ชายแดนสุรินทร์ ปะทะหนักกว่าทุกวัน

สุรินทร์ 28 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 5 แนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สุรินทร์ ยังคงปะทะกันอย่างหนัก ขณะที่ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน จากการกระทำของกองกำลังนอกประเทศ เพื่อให้สามารถใช้งบประมาณช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ชาวบ้านบริเวณโดยรอบมณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ในตัวเมืองสุรินทร์ ทยอยกลับเข้าพื้นที่ในช่วงเช้าวันนี้ หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า แก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว กรณีตกเป็น 1 ในเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังไม่กลับเข้าพื้นที่ทำให้ร้านค้าต่างๆ บางส่วนยังปิดให้บริการ และประชาชนในหอพักหลายแห่ง ก็ยังไม่กลับมา ทำให้บรรยากาศในซอยที่เคยพลุกพล่าน ต้องเงียบเหงาลงอย่างมาก การข่าวเดียวกันนี้ ยังทำให้โรงพยาบาลสุรินทร์ ต้องแจ้งปิดคลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการในวันนี้ แต่ล่าสุดประกาศกลับมาเปิดตามปกติในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) สำหรับสถานการณ์การปะทะตามแนวชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ วันนี้หนักกว่าทุกวัน ทางด้านปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก และด้านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง โดยเฉพาะด้านอำเภอพนมดงรัก ที่กัมพูชาหมายยึด เข้าครอบครองทั้ง 2 ปราสาท มีการเปิดฉากยิงตั้งแต่ตี 3 เรื่อยมาจนถึงช่วงเย็น ไม่มีช่วงที่หยุดพักนาน […]

สธ. ประชุมประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ศรีสะเกษ 28 ก.ค. – สธ. ประชุมประเมินสถานการณ์ชายแดน ว่าจะต้องปิดโรงพยาบาลใดเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ศรีสะเกษปิดไปแล้ว 2 โรงพยาบาล และมีแนวโน้มอาจต้องปิดเพิ่มอีก 2 แห่งหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษประชุม Conference ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสาธารณสุขจังหวัดอื่นๆ ทั้งอุบลราชธานี บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งวันนี้มีการประเมินสถานการณ์รุนแรงตามจังหวัดชายแดน ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดสถานพยาบาล การเตรียมแผนฉุกเฉินรวมถึงคลังยาและคลังโลหิตสำรองในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น ในส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้มีโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงต้องปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายบุคลากรและผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์ว่าอาจต้องมีการปิดเพิ่มอีกสองแห่งหรือไม่ ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต. ตามแนวชายแดน ขณะนี้แม้หลายแห่งปิดให้บริการแต่ก็ไม่กระทบกับประชาชน เพราะมีการปรับรูปแบบการให้บริการ .-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

แค้นถูกกรีดรถ ปมเหตุไล่ยิง รปภ.-แม่ค้า ก่อนปลิดชีพตัวเอง

กทม. 28 ก.ค. – เผยปมเหตุ อดีตพ่อค้าขายผลไม้ตลาด อ.ต.ก. คว้าปืนไล่ยิง รปภ.-แม่ค้า ก่อนปลิดชีพตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย สอบภรรยา พบผู้ก่อเหตุแค้น รปภ. หนึ่งในผู้เสียชีวิต จากปมถูกกรีดรถเมื่อปี 62 เวลา 12.30 น. ตำรวจ สน.บางซื่อได้รับแจ้ง จากพนักงานรักษาความปลอดภัยในตลาด อ.ต.ก. ว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงพนักงานรักษาความปลอดภัยเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน ทางตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อจึงนำกำลังตำรวจ เข้ามาปิดล้อมภายในตลาด พร้อมทั้งอพยพประชาชนที่เจ้ามาจับจ่ายใช้สอยออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน ซึ่งในระหว่างที่ปิดล้อมและอพยพผู้คนออกจากตลาด คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองเสียชีวิต ทั้งนี้ คนร้ายทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า นายน้อย อายุ 61 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าของแผงขายร้านที่ 30 ในตลาด อ.ต.ก. จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุของตำรวจ สน.บางซื่อ พบว่านายน้อย ลงมือก่อเหตุจุดแรกที่บริเวณประตูทางเข้าสำนักงานตลาด อ.ต.ก. ซึ่งเป็นประตูฝั่งตรงข้ามกับสวนจตุจักร ซึ่งบริเวณประตูทางเข้าพบร่าง รปภ. 1 ศพ และบริเวณลานจอดรถพบร่าง […]

ชาวกัมพูชายังแห่กลับประเทศ รอข้ามแดนนับพันคน

จันทบุรี 28 ก.ค. – สถานการณ์อพยพชาวกัมพูชา เข้าสู่วันที่ 4 ยังมีแรงงานราว 1,000 คน รอข้ามพรมแดนแน่นเต็มหน้าด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวร ตลาดบ้านแหลม ต.เทพนินิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ชาวกัมพูชายังคงทยอยกลับประเทศเป็นวันที่ 4 หลังเกิดยิงปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ 3 จังหวัดแนวชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ โดยชาวกัมพูชาราว 1,000 คน พร้อมสัมภาระ กระจายอยู่บริเวณโดยรอบตลาดบ้านแหลม ทะลักไปจนถึงบริเวณหน้าด่าน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ตกค้างหลังฝั่งไทยปิดด่านเวลา 15.00 น. วานนี้ (27 ก.ค.) อีกส่วนเป็นผู้ที่ทยอยเดินทางมารอกลับประเทศกันตลอดคืน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการระเบียบการระบายชาวกัมพูชาให้เดินทางกลับประเทศด้วยความรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร. สั่งเร่งคลี่คลายคดียิงกลางตลาด อ.ต.ก.

28 ก.ค. – ผบ.ตร. สั่ง บช.น. เร่งสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดียิงในตลาด อ.ต.ก. เสียชีวิต 6 ราย จากกรณีเหตุการณ์วันนี้ (31 ก.ค. 68) เวลาประมาณ 12.31 น. เกิดเหตุชายใช้อาวุธปืนยิง ผู้อื่นบริเวณตลาด อ.ต.ก. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย รวมผู้ก่อเหตุ ต่อมาหลังเกิดเหตุทราบว่า ชายผู้ก่อเหตุเป็นชาย ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลและแรงจูงใจในการก่อเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนทุกมิติ รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด รวมทั้งตรวจสอบจากข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริง เพื่อให้สามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายให้ บช.น.ดำเนินการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนต่อไป.-416-สำนักข่าวไทย

กำชับเร่งฟื้นฟูถนนน้ำท่วมให้กลับมาสัญจรได้ปกติโดยเร็ว

28 ก.ค. – “สุริยะ” กำชับ “ทล. – ทช.” เร่งฟื้นฟูถนนช่วยเหลืออำนวยความสะดวกประชาชนให้กลับมาสัญจรได้ปกติโดยเร็ว ด้าน “บขส.” เปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง แล้ว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานส่งเจ้าหน้าที่เข้าลงพื้นที่จุดที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนวิภา เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยโดยเฉพาะโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และมีผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน โดยขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งฟื้นฟูสภาพถนนช่วยเหลืออำนวยความสะดวกประชาชนที่ได้ผลกระทบพายุโซนร้อนวิภาให้กลับมาสัญจรได้ปกติโดยเร็ว นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้กรมทางหลวง (ทล.) จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเร่งดำเนินการเพื่อให้เส้นทางกลับมาใช้สัญจรได้โดยเร็วที่สุด ขณะที่กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้รับผลกระทบ 37 แห่ง จึงสั่งการให้เร่งดำเนินการฟื้นฟูทำความสะอาดและเข้าสำรวจถนน หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน โดยขอให้ประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำอย่างเคร่งครัดด้วย โดยสายทางของ ทล. ได้รับผลกระทบใน 5 จังหวัด รวม 14 แห่ง สัญจรผ่านได้ 5 สายทาง ได้แก่ […]

บุกยิงกลางตลาด อ.ต.ก.จตุจักร ตาย 6 เจ็บ 2

กทม. 28 ก.ค. – คนร้ายบุกยิงในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร ก่อนจบชีวิตตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในตลาด อ.ต.ก.จตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของแผงขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก. ก่อเหตุจ่อยิงศีรษะ รปภ. 4 คน และแม่ค้า 2 คน ก่อนจบชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าเรื่องความขัดแย้ง .-สำนักข่าวไทย

นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมรสั่งคอลเซ็นเตอร์ ทำสงคราม IO

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยความมั่นคงรายงาน นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมร สั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับการหลอกลวงคนไทย มาทำสงคราม IO โจมตีไทยในโซเชียลมีเดีย กว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน วอนคนไทยเป็นนักรบไซเบอร์สวนกลับได้ อย่าเคลิ้มตาม IO เขมร มาด่าไทยกันเอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า พบการโจมตีทางไซเบอร์จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากประเทศกัมพูชามายังสื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น เปิดเป็นบัญชีผู้ใช้งานปลอมเป็นคนไทยนับล้านบัญชี ทั้งในเฟซบุ๊ก IG และ x และเข้าไป กดรีพอร์ตเฟซบุ๊ก ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไทย ด่าทอ กองทัพไทย และรัฐบาลเป็นจำนวนมาก และโจมตีด้วย DDos Attack ถึงกว่า 500 ล้านครั้ง ภายในเวลา 24 ชั่วโมง  ทั้งนี้พบว่า […]

ทลายขบวนการสวมบัตรเถื่อน ฟอกตัวเป็นไทย

28 ก.ค. – ผบช.ก. แถลงผลปฏิบัติการ “ทลายขบวนการสวมบัตรเถื่อน ฟอกตัวเป็นไทย” ตรวจค้น 10 จุดทั่วประเทศ รวบ 9 ผู้ต้องหา ขบวนการสวมบัตรคนตายให้ต่างชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวผลปฏิบัติการของกองบังคับการปราบปรามในปฏิบัติการ “ทลายขบวนการสวมบัตรเถื่อน ฟอกตัวเป็นไทย” ตรวจค้น 10 จุดทั่วประเทศ รวบ 9 ผู้ต้องหา ขบวนการสวมบัตรคนตายให้ต่างชาติ โดยในคดีนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่สวมบัตรประชาชนจำนวน 2 ราย คือ 1. Mr.Kyar Htaw หรือนายจา ตอ สัญชาติเมียนมา อายุ 25 ปี โดยสวมบัตรประชาชนเป็นบุคคลอื่น จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก ม.5 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ 2. นายเป่าฉั่น อายุ 25 ปี เป็นชาวเขาที่ไม่มีข้อมูลทางทะเบียน โดยสวมบัตรประชาชนเป็นบุคคลอื่น จับกุมได้ที่บ้านพัก ถ.เทพารักษ์ […]

“ผบช.ก.” สั่งเข้มใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอพยพประชาชน

28 ก.ค. – “ผบช.ก.” สั่งเข้มรับมือวิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอพยพประชาชน ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เสริมแนวหน้า เตือนอินฟลูเอ็นเซอร์ไลฟ์สด อย่ากระทบสิทธิมนุษยชน ชี้ทั่วโลกจับตาภาพลักษณ์ไทย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดวิกฤติความตึงเครียด ว่า ได้กำชับกำลังตำรวจในสังกัดให้ปฏิบัติตาม “แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” โดยเน้นการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และการดูแลความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ผบช.ก. ระบุว่า ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงเป็นกำลังหลักในการเข้าดูแล เนื่องจากมีหน่วยตั้งอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อรับทราบความต้องการช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) จะมีการส่งขบวนรถบรรทุกสิ่งของจำเป็น อาทิ น้ำดื่ม อาหาร และเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมตามคำร้องขอของ พม. นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย เพื่อเสริมกำลังด้านการแพทย์แก่ผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า ส่วนภัยพิบัติจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ตำรวจน้ำลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกในการสัญจร และดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีที่มีอินฟลูเอ็นเซอร์จำนวนหนึ่งเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดน และมีการถ่ายทอดสด (ไลฟ์สด) ขณะเกิดการปะทะนั้น […]

ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี

กระทรวงการต่างประเทศ 28 ก.ค.- กต. ยืนยัน ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ชี้ข่าวกองกำลังไทยใช้อาวุธเคมีเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และหวังทำลายสถานะไทย ต่อประชาคมโลก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวกล่าวหาว่ากองกำลังของไทยใช้อาวุธเคมี ว่า ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ และยืนยันการยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และยืนหยัดในท่าทีในการประณามการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะเป็นที่ใด โดยผู้ใด หรือภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อตราสารระหว่างประเทศด้านการลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทั้งปวง โดยนับตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีเมื่อปี 2546 ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วยการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) รวมทั้งกับรัฐภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ ดังนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดมูลความจริง และสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ.-312-สำนักข่าวไทย

1 19 20 21 22 23 1,183