กรุงเทพฯ 1 พ.ย.- กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งส่งมอบชุดพืชพันธุ์ดีและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกรในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรมีแหล่งอาหารใหม่ พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลดทันทีอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า ได้เร่งเข้าช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยาเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยตามความห่วงใยของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการทันที่ในพื้นที่ที่สถานการณ์น้ำคลี่คลายลง
กรมส่งเสริมการเกษตรจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรไปสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 โดยชี้แจงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ จัดทำประชาคมเพื่อตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของข้อมูล จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามลำดับต่อไป
สำหรับพื้นที่เกษตรที่ประสบภัยทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565) คาดว่า จะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 59 จังหวัด พื้นที่ 5,493,345.75 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 3,601,720.00ไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,803,732.00ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 87,893.75 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบรวม 645,783 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือแล้ว 53 จังหวัด รวมทั้งมีเกษตรกรได้รับความช่วยเหลือจากงบประมาณส่วนท้องถิ่นแล้ว 19 จังหวัด เกษตรกร 1,812 ราย ครอบคลุมพื้นที่เสียหาย 6,287.00 ไร่
ส่วนแนวทางการฟื้นฟูพื้นที่ภาคการเกษตรที่ประสบภัยมี 2 แนวทางคือ
- การสนับสนุนให้เกษตรกรมีแหล่งอาหารใหม่ จึงได้มอบหมายให้กองขยายพันธุ์พืช และศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 แห่งได้แก่ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 1 จังหวัดชลบุรี ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 5 จังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 7 จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 8 จังหวัดลำพูน ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 9 จังหวัดสุพรรณบุรี และศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 10 จังหวัดอุดรธานี ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งบรรจุและจัดชุดเมล็ดพันธุ์พืชผักพันธุ์ดี ประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์ดีหลายชนิด ได้แก่ พริก มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพู และกระเจี๊ยบเขียวรวมกว่า 350,000 ซอง นำไปช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น เพื่อเป็นพืชอาหาร และพืชทดแทนในส่วนของพื้นที่เกษตรที่ได้รับความเสียหาย และกำลังเร่งดำเนินการบรรจุและจัดชุดเพิ่มเติมอีก 200,000 ซอง เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกรให้ได้มากที่สุด รวมถึงสนับสนุนต้นพันธุ์พืชผักพืชอาหาร และต้นพันธุ์ไม้ผลไม้ยืนต้นอีกด้วย ซึ่งจะนำไปมอบให้เกษตรกรในพื้นที่ทันทีภายหลังน้ำลด โดยกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ประสบภัยมากที่สุด เกษตรกรสามารถแจ้งความจำนงได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่รวบรวมปริมาณ และแจ้งต่อศูนย์ขยายพันธุ์พืชเพื่อดำเนินการจัดสรร
2) การสนับสนุนให้เกษตรกรมีปัจจัยการผลิตสำหรับป้องกันกำจัดโรคพืช โดยการสนับสนุนชีวภัณฑ์เชื้อราไตรโคเดอร์มาที่มีทั้งในส่วนพร้อมใช้ 8,200 กิโลกรัม (สามารถใช้ได้กับพื้นที่ 8,200 ไร่) และหัวเชื้อขยาย 11,500 ขวด (สามารถใช้ได้กับพื้นที่ 172,500 ไร่) จากกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย ซึ่งเกษตรกรที่มีความประสงค์สามารถมาขอรับได้จากสำนักงานเกษตรจังหวัด และศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ทั้ง 9 ศูนย์ คือ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดชัยนาท ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสุพรรณบุรี ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดชลบุรี ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดขอนแก่น ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสุราษฎร์ธานี และศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดพิษณุโลก โดยเกษตรกรสามารถนำไปใช้งานเพื่อควบคุมเชื้อราในดินและฟื้นฟูพืชหลังน้ำลด หากไม่มั่นใจกับอาการของต้นพืช สามารถสอบถามปัญหาโรคพืชได้ที่คลินิกพืช สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย