เปิดตัว“e-QLands”จองคิวทำธุรกรรมที่ดินออนไลน์ผ่านมือถือ

กระทรวงมหาดไทย 3 ก.พ.- กระทรวงมหาดไทยเปิดตัว “e-QLands” จองคิวทำธุรกรรมที่ดินล่วงหน้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ เอำนวยความสะดวกประชาชนตามชีวิตวิถีใหม่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดตัวแอปพลิเคชัน “e-QLands” ระบบจองคิวยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การรังวัดล่วงหน้า สำนักงานที่ดินทั่วประเทศทางระบบอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ‹ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ประชาชนสามารถเลือกวัน เวลา และสำนักงานที่ดินที่ต้องการมาทำธุรกรรมได้ ซึ่งจะทำให้ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่สามารถบริหารจัดการเวลาที่จะไปรับและ ให้บริการได้ตามความสะดวกและเหมาะสม มีช่องทางเพิ่มขึ้นในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินก่อนจะเข้ามาใช้บริการ และสามารถส่งเอกสารผ่านระบบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ล่วงหน้า พร้อมทั้งรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อลดระยะเวลาการรอคิวของประชาชน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีประชาชนเข้ามารับบริการที่สำนักงานที่ดินทั่วประเทศ กว่า 13 ล้านรายต่อปีซึ่งแอปพลิเคชัน e-QLands ของกรมที่ดินนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถจองคิวล่วงหน้าเพื่อยื่นคำขอจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินได้ทั่วประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและให้บริการประชาชนในรูปแบบดิจิทัล (Digital Service) เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลรวมทั้งเป็นการลดความแออัดป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19.-สำนักข่าวไทย

ต้องรอออกแนวทางแก้ปัญหาเบี้ยผู้สูงอายุ

“พล.อ.อนุพงษ์”แจงต้องรอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ออกระเบียบแก้ปัญหาคืนเบี้ยผู้สูงอายุก่อนจึงดำเนินการแก้ปัญหาเบี้ยสูงอายุได้ เชื่อทุกคนพึงพอใจ

ปรับเกณฑ์โครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน”

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-นายกฯ กำชับทุกกระทรวงเร่งแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมปรับเกณฑ์เราเที่ยวด้วยกัน ให้ครอบคลุมผู้รับสิทธิตั้งแต่ 1 ธ.ค. 63 สนับสนุนประชาชนให้ความร่วมมือลดเดินทางช่วงโควิดระบาดระลอกใหม่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือภาครัฐในการควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)  ล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ปรับเกณฑ์เงื่อนไขรายละเอียดของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และให้ครอบคลุมผู้ได้รับสิทธิที่ได้จองที่พักตามโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 ด้วยซึ่งการปรับเกณฑ์ดังกล่าวได้รายงานให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ทราบแล้ว ทั้งนี้การปรับเกณฑ์เป็นการให้ผู้ใช้สิทธิตามโครงการฯ เลื่อนการเดินทางออกไปได้จนถึงเดือนเม.ย. 2564 เฉพาะผู้ที่มีการจองที่พักช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2564 เท่านั้น “เกณฑ์ที่ปรับเพิ่มเติมนี้จะครอบคลุมผู้จองห้องพักตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่การเลื่อนการเข้าพักจะต้องไม่เกินระยะเวลาสิ้นสุดโครงการคือวันที่ 30 เม.ย. 2564 ส่วนเกณฑ์อื่นๆให้ยึดรายละเอียดตามที่ได้ปรับปรุงตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2564”น.ส.ไตรศุลี กล่าว น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ ททท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือกับกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการเปลี่ยนหลักเกณ์และเงื่อนไขรายละเอียดของโครงการฯ ให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์และมติ […]

เพื่อไทยโยน”ชวน”ตัดสินแก้ญัตติไม่ไว้วางใจหรือไม่

รัฐสภา 27 ม.ค.- เพื่อไทย มั่นใจญัตติซักฟอกสมบูรณ์ พุ่งเป้านายกฯ ไม่โยงสถาบัน โยน “ชวน” วินิจฉัย แก้หรือไม่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการประสานกับประธานสภาให้แก้ไขญัตติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ออกมาแสดงความกังวล และจี้ให้พรรคฝ่ายค้านแก้ไขญัตติที่มีส่วนเชื่อมโยงกับสถาบัน พร้อมย้ำว่าหากพิจารณาจากญัตติ จะเห็นชัดว่าเป็นการกล่าวหานายกรัฐมนตรี และในการอภิปรายทุกคนจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาผู้แทนราษฎร จะควบคุมการอภิปรายอยู่แล้ว  ทั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ได้หารือกันในประเด็นนี้ก่อนเสนอยื่นญัตติ และพูดคุยกันว่าจะต้องใช้ความระมัดระวังในประเด็นดังกล่าวที่หลายฝ่ายไม่สบายใจ ส่วนจะแก้ไขหรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้วินิจฉัย แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าญัตติมีความสมบูรณ์อยู่แล้ว.- สำนักข่าวไทย      

เตรียมลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดเหลือจังหวัดเดียว

ทำเนียบ 27 ม.ค. -ศบค.ชุดเล็ก เตรียมชงลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ “สมุทรสาคร” จังหวัดเดียว ขณะที่ กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี ยังคงเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดเช่นเดิม เตรียมเสนอเปิดเรียนเกือบทั้งหมด นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวันตอนหนึ่งเกี่ยวกับการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) หรือ “ศบค.ชุดเล็ก” ว่าได้หารือถึงการปรับลดเขตพื้นที่ความเข้มข้นของมาตรการหรือผ่อนปรนอนุญาตให้สามารถดำเนินกิจกรรม หรือกิจการบางอย่างที่ไม่เสี่ยงหรือมีความเสี่ยงต่ำต่อการแพร่ระบาดได้หรือไม่ รวมถึงการขยายเวลาการนั่งรับประทานอาหารในร้าน การดื่มเครื่องที่แอลกอฮอล์ภายในร้าน การเล่นดนตรีสดในร้าน และการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน และสถานศึกษา นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าเบื้องต้น ศบค.ชุดเล็ก มีข้อเสนอพื้นที่ผ่อนคลายการใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ (เน้นพื้นที่ควบคุม) ใช้รูปแบบมีจังหวัดแนวกันชนกับจังหวัดที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อไปพื้นที่อื่น โดยยังกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ,พื้นที่ควบคุมสูงสุด , พื้นที่ควบคุม , พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวังเช่นเดิม ส่วนจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อหรือจำนวนน้อย และรายอำเภอมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด อาจพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการควบคุมตามเกณฑ์รายอำเภอได้ คือในแต่ละจังหวัดไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันทั้งหมด นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า เมื่อตรวจสอบจากพื้นที่จังหวัดที่มีการแพร่ระบาดในปัจจุบันพบ 63 จังหวัด […]

ย้ำฝ่ายค้านไม่แก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐสภา 27ม.ค.-“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” อัดรัฐบาลตีรวน ย้ำฝ่ายค้านไม่แก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ตามข้อบังคับพูดถึงสถาบันได้เท่าที่จำเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องการให้พาดพิงสถาบันว่าการเขียนญัตติต้องไปถามผู้นำฝ่ายค้าน เพราะได้รวบรวมข้อมูลจากทุกพรรคมาเขียนญัตติ แต่ในส่วนของพรรคเสรีรวมไทยไม่มีเรื่องสถาบันมาเกี่ยวข้อง และการออกมาพูดของพรรครัฐบาลที่ห้ามพาดพิงสถาบันถือเป็นการตีรวน ทั้งที่ไม่มีสิทธิมาแก้ญัตติของฝ่ายค้านที่ได้ยื่นไปแล้ว และตามข้องคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ห้ามพูดถึงสถาบันโดยไม่จำเป็น หมายความว่าพูดได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ต้องหลีกเลี่ยง ไม่มีใครไปให้ร้ายโจมตีสถาบัน พวกตนก็เคารพเทิดทูน “ญัตติที่ยื่นไปแล้วไม่ควรและไม่จำเป็นที่ต้องแก้ไข ขอให้รอดูตอนอภิปราย ถ้าอภิปรายไม่เหมาะสมก็สามารถคัดค้านและประท้วงได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องพูดก็พูดได้ เช่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้ว ผมพูดเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ซึ่งต้องถวายสัตย์ต่อพระมหากษัตริย์ก็เป็นเรื่องที่พูดได้ เพราะเราไม่ได้ไปว่าร้ายพระมหากษัตริย์ แต่ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยที่ฝ่ายรัฐบาลหยิบยกขึ้นทาทำลายน้ำหนักของฝ่ายค้าน” พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย     

หวั่นม็อบประท้วงฝ่ายค้านหน้าสภา

กรุงเทพฯ 27 ม.ค. -“สุภรณ์”เตือน”ฝ่ายค้าน” ประชาชนรับไม่ได้แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ไม่ควรดึงสถาบันกษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง หวั่นมีม็อบปกป้องสถาบันไปประท้วงหน้าสภา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ามีประชาชนจำนวนมากรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรื้อหากล่าวหา เป็นรายบุคคลที่มีการกล่าวหาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงแต่สิ่งที่ความรู้สึกวิตกกังวลและอึดอัดใจมากที่สุด คือการที่พรรคฝ่ายค้านได้เขียนญัตติในประเด็นที่เชื่อมโยงกับสถาบัน ทั้งที่ประชาชนในประเทศไทยทราบดีว่าพล.อ.ประยุทธ์มีความจงรักภักดีปกป้องสถาบันฯมาโดยตลอด “มีประชาชนฝากถึงฝ่ายค้านต้องการให้ฝ่ายค้านถอนญัตติออกเสีย และยื่นเข้ามาใหม่ให้มีเนื้อหาที่เป็นข้อเท็จจริงและอย่าได้เอาสถาบันมาเกี่ยวข้องเด็ดขาด เพราะในการอภิปราย อาจจะมีส.ส.พรรคฝ่ายบางคนที่รับงานมาจากคนที่คิดล้มล้างสถาบัน อภิปรายพาดพิงเอาเรื่องสถาบันมาโจมตี จาบจ้วง ก้าวล่วง ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นประชาชนที่ปกป้องสถาบันอาจออกมาชุมนุมหน้าสภาฯประท้วงฝ่ายค้านขึ้นมาอีก ตนไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น อยากเห็นบรรยากาศการอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์รุนแรงหน้าสภาเกิดขึ้น ตนคิดว่าฝ่ายค้านควรฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ควรทบทวนญัตติดังกล่าว”นายสุภรณ์ ส่วนการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายสุภรณ์กล่าวว่าทีมงานของกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี จะจัดตั้งทีมงาน “วอร์รูมนอกสภา” ประมาณ 15 คน มีทั้งอดีตรัฐมนตรีและอดีตส.ส.ตลอดจนมือกฎหมายอาชีพ คาดว่าจะเชิญทั้ง15 คน มาร่วมประชุมปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมภายในอาทิตย์หน้า โดยการทำงานของทีม “วอร์รูมนอกสภา” จะคอยชี้แจงตอบโต้ในประเด็นที่มีการกล่าวหา ใส่ร้ายนายกรัฐมนตรีในเรื่องไม่เป็นความจริง.- สำนักข่าวไทย

ประสานแก้ไขญัตติฝ่ายค้านโยงสถาบัน

“ชวน” ไม่ขอวิจารณ์ญัตติฝ่ายค้าน ยอมรับรัฐบาลประสานให้แก้ไขหลังโยงสถาบันมาเกี่ยวข้อง รอตรวจสอบก่อนพิจารณาส่งแก้ไขหรือไม่

“วิษณุ” ยังลุ้น ชี้คดี “ลุงพล” ยิ่งกว่าละคร

ทำเนียบ 20 ม.ค.- “วิษณุ” บอกคดี “ลุงพล” ยิ่งกว่าละคร ผี-เทวดาเข้าทรง-พญานาคมาหมด ไม้ตะเคียนก็ดันปลอม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหยอกล้อกับสื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงคดีของนายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล ว่า “นึกว่าวันนี้จะถามเรื่องลุงพล” จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ติดตามเรื่องราวของ ลุงพล ด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หัวใจสลายไปแล้วตั้งแต่ดูรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า คดีนี้ใกล้ปิดแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่รู้ ผมไม่รู้ ลุ้นต่อ แต่ผมเลิกลุ้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว เพราะไม่จบเรื่อง มันยิ่งกว่าละครอีก เหมือนงิ้ว ผีก็มา เทวดาเข้าทรง พญานาค ไม้ตะเคียนก็ตะเคียนดันปลอมอีก เมื่อคืนก็บังเอิญเปิดไปดูแล้วผมก็ปิดไปดูช่องอื่น แต่ก็เห็นมีข่าวนี้ทุกช่อง ยอมรับว่า คดีของลุงพล สะท้อนหลายประเด็นในสังคม เป็นบทเรียนสำคัญให้กับประชาชน.- สำนักข่าวไทย      

1 14 15 16 17 18 22