รัฐสภา 10 ก.พ.-กมธ.กฎหมายฯสอบ”พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์” สร้างบ้านรุกแม่น้ำเจ้าพระยา ท้ากมธ.ปปช.ร่วมสอบ ขณะที่เจ้าตัวส่งคนแจงพร้อมคืนให้กทม. ทำประโยชน์สาธารณะ แต่ตำรวจยืนยันเป็นคดีอาญาแม้คืนต้องเอาผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน มีนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาคำร้องของนายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ขอให้ตรวจสอบบ้านพักของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านสามเสนว่าเป็นการการก่อสร้างรุกล้ำเข้าสู่ลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ โดยได้มีการเชิญตัวแทนจากกรมป่าไม้, กรมเจ้าท่า, กองบังคับการตำรวจนครบาล, ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางโพ และสำนักงานเขตดุสิต เข้าชี้แจง
ซึ่งดำเนินคดีนี้ได้มีการแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (บก.ทปส.) แล้วเมื่อปี 2552 หลังจากมีการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี2545 แต่เนื่องจากเป็นระยะนานเวลาคดีหมดอายุความแล้ว อัยการจึงมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ตรวจสอบวานนี้ (9ก.พ.)พบว่ามีการก่อสร้างเกินกว่าที่ขออนุญาตไว้เกิน 7 เมตร จึงได้แจ้งความดำเนินคดีรื้อคดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมป่าไม้และกรมเจ้าท่า
ซึ่งตัวแทนกรมเจ้าท่า ในฐานะผู้อนุญาตยืนยันว่าได้แจ้งความเรื่องนี้ ต่อ สน.บางโพ ไปตั้งแต่ปีที่แล้วแต่คดีมีความล่าช้า เนื่องจากเข้าของพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือ ในการตรวจสอบ
ด้านพันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ บุญพูล ผู้กำกับสอบสวน บก.น.1 ยืนยันว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมป่าไม้ เพราะตามกฎหมายที่ดินที่ไม่ได้ขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินให้ถือเป็นที่ป่าไม้ทั้งหมด ในกรณีนี้จึงเป็นไปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนเพื่อได้ข้อสรุปในเดือนนี้ว่าสามารถดำเนินคดีนี้ใหม่ได้หรือไม่ เพราะเป็นคดีที่อัยการเคยสั่งไม่ฟ้องมาก่อน ยืนยันว่าหากพบมีความผิด จริง บก.น.1 จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ละเว้นใครทั้งนั้น
ด้านนายวิรัตน์ วรศะริน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ได้ขอเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการแทนพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ โดยเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ทางกรุงเทพมหานครได้แจ้งไปยังพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์แล้วว่า จะมีการทำถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ได้เซ็นยอมรับว่าจะยกพื้นที่ดังกล่าวคืนให้กับกรุงเทพมหานครแล้ว ยืนยันว่าพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ไม่ได้ต้องการยึดครองพื้นที่ดังกล่าวไว้เป็นของส่วนตัว และยินดีที่จะคืนเพื่อสาธารณประโยชน์
ทั้งนี้กรรมาธิการฯได้มีการซักถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยืนยันจะคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กับกรุงเทพมหานครจะส่งผลให้การดำเนินคดีจะต้องยุติไปด้วยหรือไม่
พันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินคดีทางอาญา แม้คืนให้สาธารณะประโยชน์แล้วการดำเนินคดียังต้องดำเนินคดีต่อไปโดยไม่มีการยกเว้น
ด้านนายสิระ แถลงภายหลังการประชุมว่าที่ประชุมได้มีมติ เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ให้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการ ด้วยตัวเองในการประชุมครั้งหน้า เพราะมีการแจ้งความกล่าวหาเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน แต่การดำเนินคดีกลับล่าช้าเนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญ ประกอบกับกทม. ยืนยันว่าไม่เคยมีการอนุญาตจาก กทม. ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สร้างท่าเทียบเรือได้ จึงขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในฐานะ ประธานกรรมาธิการ ปปช. ไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดทุจริตต่อหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าของบ้านหลังนี้หรือไม่
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้ขอให้ กรมป่าไม้และกรมเจ้าท่า ไปตรวจสอบ เพิ่มเติม การก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำใกล้เคียงกับบ้านหลังดังกล่าวด้วยว่าขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เพราะมีการนำกระถางต้นไม้ที่มีตราโล่ของ สตช.จำนวนมากไปวางไว้.- สำนักข่าวไทย