![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/09/chuan-17-Sep-20-9-18-23-AM-1-685x360.jpg)
มั่นใจ ม็อบชุมนุมรัฐสภาไม่ก่อเหตุรุนแรง
เชื่อ เป็นผู้ใหญ่เข้าใจระบอบ ปชต.
เชื่อ เป็นผู้ใหญ่เข้าใจระบอบ ปชต.
กรุงเทพฯ 22 ก.ย. รมว.ดิจิทัลฯ สั่งสำนักงานสถิติแห่งชาติ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลแก้ปัญหาเร่งด่วนให้ประชาชนใน 1 เดือน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการจัดระบบสถิติประเทศไทย 3 ด้าน ครั้งที่ 1/2563 ว่า วันนี้ (22 ก.ย.) ได้อนุมัติแผนแม่บทระบบสถิติประเทศไทย ฉบับที่2 ซึ่งเป็นแผนเดิม มีกรอบระยะเวลาการทำงาน ตั้งแต่ปี 2559-2564 ตามกำหนดเดิมจะเสร็จปีหน้า โดยได้ กำชับ สำนักงานสถิติแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการเก็บข้อมูลสถิติประชาชน จะต้องทำงานหนัก เรื่องการจัดเก็บข้อมูลสถิติ ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานให้รวดเร็ว สอดรับกับสถานการณ์โควิด-19 เพื่อสามารถสนับสนุนข้อมูลของประชาชน ให้ภาครัฐ และนโยบายต่างๆ ที่จะลงไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ตอบโจทย์ปัญหาได้ถูกต้อง เพื่อประหยัดงบประมาณ และวัดผลได้จริง เนื่องจากข้อมูลเก่า ถือว่าไม่ทันต่อสถานการณ์แล้ว ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ จัดกลุ่มเป้าหมายในการลงไปสำรวจข้อมูล ระยะเร่งด่วน ใน 5 เรื่องก่อนเป็นอันดับแรกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด19 เช่น ตัวเลขคนว่างงาน คนที่ตกงาน แล้วย้ายถิ่นฐานกลับไปอยู่ตามภูมิลำเนา, ข้อมูลกลุ่มเกษตรกรที่ประสบปัญหา และอีก 3 กลุ่ม ให้ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติ ลงไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปออกมา ก่อนจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลสถิติ โดยเก็บในระบบดิจิทัลทั้งหมด ให้เวลา ภายใน 1 เดือน กลับมารายงานว่า 5 กลุ่มนี้มีใครบ้าง จะช่วยกลุ่มใดบ้างที่จะได้รับประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดจะถูกรวบรวมข้อมูลไว้ใน Big Data ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในที่เดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติได้เตรียมแอปพลิเคชั่นแพลตฟอร์มเพื่อรองรับข้อมูลไว้แล้ว ไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่เนื่องจากมีหลายหน่วยงานยังไม่ส่งข้อมูลให้ จึงต้องเร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เชื่อว่าหลังจากนี้ ไม่เกิน 3 เดือน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจนว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติสามารถตอบโจทย์ สนุนสนุนข้อมูลได้ทุกหน่วยงานอย่างแน่นอน-สำนักข่าวไทย.
22 ก.ย. – แจ้งจับรับเงิน รวม 4 ช่องทาง คนแจ้งเบาะแสได้ส่วนแบ่งค่าปรับ แจ้งเบาะแส #ขายของออนไลน์ไม่แจ้งราคา ในโพสต์ ให้ Inbox ถาม ปรับ 10,000 บาท ส่วนผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับสินบนนำจับ 25% หลักฐานที่ต้องเตรียมนั้น ได้แก่ ข้อความที่พูดคุยกัน, การแจ้งราคาทางอินบ็อกซ์ รวมถึงบัญชีธนาคารของคนขาย เพื่อความสะดวกต่อการนำจับ ► https://tna.mcot.net/pick-544822 แจ้งเบาะแส #ทิ้งซากรถ บนถนน หรือที่สาธารณะ ถูกปรับ 5,000 บาท คนแจ้งได้ 2,500 บาท ► https://tna.mcot.net/social-521735 แจ้งเบาะแส #จับเด็กแว้น รับไปเลยคดีละ 3,000 บาท ► https://tna.mcot.net/tna-341553 แจ้งเบาะแส #ขี่จยยบนทางเท้า ถูกปรับ 5,000 บาท คนแจ้งได้ 2,500 บาท ► […]
กทม. 22 ก.ย. 63 – อบก. รณรงค์ช่วยลดโลกร้อนผ่านการซื้อสินค้าที่มีฉลากคาร์บอน องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ฉลากคาร์บอนแก่ประชาชนผู้บริโภค โดยร่วมกับเทสโก้ โลตัส ซึ่งจะร่วมกันประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ฉลากคาร์บอน แก่ประชาชนผู้บริโภค ให้ประชาชนผู้บริโภครู้จักฉลากคาร์บอน และเห็นความสำคัญของการเลือกซื้อสินค้าที่ติดฉลากคาร์บอน โดย อบก. ได้พัฒนาฉลากคาร์บอน 2 รูปแบบ ได้แก่ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFP และฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFR หรือ ฉลากลดโลกร้อน ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียนที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล สำหรับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เป็นฉลากที่ระบุตัวเลขค่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรชีวิต และการติดฉลากบนตัวสินค้าถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ผลิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าที่ใส่ใจเรื่องโลกร้อน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองกับ อบก. ทั้งสิ้น 4,237 ผลิตภัณฑ์ จาก 618 บริษัท รวมทั้งหากผู้บริโภคซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากลดโลกร้อน หรือฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เท่ากับช่วยลดโลกร้อนไปด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองกับ อบก. 674 ผลิตภัณฑ์ จาก 90 บริษัท สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ […]
เรือนจำกลางราชบุรี พัฒนาสถานที่ฝึกอบรมวิชาชีพผู้ต้องขังเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในชื่อ Cook & Coff
สวนสัตว์สงขลา เอาใจแรดขาวตัวเดียวของสวนสัตว์ เนื่องในวันแรดโลก จัดบุฟเฟ่ต์อาหารให้ ต่อด้วยการเกาหลังแรดด้วยแปรงขนนุ่ม
รัฐสภา 22 ก.ย.-“ไพบูลย์” ขู่ฟ้องอาญา ม.157 เลขาธิการสภาฯ เหตุละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตีตกญัตติที่ขอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าญัตติที่ตนยื่นให้ตรวจสอบ 4 ญัตติของพรรคฝ่ายค้านที่มีการลงชื่อซ้ำกันว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ถูกตีตกไปนั้น ส่วนตัวมีความไม่สบายใจ เพราะมีกระบวนการในการพยายามไม่ให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ในรัฐสภา “เมื่อเลขาสภาฯ มีการอ้างข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ผมกลับไปตรวจสอบพบปัญหาเรื่องความชอบตามกฎหมาย เพราะกฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำเนินการและปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่ของรัฐสภาได้ ประกอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้ว ภายหลังได้มีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภาฯ จึงอยู่ในอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยได้ ดังนั้น การที่เลขาสภาฯ มากล่าวว่าไม่สามารถบรรจุญัตติของผมได้ เพราะมีปัญหาทางกฎหมาย อาจเป็นการทำให้ตนเองเสียหายและเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หากญัตติของผมไม่ได้รับการบรรจุเข้าสภาฯ จะดำเนินการฟ้องคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเพื่อรักษาความชอบด้วยกฎหมายต่อไป” นายไพบูลย์ กล่าว นายไพบูลย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในการประชุมรัฐสภาวันนี้ (23 ก.ย.) ส่วนตัวจะนำเรื่องความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 4 ฉบับนี้เข้าหารือในที่ประชุมด้วย.-สำนักข่าวไทย
เตรียมเอาผิด “พีระวิทย์” หาย ส่งลูกน้องรับหน้า ไม่มีอำนาจเปิดเซฟ
-แม่ค้าออนไลน์ ควรรู้ไว้! ขายของออนไลน์ไม่แจ้งราคาในโพสต์ ให้ Inbox ถาม ปรับ 10,000 บาท ส่วนผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับสินบนนำจับ 25% ของค่าปรับ เช่น หากโทษปรับ 10,000 บาท ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินส่วนแบ่ง 2,500 บาท
รองนายกรัฐมนตรีของสเปนเผยว่า รัฐบาลสเปนเห็นชอบกับสหภาพแรงงานและผู้นำธุรกิจในการให้นายจ้างชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างทำงานจากบ้านให้แก่ลูกจ้าง
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ประเทศไทย ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,511 ราย หายป่วยแล้ว 3,343 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย
ไอลอว์ นำรายชื่อกว่า 1 แสนรายยื่นสภาฯ แก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จี้ ประธานสภา บรรจุเข้าการพิจารณา 23 -24 ก.ย.นี้ ย้ำการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นทางออกของประเทศ