รัฐสภา 10 ก.พ.-ประชุมสภาฯ หวิดล่ม หลังฝ่ายค้านเห็นช่ององค์ประชุมก้ำกึ่งเกินแค่ 2 คน เสนอนับองค์ประชุม เหตุไม่พอใจรัฐบาลขวางแก้ รธน.-จ้องล้มอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (10 ก.พ.) มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาพระราชบัญญัติดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ส่วนใหญ่มีมติไปในทิศทางเดียวกันคือไม่มีการแก้ไขถ้อยคำ แต่มีการเพิ่มเติมถ้อยคำในมาตรา 3 ที่เกี่ยวกับการออกระเบียบการจัดสวัสดิการ ซึ่งตามร่างกฎหมายเดิม ข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง พนักงานราชการ และลูกจ้างของสำนักงานศาลปกครองในพื้นที่ศาลปกครองยะลา ไม่มีสวัสดิการและค่าตอบแทนพิเศษเช่นเดียวกับข้าราชการตุลาการศาลปกครองทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ผู้มาปฏิบัติงานในศาลปกครองยะลา กรรมาธิการจึงเห็นสมควรให้เพิ่มสวัสดิการ และค่าตอบแทนพิเศษแก่ข้าราชการตุลาการศาลปกครอง และข้าราชการฝ่ายปกครองจังหวัดยะลาและพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนใต้
ทั้งนี้ก่อนจะลงมติ ได้มีการตรวจสอบองค์ประชุมพบว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุม 246 คน จากจำนวนส.ส.ทั้งหมด 487 คน เท่ากับมีส.ส.ในห้องประชุมเกินกึ่งหนึ่งมาเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จึงเสนอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เพื่อตรวจสอบจำนวน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลว่าเข้าร่วมประชุมหรือไม่ และฝ่ายค้านขอวอล์คเอ้าท์ไม่ร่วมองค์ประชุมด้วย โดยให้เหตุผลว่าฝ่ายค้านให้ความร่วมมือมาโดยตลอดจนกระทั่งวานนี้เห็นว่าสภามีมติให้ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อีกทั้งยังมีการเสนอญัตติให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเท่ากับเป็นการขัดขวางจะไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงขอยืนยันให้นับองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการนับองค์ประชุมแบบขานรายชื่อแล้วพบว่าในที่ประชุมมีสมาชิกจำนวน 268 คน ถือว่าครบองค์ประชุมที่จะต้องมีสมาชิกจำนวน 244 คน จากนั้นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติในวาระที่ 3 ของร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ( ฉบับที่…) พ.ศด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 323 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 6 เสียง.- สำนักข่าวไทย