fbpx

เปิดโครงการเลี้ยงโคนำร่องสุโขทัย 1,000 ครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก


14 ส.ค.- “อนุชาจับมือสมศักดิ์” เปิดโครงการเลี้ยงโค นำร่องในพื้นที่สุโขทัย 1,000 ครัวเรือน หวังสร้างความมั่นคงในครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับความเป็นอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

วันนี่ (14 สิงหาคม 2565) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เปิด “โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ภายใต้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองพื้นที่ต้นแบบ จังหวัดสุโขทัย ระยะที่ 1 โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุโขทัย เขต 1 นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุโขทัย เขต 2 นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เครือข่ายหมู่บ้าน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน


นายอนุชาฯ กล่าวว่าคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (บอร์ด กทบ.) ได้อนุมัติโครงการเลี้ยงโคฯให้กับพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 และตนเองได้มาพบพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งวันนั้นได้ย้ำว่า “อีกไม่เกิน 3 ปี พี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ จะได้จับเงินแสนไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องจริง ขอแค่พี่น้องต้องทำจริง เพราะเราอยากเห็นพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ ปลดหนี้สินได้ อยากเห็นพี่น้อง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ต้องยากจนอีกต่อไปแล้ว” วันนี้โครงการเลี้ยงโคฯ มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมแล้ว โดยจะเป็นโครงการนำร่อง ที่สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้พี่น้องสมาชิก เพราะเมื่อมีรายได้ ก็ลดภาระค่าใช้จ่าย ความยากจนก็หมดไป เศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้น ขอเพียงพี่น้องสมาชิก มีวินัย รักอาชีพการเลี้ยงโค และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ จะต้องติดตามถามไถ่ทุกข์สุขคอยให้ความช่วยเหลือสร้างองค์ความรู้ให้กับสมาชิก พร้อมกล่าวย้ำว่าต้องการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ทำให้มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่ม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงในครัวเรือน สำหรับข้อกังวลเรื่องตลาด นายอนุชาฯ ให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมกับกองทุนหมู่บ้านจะช่วยจัดหา สนับสนุนช่องทางการตลาด ขอให้ผู้เลี้ยงโคอย่าเป็นกังวล ที่สำคัญต้องรักษาคุณภาพเนื้อให้ได้ตามที่ตลาดต้องการ กองทุนฯ จะไม่ทิ้งให้ประชาชนแบกรับภาระอย่างแน่นอน

ทางด้านนายสมศักดิ์ฯ กล่าวว่า โครงการฯ ระยะที่ 1 นี้ ในปีที่ 1-2 สมาชิกที่ได้รับการพิจารณา ไม่ต้องเสียค่าบริหารจัดการใด ๆ คือ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยอะไร ในปีที่ 1 – ปีที่ 2 และในปีที่ 3-5 สมาชิกจะต้องเสียค่าบริหารจัดการ ร้อยละ 2 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก สำหรับมูลค่าหรือทรัพย์สินที่เกิดจากโครงการฯ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพี่น้องสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ถ้าทำดี ๆ โอกาสในการปลดหนี้สินของสมาชิกอยู่แค่เอื้อมมือ ขอแค่มีความอดทน วันนี้เป็นการนำร่องในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย จำนวน 1,000 ครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี ถ้าพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ ทำได้ดี ระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ก็จะลงมาสู่พี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ แน่นอน ไม่ใช่เฉพาะที่สุโขทัยเท่านั้น แต่จะขยายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพราะรัฐบาลเชื่อว่าโครงการนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการทางเลือก ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัวและแก้ไขปัญหาหนี้สินต่าง ๆ ได้ คุณภาพชีวิตของพี่น้องก็จะดีขึ้น

นายอนุชาฯ เชื่อมั่นว่าสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการนี้จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกินที่สามารถขจัดหนี้สินขจัดความยากจนได้ ฝากให้กองทุนหมู่บ้าน หน่วยงานในจังหวัด พี่น้องเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน (ทุกระดับ) และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน โดยเฉพาะคณะทำงานโครงการโคฯ ที่จัดการดูแลโครงการนี้ ขอให้ช่วยกันดูแลสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามที่รัฐบาลได้มุ่งหวังเอาไว้


ผู้แทนสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน กล่าวขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้ผลักดันโครงการเลี้ยงโคให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ถือเป็นการสร้างอาชีพให้ประชาชนสามารถเลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมให้คำมั่นสัญญาจะขยันเลี้ยงดูโคให้เติบโต ขยายพันธุ์ สร้างรายได้จากการเลี้ยงโค สานต่อนโยบายของรัฐบาลรักษาไว้ให้สืบทอดไปยังลูกหลานต่อไป

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

ข่าวแนะนำ

ความหวังแรงงานไทย ยกระดับค่าจ้างขั้นต่ำสู่ค่าจ้างเพื่อชีวิต

ทุกปีในวันแรงงาน จะมีการรวมตัวของสภาองค์การลูกจ้างและพัฒนาแรงงาน กลุ่มต่างๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ซึ่งปีนี้แรงงานหวังจะมีความมั่นคงในด้านระบบสวัสดิการ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

แรงงานทั่วไทยเดินขบวนเรียกร้องสิทธิจากรัฐบาล

วันที่ 1 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันสำคัญของผู้ใช้แรงงานทั่วโลก สำหรับประเทศไทยในปีนี้ มีการจัดกิจกรรมเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลหลายจุด โดยพื้นที่หลักอยู่ที่ตลอดแนวถนนราชดำเนิน และลานคนเมือง