กรุงเทพฯ 8 ส.ค.- รองนายกฯ “ประวิตร” เร่งรัดแผนบริหารจัดการแก้น้ำท่วม-น้ำแล้งจ.ตรังและพัทลุง เลขาธิการสทนช. คาดการณ์สถานการณ์น้ำภาคใต้มีปริมาณน้ำมากกว่าปี 64 ย้ำเฝ้าระวังฝนตกหนัก
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนายการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ตรวจความก้าวหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำในจังหวัดตรังและพัทลุง โดยเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว อ.ห้วยยอดจ.ตรัง โครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง และโครงการก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชนพื้นที่บ้านต้น จ.พัทลุง
พลเอก ประวิตรเปิดเผยว่า เดินทางมาติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนของภาคใต้และรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนงานและผลการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยภาคใต้จะเข้าสู่ฤดูฝนหลังจากสิ้นสุดฤดูฝนของภาคกลาง อาจมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมได้ จำเป็นต้องเตรียมการรับมือล่วงหน้าอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจังหวัดตรังที่อยู่ปลายน้ำ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามนโยบายในการมุ่งเน้นป้องกันปัญหาเชิงรุก ลดการเกิดภัย หรือบรรเทาเหตุการณ์ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง ให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุด


ขณะเดียวกันสั่งการให้นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเร่งรัดการก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึง และเร่งรัดให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำตรัง รวมถึงช่องลัดและคันกั้นน้ำในปี 2567 โดยให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พิจารณายกระดับเป็นโครงการสำคัญด้วย
อีกทั้งมอบหมายให้ สทนช. เร่งรัดการศึกษาผังน้ำและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำ เพื่อให้มีแผนในการบริหารจัดการน้ำร่วมกันทั้งในภาวะปกติ และภาวะวิกฤติ ขณะเดียวกัน ได้ให้ทางจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม พร้อมรายงานผลต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อใช้ประกอบการกำหนดเป้าหมายของการแก้ไขปัญหาในแผนแม่บทลุ่มน้ำ และให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งรัดการพัฒนาน้ำบาดาลที่ได้งบประมาณไปแล้วให้เสร็จโดยเร็วด้วย รวมถึง จ.พัทลุง ที่ได้เน้นย้ำการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับภาคครัวเรือน โดยสนับสนุนให้ดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำบาดาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดปีด้วยเช่นกัน
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ว่า ภาพรวมปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องมีการติดตามสถานการณ์ฝนเพื่อบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ แม่น้ำ เส้นทางน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ฝนปีนี้คาดว่าในช่วงเดือน ส.ค.- พ.ย.จะมากกว่าปีที่ผ่านมา แม้ไม่มากนัก แต่ สทนช.จะบูรณาการหน่วยงานภายใต้ กอนช.ประเมินติดตามสถานการณ์ฝน การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ รวมถึงผลดำเนินการมาตการทั้ง 13 รับมือฤดูฝนอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูฝนนี้ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด. -สำนักข่าวไทย