พระราชินีเดนมาร์กทรงขอโทษเรื่องเรียกคืนยศพระราชนัดดา

โคเปนเฮเกน 4 ต.ค. – สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงออกแถลงการณ์ขอโทษต่อกรณีที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดา 4 พระองค์ในเจ้าชายโจอาคิม พระราชโอรสองค์รอง แต่พระองค์จะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว


สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 พระชนมพรรษา 82 พรรษา ทรงระบุในแถลงการณ์หลังจากที่ทรงตัดสินพระทัยเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดา 4 พระองค์ในเจ้าชายโจอาคิมเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า พระองค์ทรงขอโทษที่ตัดสินพระทัยเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดาทั้งสี่ และทรงไม่คาดคิดว่าจะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงขึ้นภายในราชวงศ์ เนื่องจากพระองค์ทรงต้องการให้ราชวงศ์เดนมาร์กปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเพื่อให้สถาบันดำรงอยู่ต่อไปได้ในอนาคต แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ยังคงทรงรู้สึกภาคภูมิใจในตัวพระราชโอรส พระสุณิสา และพระราชนัดดาทุกพระองค์ และทรงหวังว่าสมาชิกราชวงศ์จะสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

เจ้าชายโจอาคิม และเจ้าหญิงมารี

ก่อนหน้านี้ เจ้าชายโจอาคิม พระชันษา 53 ปี ทรงกล่าวกับหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของเดนมาร์กว่า พระองค์ทรงรู้สึกเสียพระทัยอย่างหนักที่พระมารดาทรงเรียกคืนพระยศโอรสและธิดาของพระองค์ ได้แก่ เจ้าชายนิโคไล พระชันษา 23 ปี เจ้าชายเฟลิกซ์ พระชันษา 20 ปี เจ้าชายเฮนริก พระชันษา 13 ปี และเจ้าหญิงอะธีนา พระชันษา 10 ปี ขณะที่เจ้าหญิงมารี พระชายาองค์ปัจจุบันของเจ้าชายโจอาคิม พระชันษา 46 ปี ทรงเผยว่า เจ้าหญิงอะธีนาทรงถูกพระสหายกลั่นแกล้งที่โรงเรียนเรื่องถูกเรียกคืนพระยศอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ ทั้งสองพระองค์ยังทรงระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ยังไม่ได้ตรัสถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทั้งสองพระองค์นับตั้งแต่ที่ทรงประกาศเรียกคืนพระยศของพระราชนัดดาทั้งสี่เมื่อสัปดาห์ก่อน


สำนักพระราชวังเดนมาร์กระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่แล้วว่า สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงโปรดเกล้าฯ เรียกคืนพระยศเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเดนมาร์กของพระราชนัดดา 4 พระองค์ในเจ้าชายโจอาคิม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 แต่ทั้งหมดจะยังคงดำรงบรรดาศักดิ์เป็นเคานต์และเคาน์เตสแห่งมอนเปซาต เนื่องจากพระองค์ทรงต้องการให้พระราชนัดดาได้ทรงใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนมากขึ้นโดยไม่ถูกตีกรอบจากกฎระเบียบของราชสำนักและกรณียกิจ ซึ่งเป็นการตัดสินพระทัยที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับราชวงศ์อื่น ๆ ทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง