จันทบุรี 6 มิ.ย.- อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเผยเตรียมนำโมเดลมาตรการป้องกันแก้ไขทุเรียนอ่อนซึ่งประสบความสำเร็จในภาคตะวันออก ไปปฏิบัติการต่อในภาคใต้ ย้ำคุมเข้มตั้งแต่ที่สวน ต่อเนื่องไปยังล้ง จนถึงแผงค้า โดยเฉพาะการยกระดับนักคัดนักตัดทุเรียนด้วยการขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเกษตรอำเภอ/จังหวัด
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า ในปี 2566 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการมาตรการควบคุมคุณภาพผลผลิตทุเรียนเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) โดยประสบผลสำเร็จในภาคตะวันออกที่เป็นแหล่งผลิตที่สำคัญได้แก่ จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
ในช่วงสองเดือนแรกพบว่า มียอดการส่งออกสูงถึง 4.7 แสนตัน มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ทุเรียนภาคตะวันออกใกล้จะสิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยวให้ผลผลิตแล้ว ประมาณการผลผลิตไว้ที่ 782,942 ตัน เก็บเกี่ยวแล้ว 612,552.56 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 78.24 ราคาผลผลิตเกรด A อยู่ที่ 186.67 บาท/กิโลกรัม (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2565) โดยคาดว่าจ ะเก็บเกี่ยวครบร้อยเปอร์เซ็นต์ในเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับมาตรการควบคุมคุณภาพผลผลิตทุเรียน ปี 2566 ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกนั้น มีการกำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนและวันเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูกาลทุเรียนในฤดูกาลผลิต ปี พ.ศ. 2566 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ระยอง และจังหวัดตราด ตามแต่ละพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์กระดุมและพันธุ์พวงมณี วันที่ 10 มีนาคม 2566 พันธุ์ชะนี วันที่ 20 มีนาคม 2566 และพันธุ์หมอนทอง วันที่ 15 เมษายน 2566 โดยกำหนดให้มีมาตรการควบคุมคุณภาพผลผลิตที่แหล่งผลิต (สวน) เป็นกลไกในการสนับสนุนการปฏิบัติในการควบคุมทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) เพื่อให้เกษตรกร มือตัด แผงรับซื้อ ผู้ประกอบการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการตัด การซื้อขายทุเรียน และยกระดับคุณภาพทุเรียน โดยมีขั้นตอนดังนี้
1) กำหนดจุดบริการตรวจก่อนตัด
2) เกษตรกรและนักตัดทุเรียน ต้องเก็บตัวอย่างทุเรียนในส่วนของตนเอง หรือสวนที่จะตัดและนำไปตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งก่อนตัดอย่างน้อย 3 วัน ณ จุดบริการตรวจก่อนตัด
3) จุดบริการตรวจก่อนตัด ต้องออกหนังสือรับรองให้เกษตรกร
4) สถานประกอบการ (ล้ง) ต้องสื่อสารกับเกษตรกรและมือตัดทุเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
5) ชุดปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพทุเรียน สวพ.6 กรมวิชาการเกษตร ต้องเรียกดูหนังสือรับรองตรวจก่อนตัด
6) แผงรับซื้อทุเรียนในตลาดค้าส่ง ต้องขอหนังสือรับรองผลการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจแผงรับซื้อ
นอกจากนี้ยังมีการขึ้นทะเบียนนักคัดนักตัดทุเรียน เป็นกลไกสำคัญในการติดตาม เฝ้าระวัง และควบคุมคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานนักคัดนักตัดทุเรียน โดยผู้ทำหน้าที่เก็บเกี่ยวทุเรียน ทั้งที่เป็นเกษตรกร นักคัดนักตัดอิสระ นักคัดนักตัดของ โรงคัดบรรจุ (ล้ง) ตลอดจนผู้มีความประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นนักคัดนักตัดทุเรียน จะต้องมาขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด
สำหรับผลการดำเนินงานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ชุดปฏิบัติการตรวจก่อนตัด) ภาคตะวันออกทั้ง 3 จังหวัด ระยอง จันทบุรี ตราด ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2566 พบว่า มีเกษตรกรมารับบริการรวม 10,760 ราย ตัวอย่างส่งตรวจ 14,446 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์ 9,258 ไม่ผ่านเกณฑ์ 5,183 สำหรับผลการดำเนินการสุ่มตรวจความสุกแก่ของทุเรียนในโรงคัดบรรจุ 528 แห่ง สุ่มตรวจทั้งสิ้น 4,998 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์ 4,683 คิดเป็นร้อยละ 97.7 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชี้ชัดว่า เกษตรกรและผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี จึงพร้อมส่งต่อโมเดลชุดปฏิบัติการตรวจก่อนตัดนี้ต่อไปยังภาคใต้
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า จะแนวมาตรการควบคุมคุณภาพผลผลิตทุเรียนไปดำเนินการต่อในภาคใต้ โดยทุเรียนภาคใต้ในฤดูจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนตุลาคม 2566 โดยคาดว่า จะมีปริมาณผลผลิตออกมากสุดในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 โดยทุเรียนภาคใต้ปีนี้ มีเนื้อที่ยืนต้น 726,369 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 7.27 เนื้อที่ให้ผล 547,225 ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.47 คาดว่า จะมีผลผลิตรวม 667,338 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.73 และมีผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลเฉลี่ย 1,219 กิโลกรัม/ไร่.-สำนักข่าวไทย