ตำรวจสหรัฐตามจับหมีดำตัวใหญ่พังบ้านเรือน 40 หลัง

แคลิฟอร์เนีย 23 ก.พ. – ตำรวจรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐประกาศตามจับหมีดำตัวขนาดใหญ่มากมีน้ำหนักถึง 227 กิโลกรัม ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า ‘แฮงก์ เดอะ แทงก์’ (Hank the Tank) หลังจากที่หมีตัวนี้ได้บุกเข้าไปทำลายบ้านเรือนเกือบ 40 หลังในเมืองเซาท์เลคทาโฮในรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีก่อน ตำรวจรัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่า หมีดำตัวดังกล่าวมีน้ำหนักถึง 227 กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์น้ำหนักมาตรฐานของหมีทั่วไป และมีพฤติกรรมไม่ยอมจำศีลในฤดูหนาวอย่างที่ควรเป็น เนื่องจากมันกำลังต้องการกินอาหารให้มากที่สุดเพื่อสะสมไขมันให้เพียงพอก่อนเข้าสู่ช่วงจำศีล เจ้าหน้าที่ระบุว่า หากเกิดเหตุจำเป็นก็อาจจะต้องฆ่าหมีตัวนี้ เพราะมันโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับมนุษย์จนทำให้ไม่หวาดกลัวคน ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าเรียกร้องให้ตำรวจจับหมีดำตัวดังกล่าวไปปล่อยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โฆษกของสำนักงานประมงและสัตว์ป่าแห่งแคลิฟอร์เนีย เผยว่า หมีดำตัวนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘แฮงก์ เดอะ แทงก์’ เพราะมันมักบุกพังบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อค้นหาอาหารอย่างหิวโหยอยู่บ่อยครั้งด้วยการใช้พละกำลังจากลำตัวขนาดใหญ่ของมันพังประตูโรงเก็บรถยนต์ ประตูบ้าน หรือบานหน้าต่างเหมือนเอารถถังเข้าชนตามฉายา “เดอะแทงก์”  ขณะที่สำนักงานตำรวจเมืองเซาต์เลกทาโฮระบุว่า เครื่องไล่สัตว์ต่าง ๆ ที่มักทำให้หมีหวาดกลัวไม่ประสบผลสำเร็จในการไล่หมีดำตัวนี้ให้ออกไปจากชุมชน ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุเกี่ยวกับหมีตัวดังกล่าวรวมกว่า 150 ครั้ง และมันได้บุกพังบ้านเรือนเกือบ 40 หลังในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้วอนอย่าตระหนกหลังพบยอดป่วยโควิดพุ่งสูงสุด

โซล 23 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก หลังเกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 170,000 คน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ นายกรัฐมนตรีคิมกล่าวในที่ประชุมรับมือการระบาดของโรคโควิดว่า แม้เกาหลีใต้จะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ทำสถิติสูงสุดในวันนี้ แต่ก็มียอดผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกกับรายงานตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ดังเช่นในอดีต ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้จะยังคงใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิดต่อไป สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 171,452 คน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่และเพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่มี 99,273 คน และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 99 คน ทำสถิติสูงเป็นอันดับสี่ของประเทศ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 2.3 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 7,600 คน โดยมีชาวเกาหลีใต้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสกว่าร้อยละ 86 และฉีดวัคซีนเข็มสามเกือบร้อยละ 60 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน ในขณะเดียวกัน กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้ เผยวันนี้ว่า เกาหลีใต้ได้อนุมัติการใช้วัคซีนโควิดของไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปีแล้ว โดยจะฉีดวัคซีนด้วยปริมาณโดสที่ลดลงเหลือหนึ่งในสามของวัคซีนที่ฉีดในประชาชนทั่วไป และเว้นระยะระหว่างเข็มที่หนึ่งกับเข็มที่สองนาน 3 สัปดาห์ ส่วนเด็กที่มีภูมิคุ้มกันลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังฉีดวัคซีนครบสองโดสสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนครบสองโดสไปแล้ว 4 […]

นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย

โตเกียว 23 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ลงนามรับรองเอกราชรัฐอิสระ 2 แห่งในยูเครน เมื่อวันอังคาร โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของยูเครน และฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะ เผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เช่น การห้ามออกพันธบัตรรัสเซียในญี่ปุ่น คำสั่งอายัดทรัพย์สินของชาวรัสเซียเป็นรายบุคคล รวมถึงคำสั่งห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่นเป็นรายบุคคล และจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การกระทำของรัสเซียเป็นการทำลายอำนาจอธิปไตยของยูเครนและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ญี่ปุ่นขอประณามการกระทำดังกล่าวและเรียกร้องให้รัสเซียกลับไปใช้วิธีทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตในครั้งนี้ ญี่ปุ่นมองว่าสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงอยู่ในระดับรุนแรงและจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ยังระบุว่า หากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เขาจะพิจารณาใช้มาตรการที่เป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ญี่ปุ่นจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และประชาคมโลก หากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนย่ำแย่ลง ญี่ปุ่นจะรีบหาทางออกมาตรการเพื่อรับมือต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเตรียมให้สัตยาบันสนธิสัญญากับ 2 แคว้นยูเครน

มอสโก 22 ก.พ.- รัฐสภารัสเซียเตรียมให้สัตยาบันในวันนี้ต่อสนธิสัญญากับ 2 แคว้นทางตะวันออกของยูเครนที่แยกตัวปกครองตนเอง ปูทางไปสู่การตั้งฐานทัพรัสเซีย การป้องกันทางทหารร่วมกัน และการรวมตัวทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเป็นผู้นำเสนอสนธิสัญญาต่อรัฐสภาเมื่อคืนวันจันทร์ หลังจากที่เขาออกกฤษฎีกาในวันเดียวกันรับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่ประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐประชาชนมาตั้งแต่ปี 2557 ว่าเป็นรัฐอิสระ สภาผู้แทนราษฎรรัสเซียได้เริ่มประชุมอภิปรายร่างสนธิสัญญามิตรภาพหนา 17 หน้าจำนวน 2 ฉบับแล้ว เพื่อลงมติให้สัตยาบัน เนื้อหาในร่างสนธิสัญญาเปิดทางให้ฝ่ายหนึ่งอนุญาตให้อีกฝ่ายมีสิทธิเสริมสร้างกำลังทหาร ใช้และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและฐานทัพในดินแดนของตนเองได้ ข้อความอธิบายแนบท้ายสนธิสัญญาระบุว่า สนธิสัญญาเป็นพื้นฐานทางกฎหมายให้หน่วยทหารรัสเซียเคลื่อนพลเข้าไปในสาธารณรัฐประชาชนทั้ง 2 แห่งที่ต้องการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ และในกรณีที่มีภัยต่ออธิปไตย ประเทศคู่สนธิสัญญาจะจัดการปรึกษาหารือกันโดยทันทีเรื่องการป้องกันทางทหารร่วมกัน รักษาสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน ด้วยการตัดสินใจเกี่ยวกับความจำเป็น ประเภท และขอบเขตของความช่วยเหลืออีกฝ่ายในการขจัดภัยดังกล่าว ร่างสนธิสัญญาระบุด้วยว่า รัสเซียและทั้งสองสาธารณรัฐประชาชนจะหาทางรวมตัวทางเศรษฐกิจ แคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์เคยเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่ต้องการการสนับสนุนอย่างมากเพื่อบูรณะฟื้นฟู หลังจากทำสงครามกับกองทัพยูเครนมานาน 8 ปี สนธิสัญญาอายุ 10 ปีนี้จะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติในทุก 5 ปี จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งว่าจะขอถอนตัว.-สำนักข่าวไทย

ชี้ผู้ป่วยโอไมครอนมีอัตราเสียชีวิตน้อยกว่าเดลตา 75%

โซล 22 ก.พ. – เกาหลีใต้เผยผลการศึกษาข้อมูลที่ชี้ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีแนวโน้มป่วยหนักหรือเสียชีวิตน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาเกือบร้อยละ 75 สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ เผยผลการศึกษากับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดราว 67,200  คนตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อนว่า ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนมีอัตราป่วยรุนแรงร้อยละ 0.38 และมีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 0.18 ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตามีอัตราป่วยรุนแรงร้อยละ 1.4 และมีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 0.7 ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบแล้วผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีแนวโน้มป่วยหนักหรือเสียชีวิตน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาเกือบร้อยละ 75 ผลการศึกษาดังกล่าวยังระบุว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1,073 ราย ในจำนวนนี้ร้อยละ 56 เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิดหรือฉีดวัคซีนแค่เข็มแรก และมีผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากถึงร้อยละ 94 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ส่วนเมื่อวันจันทร์เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 99,444 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ทำสถิติทะลุ 100,000 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.1 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 7,500 คน ขณะนี้ มีชาวเกาหลีใต้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสกว่าร้อยละ 86 และฉีดวัคซีนเข็มที่สามเกือบร้อยละ 60 จากประชากรทั้งหมด 52 […]

นิวซีแลนด์รำลึก 11 ปีแผ่นดินไหวไครสต์เชิร์ช

เวลลิงตัน 22 ก.พ.- นิวซีแลนด์รำลึกอย่างเงียบ ๆ ถึงผู้เสียชีวิต 185 คนจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองไครสต์เชิร์ชในวันนี้เมื่อ 11 ปีก่อน เนื่องจากนิวซีแลนด์ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน จึงไม่มีการจัดพิธีรำลึกอย่างเป็นทางการ นางลีแอนน์ ดัลเซียล นายกเทศมนตรีเมืองไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ได้นำหรีดไปวางที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติรำลึกเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเขตแคนเทอร์เบอรี ริมฝั่งแม่น้ำเอวอนในช่วงเข้า มีการอ่านรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด ตามด้วยการยืนสงบนิ่งไว้อาลัย 1 นาที นางดัลเซียลโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 11 ปี เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายและเปลี่ยนเมืองไครสต์เชิร์ชไปตลอดกาล เธอขอแสดงความระลึกถึงครอบครัวผู้สูญเสียทั้งในนิวซีแลนด์และทั่วโลก และเสียใจที่ไม่สามารถจัดงานรำลึกได้ เนื่องจากมาตรการจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขอให้ผู้คนร่วมกันรำลึกในแบบของตนเอง แผ่นดินไหวขนาด 6.3 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12:51 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 06:51 น.วันเดียวกันตามเวลาในไทย ผู้เสียชีวิต 115 คนจากทั้งหมด 185 คน อยู่ในอาคารสถานีโทรทัศน์แคนเทอร์เบอรีสูง 6 ชั้นที่พังถล่ม  ในจำนวนนี้มีชาวญี่ปุ่น ชาวจีน […]

ตองกาซ่อมเคเบิลใต้น้ำได้แล้ว

นูกูอะโลฟา 22 ก.พ.- ตองกาสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้แล้วในวันนี้ หลังจากภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดครั้งใหญ่เมื่อ 5 สัปดาห์ก่อน ทำให้สายเคเบิลใต้ทะเลเสียหายอย่างหนัก ภูเขาไฟใต้น้ำที่ระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 15 มกราคมได้ยินเสียงไกลไปถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐที่อยู่ห่างออกไปกว่า 10,000 กิโลเมตร ทำให้เกิดสึนามิตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ละอองเถ้าถ่านภูเขาไฟปกคลุมทั่วตองกา และสายเคเบิลใต้น้ำเสียหายอย่างหนัก จนต้องพึ่งพาการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่มีอยู่อย่างจำกัด ปกติแล้วตองกาติดต่อกับโลกภายนอกผ่านสายเคเบิลใต้น้ำเชื่อมกับฟิจิความยาวทั้งหมด 840 กิโลเมตร เรือซ่อมแซมตรวจพบว่า แรงระเบิด แรงสั่นสะเทือน และสึนามิ ซึ่งมีความรุนแรงรวมกันเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์ทำให้ปลายสายเคเบิลยาวประมาณ 80 กิโลเมตร ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลึกลงไปในทะเลถึง 2.5 กิโลเมตร บริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคม 2 แห่งแจ้งข่าววันนี้ว่า สามารถเชื่อมต่อการรับส่งข้อมูลระหว่าง 2 เกาะหลักได้แล้ว เพราะซ่อมแซมสายเคเบิลส่วนที่เสียหายเสร็จเรียบร้อย ชาวตองกาสามารถออนไลน์และสนทนากับญาติมิตรในต่างประเทศได้อีกครั้ง หลังจากถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมานานถึง 38 วัน ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บ้านเรือนเสียหาย 293 หลัง มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 1,525 คน ประชาชนร้อยละ 85 จากทั้งหมดราว 107,600 คน […]

อียูคว่ำบาตร จนท. รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน

บรัสเซลส์ 22 ก.พ. – สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน และบริษัทอีก 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา อียูระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน และบริษัทอีก 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหารเมียนมา 65 รายที่ถูกอียูขึ้นบัญชีอายัดทรัพย์สินและระงับวีซ่า รวมถึงบริษัททั้งหมด 10 แห่งที่ถูกขึ้นบัญชีเดียวกันนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้มีรายชื่อของคณะรัฐมนตรีกระทรวงการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสารสนเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งและสมาชิกระดับสูงของกองทัพเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อของบริษัทพลังงานและเหมืองแร่ของรัฐบาลทหารเมียนมา 2 แห่ง และบริษัทเอกชนอีก 2 แห่งที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลทหารรวมอยู่ในบัญชีดังกล่าวด้วย อียูระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในเมียนมาที่ยืดเยื้อจนส่งผลกระทบที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในระดับภูมิภาค และย่ำแย่ลงอย่างมากนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหาร ทั้งยังเน้นย้ำถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการสู้รบ หยุดใช้กำลังข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมดในทันที. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือยินดีจีนปิดโอลิมปิกปักกิ่งสำเร็จด้วยดี

เปียงยาง 22 ก.พ.- นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือแสดงความยินดีทางวาจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเรื่องจีนปิดมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 อย่างสำเร็จด้วยดี สำนักข่าวกลางเกาหลีของเกาหลีเหนือหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) รายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นจากใจต่อผู้นำจีนเรื่องจัดโอลิมปิกฤดูหนาวที่ยอดเยี่ยมให้เป็นมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่ที่แปลกใหม่และพิเศษ หลังจากจีนทำพิธีปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ในกรุงปักกิ่ง และกล่าวชมจีนว่า ได้ฝากรอยจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์โอลิมปิก จากการที่ได้พยายามอย่างไม่ย่อท้อ แม้มีวิกฤตด้านสุขภาพร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และมีการเคลื่อนไหวชักใยของกองกำลังปรปักษ์ อีกทั้งยังได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของจีนด้วย ก่อนหน้านี้ผู้นำเกาหลีเหนือเพิ่งส่งสารแสดงความยินดีกับผู้นำจีนในวันเปิดมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยที่คณะนักกีฬาของเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วม เพราะถูกคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือไอโอซี (IOC) สั่งระงับ เพื่อลงโทษที่เกาหลีเหนือไม่ยอมเข้าร่วมมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียว 2020 ที่จัดขึ้นเมื่อกลางปีก่อน เพราะกลัวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เจ้าหน้าที่กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงหลายปีมานี้นายคิมได้ส่งสารทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรถึงประธานาธิบดีสีอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะบ่อยครั้ง หวังแสดงให้โลกเห็นว่า ผู้นำทั้งสองประเทศยังคงมีสัมพันธ์แนบแน่นต่อกัน แม้ไม่สามารถพบหน้ากันเป็นการส่วนตัวได้.-สำนักข่าวไทย

ราคาน้ำมันดิบพุ่งหลังสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนรุนแรงขึ้น

มอสโก 22 ก.พ. – ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลังเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวพุ่งแตะระดับ 98 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียลงนามรับรองเอกราชของรัฐอิสระ 2 แห่งในยูเครน ขณะที่อังกฤษและพันธมิตรชาติตะวันตกเตรียมประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย และเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก ผู้เชี่ยวชาญของแมนูไลฟ์ อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ บริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินระดับโลก มองว่า สถานการณ์ตึงเครียดที่บริเวณพรมแดนรัสเซียกับยูเครนอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งยังระบุว่า การใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ส่งผลให้อุปทานของน้ำมันดิบหรือก๊าซธรรมชาติในตลาดมีปริมาณลดลงจะก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก ชาติตะวันตกหวั่นเกรงว่า ประธานาธิบดีปูตินลงนามรับรองเอกราชของรัฐอิสระ 2 แห่งในยูเครนเพื่อเปิดทางให้กองทัพรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนอย่างเป็นทางการ โดยรัสเซียได้หนุนหลังกลุ่มกบฏในแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่สู้รบกับกองทัพยูเครนมาตั้งแต่ปี 2557. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำมาเลเซียเตรียมเยือนไทยหารือเปิดพรมแดนระหว่างกัน

กัวลาลัมเปอร์ 22 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ของมาเลเซีย มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วันในวันที่ 24 -26 กุมภาพันธ์ โดยคาดว่าจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการเปิดพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้ง ดาโตะ โจจี แซมูแอล เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เผยกับสำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียว่า นายกรัฐมนตรีอิสมาอิลมีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ 3 วันในวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ ตามคำเชิญของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนไทยครั้งแรกนับจากนายอิสมาอิลเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน และยังเป็นครั้งแรกที่ผู้นำมาเลเซียเดินทางเยือนไทยนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อสองปีก่อน นายโจจียังระบุว่า การเดินทางเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีอิสมาอิลจะทำให้มีข่าวดีเรื่องการเปิดพรมแดนทางบกระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงและคณะทำงานด้านเทคนิคของมาเลเซียและไทยจะหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดพรมแดนระหว่างกัน รวมถึงการพูดคุยในประเด็นการยอมรับใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดของทั้งสองประเทศ ก่อนหน้านี้ นายณัฐภาณุ นพคุณ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศของไทย ระบุว่า ไทยกำลังวางแผนเปิดพรมแดนกับมาเลเซียในเดือนมีนาคมเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางมายังประเทศไทยในช่วงก่อนพบการระบาดของโรคโควิด. -สำนักข่าวไทย

ตำรวจอินเดียจับชายนักต้มตุ๋นหลอกแต่งงานหญิง 18 คน

นิวเดลี 22 ก.พ. – ตำรวจอินเดียจับกุมชายนักต้มตุ๋นที่หลอกแต่งงานกับผู้หญิงทั่วประเทศอย่างน้อย 18 คนได้ก่อนที่เขาวางแผนจะแต่งงานกับผู้หญิงอีก 2 คนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยชายคนนี้มักใช้อุบายหลอกเหยื่อว่า เขาเป็นคนที่เชื่อเรื่องเนื้อคู่และต้องการตามหารักแท้ ตำรวจอินเดียเผยว่า นายบิบู ปรากาช สเวน วัย 67 ปี มักโพสต์หลอกลวงในเว็บไซต์หาคู่แต่งงานของอินเดียว่า เขาเป็นแพทย์ อายุ 51 ปี และสานสัมพันธ์กับกลุ่มผู้หญิงเป้าหมายที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ทนายความ เจ้าหน้าที่การแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทหารทั่วประเทศ ด้วยการแอบอ้างว่าเขามีเงินเดือนสูง ใช้บัตรประชาชนปลอม และปลอมแปลงหนังสือแต่งตั้งเพื่อสร้างหลักฐานเท็จด้านข้อมูลส่วนตัวและภูมิหลังของครอบครัวให้ดูน่าเชื่อถือ โดยมีจุดประสงค์เพื่อหวังหลอกเอาเงินจากผู้หญิงและมีความสัมพันธ์ทางเพศ ตำรวจคนดังกล่าวยังระบุว่า เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายสเวนได้หลังจากที่ใช้เวลานานหลายเดือนเพื่อตามล่าตัวเขา โดยพบเอกสารปลอมแปลงตัวตนที่หลากหลาย บัญชีธนาคาร รวมถึงแผนแต่งงานอีก 2 ครั้งในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม นายสเวนใช้วาจาโน้มน้าวใจคนเก่ง และมักพุ่งเป้าไปที่กลุ่มหญิงโสด แม่หม้าย หรือหญิงผ่านการหย่าร้างวัย 40 ปีตอนปลาย หลังเข้าพิธีแต่งงานอย่างชื่นมื่นกับเหยื่อได้เพียงไม่กี่วัน นายสเวนมักออกอุบายขอยืมเงินหรือเครื่องประดับของภรรยาใหม่ไปใช้เนื่องจากเหตุฉุกเฉิน จากนั้น เขาจะทิ้งผู้หญิงคนก่อนหน้าไปหาเหยื่อผู้หญิงรายใหม่ที่มีสถานะโสด หม้าย หรือผ่านการหย่าร้าง เพราะผู้หญิงกลุ่มนี้จะไม่กล้าแจ้งตำรวจ เนื่องจากสังคมอินเดียยังไม่ยอมรับเรื่องผู้หญิงที่แต่งงานใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวนคาดว่า นายสเวนได้หลอกแต่งงานกับผู้หญิงมากว่า […]

1 111 112 113 114 115 315