ.-กมธ.กฎหมายฯสอบ”พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์” สร้างบ้านรุกแม่น้ำเจ้าพระยา ท้ากมธ.ปปช.ร่วมสอบ ขณะที่เจ้าตัวส่งคนแจงพร้อมคืนให้กทม. ทำประโยชน์สาธารณะ แต่ตำรวจยืนยันเป็นคดีอาญาแม้คืนต้องเอาผิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน มีนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาคำร้องของนายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ขอให้ตรวจสอบบ้านพักของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านสามเสนว่าเป็นการการก่อสร้างรุกล้ำเข้าสู่ลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ โดยได้มีการเชิญตัวแทนจากกรมป่าไม้, กรมเจ้าท่า, กองบังคับการตำรวจนครบาล, ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางโพ และสำนักงานเขตดุสิต เข้าชี้แจง ซึ่งดำเนินคดีนี้ได้มีการแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (บก.ทปส.) แล้วเมื่อปี 2552 หลังจากมีการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี2545 แต่เนื่องจากเป็นระยะนานเวลาคดีหมดอายุความแล้ว อัยการจึงมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ตรวจสอบวานนี้ (9ก.พ.)พบว่ามีการก่อสร้างเกินกว่าที่ขออนุญาตไว้เกิน 7 เมตร จึงได้แจ้งความดำเนินคดีรื้อคดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมป่าไม้และกรมเจ้าท่า ซึ่งตัวแทนกรมเจ้าท่า ในฐานะผู้อนุญาตยืนยันว่าได้แจ้งความเรื่องนี้ ต่อ สน.บางโพ ไปตั้งแต่ปีที่แล้วแต่คดีมีความล่าช้า เนื่องจากเข้าของพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือ ในการตรวจสอบ ด้านพันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ บุญพูล ผู้กำกับสอบสวน […]
ประชุมสภาฯหวิดล่มหลังฝ่ายค้านเห็นช่ององค์ประชุมก้ำกึ่งเกินแค่2คน เสนอนับองค์ประชุม เหตุไม่พอใจรัฐบาลขวางแก้ รธน.-จ้องล้มอภิปรายไม่ไว้วางใจ
รัฐสภา 10 ก.พ.-“พรรคฝ่ายค้าน”ชี้ “ไพบูลย์”เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐสภา หลังเสนอญัตติด่วนส่งศาลวินิจฉัยอำนาจยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจโยงสถาบัน เล็งยื่นสอบจริยธรรม และเตรียมแผนอภิปรายนอกสภาไว้รองรับ พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย ได้นัดประชุมหารือหลังนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎร มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาฯ ต่อกรณีที่เนื้อหาของญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ของพรรคฝ่ายค้านว่ามีเนื้อหาที่เข้าข่ายนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการเมือง นายสมพงษ์ กล่าวว่า ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ผ่านการตรวจสอบและวินิจฉัยความถูกต้องของประธานสภาฯเรียบร้อยแล้วและส่งให้รัฐบาลแล้ว แสดงให้เห็นว่าญัตติมีความถูกต้องเป็นไปตามข้อบังคับ จึงมองว่าการกระทำของนายไพบูลย์ เป็นการสมคบคิดทำลายระบอบประชาธิปไตย เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบของสภา ตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่นายไพบูลย์ทำต้องการหนีการตรวจสอบของสภาหรือไม่ เพราะขณะนี้เห็นได้ชัดว่าภายในพรรคร่วมเองก็มีความแตกแยก ด้านนายพิธา กล่าวว่า การยื่นญัตติของนายไพบูลย์ไม่ทำให้การอภิปรายเลื่อนออกไป เพราะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ถูกบรรจุตามวาระเรียบร้อยแล้ว การกระทำของนายไพบูลย์ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงการนำสถาบันมาเป็นโล่หรือเป็นเกราะป้องกันรัฐบาล ขออย่าวิตกหรือกังวลจนเกินเหตุ เพราะสภาฯมีข้อบังคับ เรื่องการพูดถึงสถาบันที่ชัดเจนอยู่แล้ว นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า กระกระทำของนายไพบูลย์ ถือเป็นการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อระบบรัฐสภา และฝากไปยังรัฐบาลไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดยั้งการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้านได้ […]