ยูเครนเผยยึดหลายสิบเมืองคืนจากแคว้นที่รัสเซียผนวก

เคียฟ 5 ต.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า กองทัพยูเครนได้ใช้ปฏิบัติการรุกคืบโต้กลับกองทัพรัสเซียอย่างรวดเร็วในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสามารถบุกยึดเมืองหลายสิบแห่งในพื้นที่ตอนใต้และตะวันออกของยูเครนที่รัสเซียเพิ่งประกาศผนวกดินแดนคืนมาได้สำเร็จ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวเมื่อคืนวันอังคารว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพยูเครนสามารถปลดแอกหลายสิบเมืองในพื้นที่ตอนใต้และตะวันออกของยูเครนนับตั้งแต่ที่รัสเซียบังคับให้พื้นที่เหล่านี้ทำประชามติหลอกเพื่อผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยเมืองที่ยูเครนยึดคืนมาอยู่ในแคว้นเคอร์ซอน คาร์คิฟ ลูฮันสก์ และโดเนตสก์ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกียังได้เปิดเผยชื่อเมืองขนาดเล็ก 8 เมืองในแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งยูเครนเพิ่งยึดคืนมาจากรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมยูเครนได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพธงชาติยูเครนปลิวไสวอยู่เหนือเมืองดาวีดิฟ บริด ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ยูเครนยึดคืนมาจากรัสเซียในแคว้นเคอร์ซอน ส่วนกองบัญชาการกองทัพยูเครนประจำภาคใต้ ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า กองทัพยูเครนรุกคืบยึดพื้นที่แนวด่านหน้าของกองทัพรัสเซียเพิ่มเป็น 10-20 กิโลเมตรในพื้นที่บางแห่ง จนทำให้กองทัพรัสเซียต้องตัดสินใจทำลายคลังกระสุน และพยายามทำลายสะพานหรือทางข้ามเพื่อสกัดการการรุกคืบอย่างรวดเร็วของยูเครน ทั้งยังระบุว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รัสเซียสูญเสียทหารไปแล้ว 31 นาย รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก เช่น รถถัง 8 คัน รถหุ้มเกราะ 26 คัน และปืนใหญ่คาลิเบอร์ขนาดใหญ่ 1 กระบอก. -สำนักข่าวไทย

“อีลอน มัสก์” ยื่นขอซื้อกิจการทวิตเตอร์อีกครั้งในราคาเดิม

วอชิงตัน 5 ต.ค. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของเทสลา ยื่นขอเสนอซื้อกิจการทวิตเตอร์อีกครั้งในราคา 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.65 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นราคาเดิมที่เขาเคยปิดดีลกับทวิตเตอร์ก่อนตัดสินใจยกเลิก และทำให้ทวิตเตอร์ต้องยื่นฟ้องต่อศาล ทีมทนายของมัสก์ยืนยันในเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันอังคารตามเวลาในสหรัฐว่า มัสก์กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเดินหน้าซื้อกิจการทวิตเตอร์อีกครั้งในราคา 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นราคาเดิมที่เขาเคยปิดดีลกับทวิตเตอร์ การยื่นเอกสารต่อศาลมีขึ้นหลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานว่า มัสก์ได้ส่งจดหมายถึงทวิตเตอร์เพื่อยื่นข้อเสนอปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,032 บาท) ซึ่งเป็นราคาเดิมที่เคยตกลงกันไว้ ทั้งนี้ มัสก์มีกำหนดขึ้นศาลเผชิญหน้ากับทวิตเตอร์ในวันที่ 17 ตุลาคมในคดีที่ถูกทวิตเตอร์ฟ้องเรื่องที่เขาต้องการยกเลิกข้อตกลง ในขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ยืนยันว่า มัสก์ได้ส่งจดหมายที่ระบุว่า เขาต้องการปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์ในราคาเดิมตามที่ตกลงกันไว้เมื่อช่วงต้นปีจริง ทั้งยังระบุว่า ทวิตเตอร์ตั้งใจที่จะปิดการซื้อขายที่หุ้นละ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยตกลงปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์ด้วยราคา 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ก็ระบุว่า ทวิตเตอร์มีจำนวนบัญชีผู้ใช้อัตโนมัติ หรือบัญชีบอท (Bot) มากกว่าที่ทวิตเตอร์ประเมินไว้ว่า มีไม่ถึงร้อยละ 5 จากนั้นเผยในเดือนกรกฎาคมว่า เขาอาจยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์ […]

เกาหลีใต้-สหรัฐ ซ้อมยิงขีปนาวุธตอบโต้เกาหลีเหนือ

โซล 5 ต.ค. – กองทัพเกาหลีใต้กับสหรัฐซ้อมยิงขีปนาวุธตกในทะเลในวันนี้เพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือที่ทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามพรมแดนญี่ปุ่นไปตกในน่านน้ำเมื่อวันอังคาร ซึ่งทำให้ประชาคมนานาชาติออกมาประณามการกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือ คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า กองทัพเกาหลีใต้กับสหรัฐได้ซ้อมยิงขีปนาวุธเพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือที่ทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามพรมแดนญี่ปุ่นไปตกในน่านน้ำเมื่อวันอังคาร โดยที่กองทัพเกาหลีใต้กับสหรัฐได้ซ้อมยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ ATACMS (Army Tactical Missile System) ซึ่งผลิตโดยสหรัฐ อย่างไรก็ดี กองทัพเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์แยกในเวลาต่อมาว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธฮยอนมู-2 ของเกาหลีใต้ประสบความล้มเหลวหลังถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าเพียงไม่นานและตกในทะเล แต่เหตุดังกล่าวไม่ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ เพราะหัวรบของขีปนาวุธฮยอนมู-2 ไม่ได้ระเบิด พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่ทำให้ประชาชนเกาหลีใต้รู้สึกวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ได้ออกมาประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือด้วยท่าทีแข็งกร้าว ขณะที่สหภาพยุโรป หรืออียู ระบุว่า เกาหลีเหนือได้กระทำการที่ประมาทเลินเล่อและมีเจตนายั่วยุ ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธเช่นกัน โดยระบุว่าเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ. -สำนักข่าวไทย

สภาสูงรัสเซียให้สัตยาบันผนวกแคว้นของยูเครนเข้ากับรัสเซีย

มอสโก 4 ต.ค. – สภาสหพันธรัฐรัสเซีย หรือสภาสูงของรัสเซีย ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้สัตยาบันต่อกฎหมายผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในวันนี้ หลังจากที่สภาดูมา หรือสภาล่างของรัสเซีย ให้สัตยาบันไปเมื่อวันจันทร์ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สภาสูงของรัสเซียได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้สัตยาบันต่อกฎหมายผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง ได้แก่ แคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในวันนี้ หลังจากที่สภาล่างของรัสเซียได้ให้สัตยาบันเมื่อวันจันทร์ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียลงนามรับรองการผนวกแคว้นทั้งสี่ ซึ่งมีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 18 ของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการ รอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า แม้การผนวกแคว้นทั้งสี่จะได้รับการรับสัตยาบันจากรัฐสภารัสเซีย แต่รัฐบาลรัสเซียก็ยังไม่ได้กำหนดเขตแดนของแคว้นเหล่านี้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังมีพื้นที่อีกเป็นจำนวนมากที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน และรัสเซียก็ยังไม่ได้ยึดครองพื้นที่ของแคว้นทั้งสี่โดยสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียกำลังหารือเรื่องเขตแดนของแคว้นซาปอริชเชียและเคอร์ซอนอยู่ในตอนนี้. -สำนักข่าวไทย

นักข่าวฟิลิปปินส์ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงมะนิลา

มะนิลา 4 ต.ค. – ตำรวจฟิลิปปินส์เผยวันนี้ว่า เกิดเหตุนักข่าวชาวฟิลิปปินส์ถูกยิงเสียชีวิตขณะขับรถยนต์อยู่ในกรุงมะนิลาเมื่อคืนวันจันทร์ ทำให้สื่อมวลชนและนักเคลื่อนไหวในฟิลิปปินส์ออกมาประณามเหตุดังกล่าวว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพสื่อ ตำรวจฟิลิปปินส์ระบุว่า นายเพอร์ซิวัล มาบาซา นักข่าววิทยุชาวฟิลิปปินส์ วัย 63 ปี ถูกมือปืน 2 คนยิงเสียชีวิตขณะขับรถยนต์ใกล้ทางเข้าบ้านพักในเมืองลาสปินาสในย่านชานเมืองของกรุงมะนิลาเมื่อคืนวันจันทร์ ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ให้คำมั่นว่าจะเร่งจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนรัฐบาลฟิลิปปินส์ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน สมาพันธ์นักข่าวแห่งฟิลิปปินส์ระบุว่า เหตุดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงมะนิลา แสดงให้เห็นว่าคนร้ายจงใจก่อเหตุอย่างอุกอาจโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และสะท้อนถึงความล้มเหลวของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ในการปกป้องนักข่าวและประชาชนจากอันตราย ส่วนครอบครัวของนายมาบาซาระบุว่า เหตุฆาตกรรมในครั้งนี้เป็นอาชญากรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเรียกร้องให้ตำรวจเร่งจับกุมมือปืนมาลงโทษตามกฎหมาย ด้านการาปาตัน (Karapatan) กลุ่มสิทธิในฟิลิปปินส์ กล่าวถึงนายมาบาซาว่า เป็นนักข่าวที่กล้านำเสนอข้อเท็จจริงอย่างบ้าระห่ำที่สุดคนหนึ่งของประเทศ   สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านช่องยูทูบของนายมาบาซา ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 216,000 คน ว่า คลิปวิดีโอส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่า นายมาบาซามักกล่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ รวมถึงนโยบายและเจ้าหน้าที่บางคนในรัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ อีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียขึ้นบัญชีสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ใหม่ 15 ชนิด

ซิดนีย์ 4 ต.ค. – รัฐบาลออสเตรเลียให้คำมั่นว่าจะหยุดยั้งการสูญพันธ์ของพืชและสัตว์ด้วยการขึ้นบัญชีสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 15 ชนิด ซึ่งรวมถึงงูเกรย์สเนก (grey snake) และพาร์มาวอลลาบี (parma wallaby) รัฐบาลออสเตรเลียประกาศแผนใหม่ระยะ 10 ปี หวังหยุดยั้งการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 110 ชนิดและปกป้องสถานที่สำคัญ 20 แห่งไม่ให้ตกอยู่ในภาวะทรุดโทรมไปมากกว่าเดิม โดยตั้งเป้าหยุดการสูญพันธุ์ของพืชและสัตว์ไปพร้อม ๆ กับการอนุรักษ์ผืนป่าอย่างน้อยร้อยละ 30 ของออสเตรเลีย  ขณะที่นางทันยา พิลเบอร์เซก รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลียระบุว่า สถานการณ์ไฟแบล็กซัมเมอร์ (Black Summer) ช่วงปี 2562-2563 ในพื้นที่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ทำลายพื้นที่ราว 36 ล้านไร่ และทำให้สัตว์ป่าราว 1,000-3,000 ล้านตัวในออสเตรเลียตายหรือไร้ที่อยู่อาศัย การประกาศแผนดังกล่าวจะทำให้สัตว์ป่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม และการขึ้นบัญชีสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ไว้ในกฎหมายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการปกป้องสิ่งมีชีวิตและแหล่งที่อยู่อาศัยที่กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งนี้ ในบรรดาพืชและสัตว์ที่ได้รับการขึ้นบัญชีให้อยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ใหม่ 15 ชนิด เช่น งูเกรย์สเนกในรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย พาร์มาวอลลาบี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมคล้ายจิงโจ้แต่มีลำตัวเล็ก และตั๊กแตนไม้ขีดไฟไม่มีปีก (wingless matchstick […]

ยูเครนรุกคืบฝ่าแนวป้องกันรัสเซียในพื้นที่ตอนใต้

เคียฟ 4 ต.ค. – กองทัพยูเครนรุกคืบฝ่าแนวป้องกันของรัสเซียในพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน ในขณะที่กำลังใช้ปฏิบัติการโต้กลับอย่างรวดเร็วเพื่อยึดดินแดนคืนจากรัสเซียให้ได้มากขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศเช่นกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยผ่านคลิปวิดีโอว่า กองทัพยูเครนได้ยึดเมืองจำนวนหนึ่งในหลายพื้นที่ที่ถูกรัสเซียยึดครอง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้กองทัพยูเครนกำลังเปิดฉากต่อสู้อย่างหนักในหลายพื้นที่ที่เป็นแนวป้องกันของกองทัพรัสเซีย ขณะที่นายวลาดีมีร์ ซัลโด ผู้นำของแคว้นเคอร์ซอนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียว่า กองทัพยูเครนได้ยึดเมืองดูดชานีที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร ทางตอนใต้ของยูเครน ในขณะเดียวกัน นายเซอร์ฮีย์ คลัน สมาชิกสภาท้องถิ่นของแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เผยว่า กองทัพยูเครนสามารถยึดพื้นที่ชุมชน 4 แห่งคืนจากรัสเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายูเครนกำลังเดินหน้าปฏิบัติภารกิจโต้กลับกองทัพรัสเซียได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำดนิโปรที่อยู่ใกล้เมืองเบริสลาฟ นอกจากนี้ กองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของยูเครนอ้างว่า กองทัพยูเครนได้ทำลายรถถัง 31 คัน และเครื่องยิงขีปนาวุธ 1 เครื่องของกองทัพรัสเซียในพื้นที่ตอนใต้ของยูเครน แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าการสู้รบดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองใด. -สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคน “เอียน” ทะลุ 100 คน

ฟลอริดา 4 ต.ค. – เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยของรัฐฟลอริดาในสหรัฐกลับมาปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ประสบภัยเฮอริเคน ‘เอียน’ (Ian) อีกครั้งในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 103 คนแล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐฟลอริดากล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยของรัฐฟลอริดาได้ลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนและอาคารธุรกิจราว 45,000 หลังนับตั้งแต่เฮอริเคนเอียนพัดถล่มรัฐฟลอริดาเมื่อวันพุธก่อน จนทำให้อาคารบ้านเรือนของชุมชนหลายแห่งที่ตั้งอยู่ริมอ่าวเม็กซิโกได้รับความเสียหายจากคลื่นสูงซัดฝั่ง ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้กลับไปลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนและอาคารต่าง ๆ อีกครั้งเพื่อค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจตกค้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคนเอียนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 103 คนนับตั้งแต่เฮอริเคนเอียนพัดถล่มพื้นที่ริมฝั่งอ่าวเม็กซิโกในรัฐฟลอริดาด้วยความรุนแรงระดับ 4 และความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อวันพุธที่แล้ว โดยที่รัฐฟลอริดามีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ 78 คน ขณะนี้ มีผู้ประสบภัยบางส่วนที่อพยพออกจากบ้านเรือนยังคงพักอยู่ในรถบ้านที่จัดหาโดยสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลสหรัฐ หรือได้รับบัตรกำนัลให้เข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกในน่านน้ำญี่ปุ่นครั้งแรกรอบ 5 ปี

โตเกียว 4 ต.ค. – เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวตกในน่านน้ำญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ในวันนี้ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องแจ้งเตือนประชาชนหาที่หลบภัยและสั่งหยุดเดินรถไฟชั่วคราวในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้หาที่หลบภัย หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวผ่านดินแดนของญี่ปุ่นก่อนตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิกในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกในน่านน้ำของญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2560 ทั้งยังระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยการยิงไกลถึง 4,600 กิโลเมตร และคาดว่าอาจเป็นการทดสอบยิงขีปนาวุธที่มีพิสัยไกลที่สุดของเกาหลีเหนือ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ยิงทำลายขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ การทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวครั้งล่าสุดในวันนี้ของเกาหลีเหนือนับเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 10 วันที่ผ่านมา โฆษกของรัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า การกระทำของเกาหลีเหนือหลายต่อหลายอย่าง เช่น การทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวหลายครั้ง เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของญี่ปุ่น ภูมิภาคใกล้เคียง และประชาคมนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการแสดงความท้าทายอย่างยิ่งต่อประชาคมนานาชาติ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเครื่องบินหรือเรือที่ได้รับความเสียหายจากเหตุทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ส่วนบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธดังกล่าวทำให้บริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (East Japan Railway) ต้องสั่งระงับเดินรถไฟชั่วคราวในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

พระราชินีเดนมาร์กทรงขอโทษเรื่องเรียกคืนยศพระราชนัดดา

โคเปนเฮเกน 4 ต.ค. – สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงออกแถลงการณ์ขอโทษต่อกรณีที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดา 4 พระองค์ในเจ้าชายโจอาคิม พระราชโอรสองค์รอง แต่พระองค์จะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 พระชนมพรรษา 82 พรรษา ทรงระบุในแถลงการณ์หลังจากที่ทรงตัดสินพระทัยเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดา 4 พระองค์ในเจ้าชายโจอาคิมเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า พระองค์ทรงขอโทษที่ตัดสินพระทัยเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดาทั้งสี่ และทรงไม่คาดคิดว่าจะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงขึ้นภายในราชวงศ์ เนื่องจากพระองค์ทรงต้องการให้ราชวงศ์เดนมาร์กปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเพื่อให้สถาบันดำรงอยู่ต่อไปได้ในอนาคต แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ยังคงทรงรู้สึกภาคภูมิใจในตัวพระราชโอรส พระสุณิสา และพระราชนัดดาทุกพระองค์ และทรงหวังว่าสมาชิกราชวงศ์จะสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ก่อนหน้านี้ เจ้าชายโจอาคิม พระชันษา 53 ปี ทรงกล่าวกับหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของเดนมาร์กว่า พระองค์ทรงรู้สึกเสียพระทัยอย่างหนักที่พระมารดาทรงเรียกคืนพระยศโอรสและธิดาของพระองค์ ได้แก่ เจ้าชายนิโคไล พระชันษา 23 ปี เจ้าชายเฟลิกซ์ พระชันษา 20 ปี เจ้าชายเฮนริก พระชันษา 13 ปี และเจ้าหญิงอะธีนา พระชันษา 10 ปี ขณะที่เจ้าหญิงมารี […]

“ไบเดน” จะเยือนเปอร์โตริโกหลังถูกเฮอริเคน “ฟีโอนา” ถล่ม

วอชิงตัน 3 ต.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ จะเดินทางไปยังเปอร์โตริโก ดินแดนที่เป็นเครือรัฐของสหรัฐ ในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้กำลังใจผู้ประสบภัยหลังถูกเฮอริเคนฟีโอนาพัดถล่ม ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาวสหรัฐเมื่อวันเสาร์ว่า เขารู้สึกเศร้าโศกใจอย่างยิ่งหลังทราบข่าวความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเฮอริเคนและพายุรุนแรงในเปอร์โตริโก รัฐฟลอริดา และรัฐเซาท์แคโรไลนา ขณะที่นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐ เผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาวเปอร์โตริโกร้อยละ 90 กลับมามีไฟฟ้าใช้แล้วหลังจากที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับมาเป็นเวลา 13 วันนับตั้งแต่ถูกเฮอริเคนฟีโอนาพัดถล่ม ขณะนี้ ทางการท้องถิ่นยังคงเดินหน้าฟื้นฟูและซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้กลับมาเป็นปกติดังเดิมต่อไป ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดนได้ให้คำมั่นว่า รัฐบาลสหรัฐจะมอบความช่วยเหลือให้แก่เปอร์โตริโกอย่างเต็มที่ รวมถึงจัดส่งความช่วยเหลือไปยังรัฐฟลอริดาและรัฐเซาท์แคโรไลนาที่ถูกเฮอริเคนเอียนพัดถล่มในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยที่ผู้นำสหรัฐและภริยาจะเดินทางต่อไปยังรัฐฟลอริดาในวันพุธ ทั้งนี้ ทางการสหรัฐคาดการณ์ว่าอาจต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อฟื้นฟูความเสียหายในรัฐฟลอริดา นอร์ทแคโรไลนา และเซาท์แคโรไลนา. -สำนักข่าวไทย

เผย บ. ญี่ปุ่นขนาดเล็กกว่า 60 % ขาดแรงงานหลังโควิด

โตเกียว 3 ต.ค. – ผลสำรวจความเห็นของญี่ปุ่นชี้ว่า บริษัทขนาดเล็กถึงกลางในญี่ปุ่นเกือบร้อยละ 65 กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ในขณะที่ญี่ปุ่นกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 หอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JCCI) ได้สำรวจความเห็นของบริษัทขนาดเล็กถึงกลางราว 2,880 แห่งในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม โดยมีบริษัทเกือบร้อยละ 65 ระบุว่ากำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดร้อยละ 66.4 ในปี 2562 ขณะที่บริษัทก่อสร้างร้อยละ 77.6 บริษัทขนส่งร้อยละ 76.6 และภาคธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมร้อยละ 70 ระบุว่ากำลังประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ผลสำรวจดังกล่าวยังชี้ว่า มีบริษัทกว่าร้อยละ 45 ที่พยายามประกาศรับสมัครงานในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ในรอบปีงบการเงินที่ผ่านมาเพื่อให้ได้จำนวนแรงงานมากที่สุดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ก็มีบริษัทร้อยละ 34.6 ที่ระบุว่าไม่สามารถหาแรงงานจบใหม่ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีร้อยละ 19.9 ระบุว่าไม่สามารถรับนักศึกษาจบใหม่ได้แม้แต่รายเดียว  เจ้าหน้าที่ของหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นระบุว่า บริษัทขนาดเล็กถึงกลางในญี่ปุ่นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก บริษัทเหล่านี้ไม่มีเงินทุนมากพอที่จะขึ้นค่าจ้างเพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานเดิมเอาไว้ เนื่องจากประสบปัญหาราคาวัตถุดิบพุ่งสูงขึ้นจนทำให้กำไรหดตัว. -สำนักข่าวไทย

1 38 39 40 41 42 315