ชูไทยเป็น “ศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก” 

นนทบุรี 10 เม.ย.- “ธรรมนัส” คิกออฟ IGNITE THAILAND ขับเคลื่อนนโยบาย ชูประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก ย้ำพร้อมยกระดับรายได้เกษตรกรให้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อน IGNITE THAILAND “จุดประกายเกษตรไทย สู่ศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารของโลก” พร้อมปาฐกถาพิเศษ “ขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก” ณ ห้องแซฟไฟร์ 204 – 206 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า จากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีประกาศวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND พลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง โดย 1 ใน 8 วิสัยทัศน์ที่สำคัญ และถือเป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คือ วิสัยทัศน์การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก (Agriculture and Food Hub)  แน่นอนว่า ประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก โดยรัฐบาลมีเป้าหมาย 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ เป้าหมายด้านการเกษตร และ เป้าหมายด้านอาหาร


สำหรับเป้าหมายภาคการเกษตร รัฐบาลมีเป้าหมาย คือ “รายได้สุทธิ 3 เท่า ใน 4 ปี” และด้วยความพร้อมด้านศักยภาพและความอุดมสมบูรณ์ของประเทศ ที่มีข้อได้เปรียบหลายด้านทั้งด้านภูมิศาสตร์ และสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการผลิตสินค้าเกษตรหลากหลายชนิด ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี ซึ่งเชื่อมั่นว่า สามารถทำได้แน่นอน เห็นได้จากผลสำเร็จในวันนี้ จากตัวอย่างสินค้าเกษตรที่ราคาดีเช่น ยางพารา ข้าว ส่วนหนึ่งมาจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐช่วยกันกำกับดูแลสินค้าลักลอบผิดกฎหมาย และในอนาคตระยะต่อไป นอกจากราคาดีแล้ว ผลผลิตจะต้องดีด้วย ซึ่งจะเกิดจากการที่เรามีการทำเกษตรแม่นยำ นำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น การตรวจดิน การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม และใช้พันธ์พืชที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดงานวิจัย รวมไปถึงแหล่งแหล่งน้ำ ต้องมีพื้นที่ชลประทานมากขึ้น ระบบบริหารจัดการน้ำที่ดี แก้ปัญหาอุกทภัยและภัยแล้ง มีการบริหารระบบตลาดสินค้าการเกษตรอย่างครบวงจร มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตรที่เหมาะสม และการแก้ปัญหา PM2.5 ที่เกิดขึ้นจากภาคการเกษตร

ขณะที่เป้าหมายด้านอาหาร ประเทศไทยเราอุดมสมบูรณ์ มีวัตถุดิบสินค้าการเกษตรที่ดีมากมายเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ เรามีอาหารที่มีชื่อประเทศเป็นชื่อ “ผัดไทย” มี Story ที่จะยกระดับได้อีกมากมายหลายชนิด อาทิ ร่วมกับ Micheline Guide และการขยายตัวของร้านอาหารไทยไปทั่วโลก และนอกจากอาหารทั่วไปแล้ว ไทยเรายังสามารถสร้าง “ตลาดใหม่” ผ่านนวัตกรรมด้านอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารทางการแพทย์ อาหาร Plant-based อุตสาหกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยเรามีความพร้อมในศักยภาพอย่างเต็มที่สมดังคำกล่าว “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” และเป้าหมายที่สำคัญ นั่นคือ “ในกระเป๋าต้องมีเงิน” 

สำหรับการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้เพิ่มเป็น 3 เท่าใน 4 ปี ด้วย 9 นโยบายสำคัญ ได้แก่ 1) การจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกร 2) การจัดทำข้อมูลเกษตรกร แปลงเกษตรกรในระบบดิจิทัล และการประกันภัยพืชผล 3) การส่งเสริมฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน 4) การบริหารจัดการน้ำ 5) การผลักดันสินค้าเกษตรมูลค่าสูง 6) การส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็ง 7) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร 8) การเปลี่ยนแปลงสภาวะสิ่งแวดล้อม และ 9) การทำงานและการวิจัยภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ  


การจุดประกายให้ประเทศไทยเป็น Hub การเกษตรและอาหารของโลก จำเป็นต้องยกระดับการขับเคลื่อนทั้งในด้านการผลิต และการตลาด ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือด้านการผลิต (Supply-side) ต้องขับเคลื่อนกลไกสำคัญ (Engine) ซึ่งเป็นหัวใจของภาคการผลิต คือ 1) การยกระดับสินค้าเกษตร และ 2) มาตรการเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรและคนในภาคการเกษตร  

สำหรับการยกระดับสินค้าเกษตรสู่การเพิ่มรายได้ สามารถแบ่งกลุ่มสินค้าเป้าหมายหลักๆ ได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าเกษตรที่มีการผลิตมากกว่าความต้องการของตลาดได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา โคเนื้อ ไก่เนื้อ และกุ้ง และกลุ่มสินค้าเกษตรที่ผลิตน้อยกว่าความต้องการ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง กาแฟ ทุเรียน และถั่วเหลือง โดยในแต่ละสินค้ามีความหลากหลายในแต่ละมิติต่างกันไป ขณะที่มาตรการเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรและคนในภาคการเกษตรเป็นความตั้งใจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะต้องเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เกษตรกรเช่น มาตรการการวางระบบสวัสดิการที่เหมาะสมหรือแนวทางการยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นระบบประกันภัยภาคการผลิต  การริเริ่มสวัสดิการให้กับเกษตรกร การส่งเสริมให้เกษตรกรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตร รวมถึงการสนับสนุนปัจจัยการผลิต ทั้งพันธุ์ ดิน ปุ๋ย การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร การเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ตลอดจนการสนับสนุนการผลิตแบบมีเงื่อนไขเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกรรม เป็นต้น 

การสัมมนาครั้งนี้  ซึ่งมีหน่วยราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้แทนสถาบันเกษตรกรถือเป็นโอกาสอันดีที่จะจุดประกายให้กับทุกภาคส่วนมาร่วมกันแสดงพลัง และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมที่จะขับเคลื่อนและร่วมกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นทางสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่จะนำไปเชื่อมโยงด้านการตลาด (Demand-side) โดยมีกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมดำเนินการ ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหาร ที่สำคัญเกษตรกรและคนในภาคการเกษตรจะต้องมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะผลักดันให้สำเร็จตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดไว้

นายสายชล จันทร์วิไร ประธานคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ระดับประเทศ ในฐานะผู้แทนกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมงาน IGNITE THAILAND กล่าวว่า ยินดีที่รัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายที่จะสนับสนุนภาคการเกษตรไทยอย่างจริงจัง โดยสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลกได้ จะต้องยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร ส่วนสินค้าเกษตรที่ล้นตลาด ต้องลดปริมาณการผลิต จัด zoning พื้นที่ตาม Agri-Map เพื่อให้การผลิตสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย