เตือนปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอีกรอบ-เฝ้าระวังเขื่อนน้ำมาก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค.- กรมชลประทานแจ้งเตือนว่า ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก 20-60 เซนติเมตร เหตุเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,100 – 1,400  ลบ.ม./วินาที พร้อมเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำในเกณฑ์มากทั่วประเทศตามประกาศของกอนช.


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่า จะยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือต่อเนื่องถึงวันนี้ จึงคาดการณ์ปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์จะไหลผ่านอัตราสูงสุดถึง 1,400 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาทีซึ่งเช้าวันนี้อยู่ที่ 1,331 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นในอัตราระหว่าง 1,100 – 1,400  ลบ.ม./วินาที โดยวันนี้ระบายที่ 1,149 ลบ.ม./วินาที ปรับขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 1,049 ลบ.ม./วินาที

การปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20 – 60 เซนติเมตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)


ทั้งนี้ได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประกาศประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยาเช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,400 ลบ.ม./วินาทีจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังกำชับให้สำนักงานชลประทานทุกแห่งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพน้ำในเขื่อน ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) แจ้งเตือน ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 9 แห่งที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve) ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม กิ่วคอหมา น้ำพุง อุบลรัตน์ บางพระ หนองปลาไหล และป่าสักชลสิทธิ์ รวมถึงบึงบอระเพ็ด ตลอดจนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของปริมาณการกักเก็บรวม 112 แห่ง แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 65 แห่ง ภาคเหนือ 23 แห่ง ภาคตะวันออก 15 แห่ง ภาคตะวันตก 4 แห่ง ภาคใต้ 4 แห่ง และภาคกลาง 1 แห่ง โดยย้ำให้ติดตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าเพื่อจะได้บริหารจัดการอย่างเหมาะสมและลดผลกระทบจากน้ำล้นอ่างเก็บน้ำท่วมพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำให้น้อยที่สุด หากปรับการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำเพิ่มต้องแจ้งเตือนประชาชนทุกครั้ง เตรียมความพร้อมของเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่เสี่ยงเพิ้อให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที รวมทั้งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ


ล่าสุดได้รับรายงานจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ สำนักงานชลประทานที่ 10 ว่า ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยเป็นการทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได จากที่ปรับขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมซึ่งระบาย 120.49 ลบ.ม./วินาที เช้าวันนี้ (13 สิงหาคม) เพิ่มขึ้นเป็น 160.61 ลบ.ม. /วินาทีซึ่งทำให้ประมาณน้ำที่ระบายต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 10.41 ล้านลบ.ม. เป็น 13.87 ล้านลบ.ม. เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเช้าวานนี้ (12 สิงหาคม) วัดปริมาณน้ำไหลเข้าได้ 21.37 ล้านลบ.ม. แต่เช้าวันนี้เพิ่มขึ้นไปเป็น 28.66 ล้านลบ.ม. ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมี 433.52 ล้านลบ. ม. เทียบกับความจุระดับเก็กกักสูงสุด 960 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 45.06%

สำหรับปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,305 ล้าน ลบ.ม. หรือ 45% ของความจุ วัดปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำรวมกันประมาณ 155.30 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีกกว่า 13,566 ล้าน ลบ.ม.

ขอให้ประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังสำนักงานชลประทานในพื้นที่หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]