28 ก.ค. – “ผบช.ก.” สั่งเข้มรับมือวิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอพยพประชาชน ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เสริมแนวหน้า เตือนอินฟลูเอ็นเซอร์ไลฟ์สด อย่ากระทบสิทธิมนุษยชน ชี้ทั่วโลกจับตาภาพลักษณ์ไทย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดวิกฤติความตึงเครียด ว่า ได้กำชับกำลังตำรวจในสังกัดให้ปฏิบัติตาม “แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” โดยเน้นการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และการดูแลความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่
ผบช.ก. ระบุว่า ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงเป็นกำลังหลักในการเข้าดูแล เนื่องจากมีหน่วยตั้งอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อรับทราบความต้องการช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) จะมีการส่งขบวนรถบรรทุกสิ่งของจำเป็น อาทิ น้ำดื่ม อาหาร และเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรมตามคำร้องขอของ พม.
นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย เพื่อเสริมกำลังด้านการแพทย์แก่ผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า
ส่วนภัยพิบัติจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ตำรวจน้ำลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกในการสัญจร และดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด
สำหรับกรณีที่มีอินฟลูเอ็นเซอร์จำนวนหนึ่งเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดน และมีการถ่ายทอดสด (ไลฟ์สด) ขณะเกิดการปะทะนั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวเตือนว่า ขอให้ผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดียทุกคนยึดถือกรอบของกฎหมาย และเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไม่ควรกระทำการยั่วยุหรือปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังหรือความรุนแรงต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ทั้งนี้ ผบช.ก. ได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศว่า ควรระมัดระวังในการแสดงออก และไม่ใช้อารมณ์กับบุคคลจากประเทศคู่กรณีที่อยู่ในไทย พร้อมเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินการภายใต้กฎหมาย และปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมสากล เพราะกรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง การกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้นย่อมไม่พ้นสายตาชาวโลก ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ .-414-สำนักข่าวไทย