ญี่ปุ่นเตรียมส่งออกอาวุธให้เวียดนาม
ญี่ปุ่นเตรียมลงนามข้อตกลงส่งออกยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีกับเวียดนาม ที่ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งด้านการป้องกันของกลุ่มประเทศอินโด-แปซิฟิก
ญี่ปุ่นเตรียมลงนามข้อตกลงส่งออกยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีกับเวียดนาม ที่ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งด้านการป้องกันของกลุ่มประเทศอินโด-แปซิฟิก
เจ้าหน้าท่ี่เร่งทำความสะอาด รั้วและป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังกลุ่มแนวร่วมคณะราษฎร สาดสีแสดงเชิงสัญลักษณ์ให้ปล่อยตัวแกนนำและผู้ชุมนุมทั้ง 21 คน
ธนาคารโลกอนุมัติงบประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 374,552 ล้านบาท) ช่วยประเทศกำลังพัฒนาจัดซื้อและจัดสรรวัคซีน
แอปเปิลเปิดตัวไอโฟน 12 (iPhone 12) โทรศัพท์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมการเชื่อมต่อ 5G ที่เร็วขึ้น
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นวอลสตรีทปรับตัวลดลง หลังมีการระงับการศึกษาเรื่องวัคซีนโควิด
ฝรั่งเศสมีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงใกล้จะใช้มาตรการจำกัดใหม่
แคลฟอร์เนีย 13 ต.ค. สิ้นสุดการรอคอย แอปเปิล เปิดตัว iPhone 12 4 รุ่น ชูเทคโนโลยีรองรับ 5G นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอปเปิล ประกาศเปิดตัวไอโฟน 4 รุ่นที่มาพร้อมกับคุณสมบัติรองรับการสื่อสารด้วยเทคโนโลยี 5 G ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูง มีความหน่วงต่ำ ใช้ตัวประมวลผล Apple A14 Bionic ออกแบบบนสถาปัตยกรรมแบบ 5 นาโนเมตร ทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ประหยัดพลังงานมากขึ้น แอปเปิลมั่นใจว่า iPhone 12 จะมีความเร็วในการประมวลผลมากกว่าสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวก่อนหน้าถึงร้อยละ 50 และด้วยการออกแบบและเลือกใช้ตัวประมวลผลใหม่ ที่จะมาพร้อมกับแมชชีนเลิร์นนิ่งจะช่วยให้การแสดงผลภาพดีขึ้น ด้วยการจดจำและวิเคราะห์การแสดงผลที่ดีกว่าเดิมร้อยละ 70 ส่วนการถ่ายภาพ iPhone 12 มากับกล้อง 2 ตัว คือ Ultra Wide 12 ล้านพิกเซลขนาดรูปรับแสง f/2.4 เลนส์ระยะ 13 มม.และ Wide รูรับแสง f/1.6 เลนส์ระยะ 26 มม. ถ่ายภาพในที่แสงน้อยและถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น โดย iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นคือ iPhone 12 iPhone 12 mini iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max -สำนักข่าวไทย
สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส แถลงยืนยัน “คริสเตียโน โรนัลโด” กองหน้ากัปตันทีมติดเชื้อโควิด-19 โดยระบุว่า ดาวเตะวัย 35 ปี ไม่ได้แสดงอาการป่วย และได้แยกตัวออกจากทีมเรียบร้อย
MCOT SPORT MOBA : 13 ต.ค 63
ชลบุรี 12 ต.ค.63 – โครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบ ในพื้นที่ EEC เริ่มลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง เพื่อพัฒนาท้องถิ่น และEEC ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โครงการบัณฑิตอาสาต้นแบบในพื้นที่ EEC จากความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กรมการพัฒนาชุมชน และมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง สร้างเสริมทักษะความสามารถ และประสบการณ์การทำงานให้กับบัณฑิตจบใหม่ โดยผ่านการเรียนรู้และได้ปฏิบัติจริงร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ซึ่งหลังจากที่บัณฑิตอาสาต้นแบบ ได้ผ่านการอบรมจากที่วิทยาลัยพัฒนาชุมชน ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนจบหลักสูตร ได้แยกย้ายลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริงพัฒนาชุมชนของตนเองในพื้นที่ 3 จังหวัดของ EEC คือ ฉะเชิงเทราชลบุรี และระยอง เช่น บัณฑิตอาสาอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ที่ได้เริ่มศึกษาตำบลในพื้นที่อำเภอเมืองทุกตำบล เพื่อนำข้อมูลตำบลในอำเภอเมืองมาวิเคราะห์ และจัดทำข้อมูลพื้นฐานของตำบล โดยมีพัฒนาการอำเภอคอยให้คำแนะนำ นางสาวชนิดาภา แก้วจันทร์ บัณฑิตอาสาอำเภอบ่อทอง บอกว่า ได้เริ่มเรียนรู้ปรึกษา และวางแผนกับพัฒนาการอำเภอและพัฒนากร เพื่อคัดเลือกตำบลที่จะศึกษา และคัดเลือกพื้นที่ที่จะเก็บข้อมูลผู้นำชุมชน ด้านนายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดระยอง มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพื้นจังหวัดระยองให้กับบัณฑิตอาสาต้นแบบ ก่อนจะส่งตัวบัณฑิตอาสา 13 คน ลงพื้นที่ปฏิบัติงานใน 7 อำเภอ เช่นที่อำเภอบ้านฉาง รับมอบหมายงานและขอบเขตในการทำงานของแต่ละสัปดาห์ จากพัฒนาการอำเภอบ้านฉาง เป็นต้น ทั้งนี้บัณฑิตอาสาต้นแบบ จะปฏิบัติงานในท้องถิ่นของตนเอง 85 วัน หรือกว่า 3 เดือน คอยแนะนำข้อมูลที่สำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงในการวางแผนพัฒนาชุมชน ยกระดับรายได้ของประชาชนในพื้นที่ EEC ทำให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขอนแก่น 12 ต.ค.63 – เอนก ดัน ม.ขอนแก่น เป็นผู้นำการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของอินโดจีน พร้อมยกระดับมาร์เก็ตเพลส มหาวิทยาลัยสร้างมูลค่าเพิ่ม 3 แสนล้านบาท ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) กล่าวว่า จากการประชุมเชิงนโยบายร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) จ.ขอนแก่น ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดําเนินงานโครงการจ้างงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด – 19 และโครงการยกระดับ เศรษฐกิจและสังคมรายตําบล แบบบูรณาการ หรือโครงการ 1 ตําบล 1 มหาวิทยาลัย โดยภาคอีสานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ทั้งในด้านขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดของไทย และมีความสำคัญเชิงภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมีพรมแดนติดกับลาวและกัมพูชา และอยู่ใกล้เวียดนามและจีน สำหรับประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม หรือกลุ่ม CLMV โดยพร้อมผลักดันให้ มข. เป็นผู้นำด้านการอุดมศึกษาในภูมิภาค สอดคล้องกับความร่วมมือจากประเทศจีน ที่เห็นว่าจ.ขอนแก่น และภาคอีสานมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจาก 1.ระบบรางรถไฟจากจีนเชื่อมสู่ภาคอีสาน และ 2. การเดินทางทางอากาศ คือ เครื่องบิน จากเมืองสำคัญของจีนในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไทยผ่านภาคอีสานมากกว่าภาคเหนือ ในส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกา เห็นความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของภาคอีสาน ในการตั้งฐานทัพสหรัฐฯ เพื่ออยู่ใกล้ลาว กัมพูชา และจีน ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาคอีสาน ในเชิงการเมืองยุคปัจจุบัน หากอีสานขยับประเทศไทยก็เขยื้อน ขอให้มหาวิทยาลัยในภาคอีสานขยับ นำให้เกิดความภูมิใจในภาคอีสาน เป็นอีสานใหม่ที่มีคนเก่ง มีความรู้ทางวิชาการ พัฒนาประเทศไทยในอนาคต ทั้งนี้ยังมีนโยบายให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งเป็นหน่วยเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ (University as Marketplace) งบประมาณ อว. 150,000 ล้านบาท ร่วมกับกำลังซื้อของบุคลากรและนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ประมาณ 150,000 ล้านบาท เป็นกำลังซื้อรวมถึง 300,000 ล้านบาท หากจัดให้มีระบบการซื้อสินค้าอย่างมีเป้าหมาย จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนานวัตกรรมได้ เช่น ให้มหาวิทยาลัยซื้อสินค้านวัตกรรมของมหาวิทยาลัย ขณะที่ อว.ยังมีหน่วยงานวิทยาศาสตร์ มีเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องฉายแสงซินโครตรอน เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ สามารถใช้เป็นจุดดึงดูดคนเก่งทั่วโลกให้มาทำงานในประเทศไทย
กทม. 12 ต.ค.63-จิสด้า จับมือกรมเจ้าท่า ร่วมพัฒนานวัตกรรมระบบขนส่งทางน้ำ ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับ กระทรวง อว. กรมเจ้าท่า และกระทรวงคมนาคม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการ และพัฒนานวัตกรรมในการกํากับดูแลและพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำ ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อร่วมมือกันในการศึกษา พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการกำกับดูแลและพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำณ ท่าเทียบเรือกรมเจ้าท่า กรมเจ้าท่า เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า GISTDA และกรมเจ้าท่า จะนำความเชี่ยวชาญด้านบุคลากรและเทคโนโลยี นวัตกรรม นำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาใช้ เพื่อการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ในด้านการบริหารจัดการขยะและมลพิษทางน้ำ ,ด้านการบริหารการกัดเซาะชายฝั่ง ,ด้านการกำกับดูแลการรุกล้ำลำน้ำ ,ด้านการบริการจัดการผักตบชวา เป็นการส่งเสริมภารกิจทางด้านการกำกับและดูแลระบบขนส่งทางน้ำ และสร้างทักษะองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ นำไปสู่การพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของการทำงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับประเทศ นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่า มีภารกิจกี่ยวกับการกํากับดูแล การส่งเสริม การพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำและการพาณิชยนาวี ให้มีการเชื่อมต่อกับระบการขนส่งอื่น ๆ ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าท่าเรือ อู่เรือ กองเรือไทยและกิจการเกี่ยวเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็ว ทั่วถึง และปลอดภัย ตลอดจนการสนับสนุนภาคการส่งออกให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งการลงนามร่วมกันในครั้งนี้ กรมเจ้าท่า ได้เล็งเห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาบูรณาการร่วมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภารกิจ พร้อมทั้งจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและการบริการด้านคมนาคมขนส่งทางน้ำ ส่งเสริมองค์ความรู้ตลอดจนทักษะทางด้านการบริหารจัดการน่านน้ำ ได้อย่างเหมาะสม ควบคู่กับการยกระดับความปลอดภัยและความมั่นคงด้านการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีขอประเทศไทยต่อไป