กรุงเทพฯ 11 ก.ค.- อธิบดีกรมวิชาการเกษตรห่วงเกษตรกรที่อาจถูกหลอกซื้อต้นกล้าและเมล็ดงอกปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจำหน่ายทางสื่อออนไลน์-เพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ย้ำให้ขอหนังสือสัญญาซื้อขายและใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐาน พร้อมแนะวิธีเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพและชี้เป้าแหล่งผลิตขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรถูกต้องกว่า 200 แปลง
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรมีความต้องการต้นกล้าปาล์มน้ำมันสูงขึ้นมาก ทำให้มีผู้นำต้นกล้าและเมล็ดงอกซึ่งไม่มีที่มาที่ถูกต้องและไม่มีคุณภาพมาจำหน่าย โดยเฉพาะที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์และเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ซึ่งมีเกษตรกรหลงเชื่อ
ทั้งนี้ ปาล์มน้ำมันเป็นทั้งพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงานเป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์หลายชนิด การทำสวนปาล์มน้ำมันเพื่อให้มีผลผลิตที่ดี มีประสิทธิภาพจะต้องเลือกพันธุ์ที่ดี เลือกพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม และจัดการสวนอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามความต้องการของปาล์มน้ำมันจึงจะทำให้ผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ดังนั้น การปลูกปาล์มน้ำมัน เกษตรกรต้องซื้อพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยผู้ผลิตต้องสามารถให้คำรับรองพันธุ์และหลักฐานใบเสร็จรับเงินจากการซื้อพันธุ์ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อ ขอให้เกษตรกรสอบถามข้อมูล และตรวจสอบแหล่งที่มาของพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากผู้ผลิตก่อนเนื่องจากพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มาจากแหล่งผลิตที่มีมาตรฐานจะให้ผลผลิตดีกว่าพันธุ์ที่ไม่ทราบที่มาซึ่งจะเป็นความเสี่ยงอย่างมากสำหรับเกษตรกร และควรเลือกซื้อปาล์มน้ำมันลูกผสมเทเนอราจากแปลงเพาะชำที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร
สำหรับพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีลักษณะดีให้เลือกต้นกล้าที่มีอายุ 8-12 เดือนขึ้นไป และต้นกล้าต้องมีลักษณะสมบูรณ์แข็งแรง ทรงต้นแผ่กว้างไม่สูงชะลูด โคนต้นอวบสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมขอหนังสือสัญญาซื้อขายและใบเสร็จรับเงินจากผู้ผลิตเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ควรเลือกพื้นที่ปลูกในเขตที่เหมาะสม พร้อมศึกษาข้อจำกัดของปาล์มน้ำมันก่อนปลูกจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้
ส่วนพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพให้สังเกตจากลักษณะต้นกล้าที่ผิดปกติในแปลงอนุบาล (อายุ 2-4 เดือน) จะมีลักษณะยอดและใบบิดเบี้ยว ใบขดม้วนรอบเส้นกลางใบ ใบเรียวแคบ ใบกึ่งกลางคอด และต้นแคระแกร็น ในแปลงอนุบาลหลัก (อายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป) จะมีลักษณะใบย่อยไม่คลี่ ใบขนนกไม่คลี่เป็นใบย่อยหรือคลี่บางส่วน ส่วนมากอาการคล้ายปาล์มเป็นหมัน ซึ่งต้นกล้าชนิดนี้จะให้ผลผลิตต่ำมาก ใบเกิดใหม่สั้นทางใบตกและต้นอ่อนแอลักษณะต้นเจริญเติบโตและพัฒนาช้ากว่าปกติ ทำให้ต้นมีขนาดเล็ก แคระแกร็น
การเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่ถูกต้องตรงตามพันธุ์ต้องซื้อจากแปลงเพาะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนในปี 2565 จำนวน 244 แปลง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันได้จากเว็บไซต์ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร www.doa.go.th/ard หรือสอบถามจากหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตรได้แก่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1-8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดต่าง ๆ ที่มีแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันตั้งอยู่ หากพบการแอบอ้างจำหน่ายปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานีของกรมวิชาการเกษตร สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ที่ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 077-259145” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว.-สำนักข่าวไทย