กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- อธิบดีกรมชลประทานระบุ ยังคงเฝ้าระวังภาวะน้ำท่วม-น้ำหลากจากฝนตกหนักต่อเนื่องถึงวันที่ 14 สิงหาคมนี้ โดยกรมอุตุนิยมวิทยายังคงคาดการณ์ว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนหนักบางแห่ง พร้อมกันนี้ให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำในเขื่อนต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการโดยไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ ย้ำต้องแจ้งเตือนทุกครั้งก่อนระบายเพิ่ม
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทานประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสำนักการระบายน้ำ (กทม.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่างๆ เพื่อจะได้บริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ตั้งแต่วันที่ 10-14 ส.ค. 65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยในระยะนี้จะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมาและลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ดังนั้นแม้ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนจะลดลง แต่ยังคงทำฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก
ทั้งนี้กำชับให้สำนักงานชลประทานแต่ละพื้นที่ติดตามปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกลงมา โดยเฉพาะแม่น้ำกก วัง ยม น่าน แควน้อย ป่าสัก เจ้าพระยา เลย ชี มูล บางปะกง และตราด รวมถึงลำน้ำสาขาซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
สำหรับอ่างเก็บน้ำให้ควบคุมบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ปฏิบัติการน้ำแบบพลวัต (Dynamic Operation Curve) โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่งที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) แจ้งเตือนว่า มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) 6 แห่งได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลมกิ่วคอหมา น้ำพุง อุบลรัตน์ และป่าสักชลสิทธิ์ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 นอกจากนี้ยังให้เฝ้าระวังบึงบอระเพ็ดที่มีน้ำในเกณฑ์มาก โดยพิจารณาปรับเพิ่มการระบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นซึ่งต้องแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายน้ำและพื้นที่ริมตลิ่งก่อนการระบายน้ำทุกครั้ง
อธิบดีกรมชลประทานยังกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากในช่วง 1-2 วันนี้ตามการแจ้งเตือนของกอนช. บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย กาญจนบุรี จันทบุรีและตราด
นอกจากนี้ยังกำชับให้ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารชลประทาน เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำนอกเขตชลประทานเพื่อลดสิ่งกีดขวางทางน้ำในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องให้ได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย