“ธรรมนัส” กำชับกยท. รักษาเสถียรภาพราคายาง ช่วยเพิ่มรายได้เกษตรกร

กรุงเทพ​ฯ​ 6 พ.ย. – รมว. เกษตร​ฯ​ มอบนโยบาย​แก่กยท.​ เน้นย้ำแนวทางบริหารยางพารา โดยเชื่อมโยงข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานยาง​ ให้ปริมาณการผลิตสอดคล้องกับความต้องการใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา เตรียมปัดฝุ่นโครงการถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ ให้กยท. ลงทุนร่วมเอกชนเปิดโรงงานยางล้อ ขอมติครม. ให้รถราชการทุกคันใช้ พร้อมย้ำเร่งเดินหน้าภารกิจขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางยางพาราโลก


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบนโยบายขับเคลื่อนการบริหารยางพาราแก่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดยมีนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. นำผู้บริหาร​ระดับ​สูง​ รวมทั้ง​พนักงาน​ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศเข้ารับฟังนโยบาย

ร้อยเอกธรรมนัสว่า ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวสวนยางให้ดีขึ้นภายใต้นโยบาย “เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน ” โดยยกระดับอุตสาหกรรมยางพารา ทั้งด้านการบริหารจัดการข้อมูลยางผ่านระบบ​ Blockchain ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานยางพารา ตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง ทะเบียนสวนยาง โดยจัดเก็บข้อมูลพื้นที่แปลงยางผ่านระบบ GIS ครอบคลุมถึงพันธุ์ยางและปริมาณผลผลิต เพื่อคาดการณ์ผลผลิตยาง จึงสามารถควบคุมการนำเข้ายางพาราจากต่างประเทศ ป้องกันการแทรกแซงราคายาง อีกทั้งระบบบริหารจัดการข้อมูลยาง จะช่วยแสดงแหล่งกำเนิดที่มาของสินค้าว่าไม่มีการบุกรุกทำลายป่า หรือเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม (EUDR และ Carbon Credit) เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้แก่ประเทศ


ทั้งนี้ ขอให้สำรวจสตอกยางพาราเพื่อจะได้นำข้อมูลมาบริหารจัดการให้ปริมาณการผลิตสอดคล้องกับความต้องการใช้ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาได้ โดยอาจดำเนินมาตรการเสริมเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ผ่านโครงการชะลอยางเพื่อควบคุมปริมาณยางในระบบที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพราคายางในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งมีการเพิ่มวงเงินงบประมาณให้เพียงพอและสามารถดำเนินการได้ทันที ตลอดจนควบคุมปริมาณผลผลิตยาง ด้วยการจัดทำ Zoning พื้นที่กรีดยาง หยุดกรีดในพื้นที่ที่ประสบภัยทางธรรมชาติ มิโรคระบาด หรือพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม โดยชาวสวนยางจะได้รับความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงิน เพื่อลดผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร ตลอดจนมีแนวทางดำเนินโครงการพักชำระหนี้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการแก้ไขปัญหาระยะสั้นของรัฐบาล ช่วยลดภาระการชำระหนี้สิน เสริมสภาพคล่องให้กับเกษตรกร

ร้อยเอกธรรมนัสย้ำว่า จะต้องยังช่วยส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมยางได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศให้เพิ่มขึ้น โดยเตรียมจะฟื้นโครงการใช้ยางพาราผสมในดินซีเมนต์เพื่อทำถนนซึ่งจะต้องหารือกับกระทรวงคมนาคม พร้อมกันนี้จะให้กยท. ลงทุนร่วมกับเอกชนเพื่อเปิดโรงงานล้อยาง แล้วขอมติครม. บังคับให้รถราชการทุกคันใช้ล้อยางที่ผลิตจากโรงงานของกยท. ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางได้เป็นอย่างมาก พร้อมๆ กับที่ต้องเร่งขยายตลาดส่งออก

นายณกรณ์กล่าวว่า กยท. มุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการระบบยางพาราของประเทศ ครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับกยท.​ กว่า 1.7 ล้านราย พื้นที่สวนยางรวมกว่า 19.8 ล้านไร่ และมีสถาบันเกษตรกรขึ้นทะเบียน 1,101 สถาบัน​ มีเกษตรกรที่เป็นสมาชิกทั้งหมด 327,782 ราย ตลอดจนผู้ประกอบการจำนวน 558 ราย มีสำนักงานตลาดกลางยางพารา 8 แห่ง มีปริมาณยางที่ผ่านตลาดกลางทั้งหมดประมาณ 3 แสนตัน/ปี และตลาดเครือข่าย 584 ตลาดทั่วประเทศ


นอกจากนี้ กยท. ได้พัฒนาระบบ Thai Rubber Trade (TRT) ซึ่งเป็น Digital Platform เชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 8 ตลาดเข้าด้วยกัน โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม 2566 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้นกว่า 2.9 พันล้านบาท

นายณกรณ์ยังกล่าวถึงนโยบาย 1 ลด 3 เพิ่ม (R3I) ที่ กยท. ผลักดันเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยาง โดยลดต้นทุนการผลิต (Reduce Cost) ด้วยการจัดสรรปัจจัยการผลิต สนับสนุเงินกู้-เงินอุดหนุน ซึ่ง​กำหนดวงเงินงบประมาณสำหรับเงินกู้ 408 ล้านบาท และเงินอุดหนุน 678 ล้านบาท ขณะเดียวกัน​ดำเนินการ​เพิ่มผลผลิต (Increase Yield) โดยการบริหารจัดการสวนยาง ตั้งแต่พันธุ์ยาง ระบบกรีด และการจัดการโรค เพิ่มรายได้ (Increase Income) โดยการสร้างรายได้ทางเลือกในสวนยางด้วยการทำเกษตรผสมผสาน เลี้ยงสัตว์ และจัดการสวนยางตามมาตรฐาน Carbon

Credit เพิ่มมูลค่า (Increase Value) โดยการพัฒนามาตรฐานการแปรรูปยาง ด้วยการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนในการวิเคราะห์ผลผลิต รวมถึงการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ยาง (Traceability)

สำหรับ​โครงการสำคัญของ กยท. ที่ขานรับนโยบายของกระทรวง​เกษตรและส​หกรณ์นั้น​ กยท. ได้ดำเนินงานและขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสวนยางให้มีความยั่งยืน โดยเน้นให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและยึดถือผลประโยชน์ของชาวสวนยางเป็นหลักเสมอมา โดยมีโครงการสำคัญ เช่น โครงการชะลอการขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 8,060 ราย รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 14,400 บาทต่อครัวเรือนรวมกว่า 116 ล้านบาท และมีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วม 85 แห่ง รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 1.56 ล้านบาทต่อแห่ง รวมกว่า​ 127 ล้านบาท

ทั้งนี้​กยท. จะเร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการยางให้ครอบคลุมทุกมิติ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการแปรรูปยางตามมาตรฐานสากล และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายโอกาสด้านการแข่งขัน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นกับยางพาราทั้งระบบ อันจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน.​-สำนัก​ข่าว​ไท​ย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้