สรุปข่าวสั้น ทันโควิด-19 (23 พ.ย. 63)
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,920 ราย หายป่วยแล้ว 3,766 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,920 ราย หายป่วยแล้ว 3,766 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย
กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – เอไอเอสเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ อาชญากรหลอกให้ใช้บัตรประชาชนซื้อมือถือ แล้วนำไปขายต่อเสี่ยงโดนข้อหาฉ้อโกง นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า พบว่า มีทั้งกลุ่มที่โดนหลอกลวง และกลุ่มที่จงใจใช้บัตรประชาชน ซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือพร้อมแพ็กเกจ จากนั้นนำเครื่องโทรศัพท์ไปแยกขายต่อ โดยไม่มีการชำระค่าบริการตามเงื่อนไขในสัญญา ซึ่งบริษัทฯกังวลถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในภาพรวมและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของประชาชนที่ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้น รวมถึง ความเสี่ยงของผู้ที่ซื้อเครื่องต่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่อาจจะเข้าข่ายรับซื้อของโจรด้วยจึงขอแจ้งเตือนผู้ที่อาจหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของการกระทำ หรือ จงใจกระทำการดังกล่าวข้างต้นว่า การก่อเหตุในลักษณะนี้ เจ้าของบัตรประชาชนที่ทำสัญญาซื้อเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็กเกจจะมีความผิด โดยมีบทลงโทษฐานฉ้อโกง มาตรา ๓๔๑ โทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงการมีชื่อติด Black List ในระบบ ส่งผลให้ในอนาคตจะมีปัญหาในการทำธุรกรรมกับค่ายมือถือ ซึ่งปัจจุบันมีระบบตรวจสอบอย่างเข้มข้น อีกทั้งในส่วนของผู้ที่รับซื้อเครื่องต่อไป จะเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร มาตรา ๓๕๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทฯจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฏหมายขั้นสูงสุดกับผู้กระทำผิดทุกราย โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำไปยังทุกท่านว่า อย่าหลงเชื่อ และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไปดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง อีกทั้งท่านที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือ ก็ขอให้ตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะอาจมีความเสี่ยงทั้งคุณภาพของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับประกันและผิดกฏหมายอีกด้วย” นางสายชล กล่าว-สำนักข่าวไทย.
ครม.เห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบางซื่อระหว่างหน่วยงานของไทยกับญี่ปุ่น เดินหน้าสู่การปฏิบัติให้เป็นเมืองอัจฉริยะ
ทำเนียบฯ 23 พ.ย.- นายอนุชา บูรพาชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นชอบจัดงานวันชาติ วันพ่อ และวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ระหว่างวันที่ 1-6 ธันวาคม 2563 โดยใช้สถานที่บริเวณหน้ากระทรวงกลาโหม ถนนสนามไชย ทำเนียบองคมนตรี สวนสราญรมย์ มิวเซียมสยาม และเปิดวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดราชประดิษฐ์ และวัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.30 น. โดยรายละเอียดจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง.- สำนักข่าวไทย
กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวันนี้ว่า จะตอบโต้กรณีนายทหารเรือสหรัฐเยือนไต้หวัน และขอคัดค้านอย่างแข็งขันเรื่องที่สหรัฐและไต้หวันมีความสัมพันธ์ทางทหาร
“หมอทศพร” นำ ผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมหน้ารัฐสภา เหตุปะทะแยกเกียกกาย จี้รัฐหยุดใช้ความรุนแรง เพื่อไทยเปิดศูนย์ช่วยเหลือ ทั้งทางคดีและร่างกาย
ครม.รับทราบข้อสังเกต กมธ.CPTPP มอบ “ดอน” หารือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรี เผย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโฉนดที่ดิน ให้ส่วนราชการ-สถาบันการศึกษา ยันไม่มีย้ายอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
ผลการทดลองขนาดใหญ่ชี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษพัฒนาร่วมกับบริษัทแอสตราเซนเนกาสามารถยับยั้งไม่ให้อาสาสมัครเกิดอาการของโรคโควิด-19 ได้ร้อยละ 70
นายกฯ เผย ครม.ยังไม่พิจารณาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว รอมหาดไทยทำความเห็นเพิ่มเติม ย้ำต้องยึดผลประโยชน์ประชาชน
“อนุทิน” ยันไม่มีส้มหล่นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ย้ำ ภท.ยังหนุน “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรี
ฮ่องกงพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 73 คนในวันนี้ มากที่สุดในรอบสามเดือน ขณะที่ทางการเตือนว่า อาจต้องเข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอีก