กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – รมว. เกษตรฯ มอบนโยบายแก่กรมส่งเสริมการเกษตรเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 55 ปี เดินหน้าพัฒนาภาคการเกษตรให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลก อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเผย มุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดการทำงาน “Keep Going, Keep Growing”
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมแสดงความยินดีและมอบแนวทางการดำเนินงานเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมการเกษตรครบรอบ 55 ปี โดยกล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับประเทศไทยในฐานะที่เป็นครัวของโลก วิกฤตดังกล่าวจึงถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำคัญที่จะต้องเร่งพัฒนาการผลิตอาหารให้เพียงพอ เพื่อเลี้ยงประชากรไทย และประชากรโลก ดังนั้นการพัฒนาให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง รู้เท่าทัน ปรับตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการมุ่งพัฒนาเกษตรกรด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ เพื่อให้มีพร้อมทั้งทักษะในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่า การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การยกระดับคุณภาพสินค้า ตลอดจนการแสวงหาช่องทางตลาดที่หลากหลายรองรับ
จากนั้นมอบรางวัลบุคคล หน่วยงานดีเด่น เกษตรกรดีเด่น สถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ และผู้ทำคุณประโยชน์กับกรมส่งเสริมการเกษตร
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในห้วงระยะ 1 ปี ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตรมีการพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรในทุกๆ ด้าน โดยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรสู่การเป็น Digital DOAE และปรับระบบการทำงานเข้าสู่ New Normal รวมทั้งการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้แนวคิด “Next Step” ขับเคลื่อนองค์กรวิถีใหม่…ก้าวต่อไปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล มีการดำเนินงาน 2 แนวทาง ได้แก่ การขับเคลื่อนองค์กรและระบบการทำงาน มุ่งพัฒนากรมส่งเสริมการเกษตรสู่การเป็น Digital DOAE และการดำเนินงานภารกิจสำคัญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นภารกิจที่ท้าทายการทำงานของนักส่งเสริมการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังคงดำเนินอยู่ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและทั่วโลก และในปี 2566 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจะยังคงมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาเกษตรกร และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้เกิดความอย่างยั่งยืน โดยเน้นหลักตลาดนำการผลิต และนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาปฏิรูปภาคการเกษตรสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “Keep Going, Keep Growing” และกรอบ “9 ความท้าทาย ก้าวต่อไปของนักส่งเสริมการเกษตร” ซึ่งประกอบด้วย
ก้าวแรก การขับเคลื่อนงานพระราชดำริ และเกษตรกรรมยั่งยืน โดยจะเร่งรัดการดำเนินงานตามพระราชดำริให้เกิดผลสำเร็จเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย
ก้าวสอง การขับเคลื่อน BCG Model ควบคู่กับการส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ ทำงานเชื่อมโยงร่วมกับหน่วยงานภายนอก โดยจะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ร่วมสร้างต้นแบบ BCG Model ในแต่ละชนิดสินค้า แต่ละพื้นที่
ก้าวสาม การส่งเสริมเกษตรสมัยใหม่ เกษตรอัจฉริยะ มุ่งสู่เกษตรมูลค่าสูง พัฒนาศักยภาพเกษตรแปลงใหญ่สู่ผู้ประกอบการเกษตร ให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมสู่เกษตรกร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลผลิตการเกษตร และส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรมากขึ้น
ก้าวสี่ การผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงานส่งเสริมการเกษตรให้ครอบคลุมภารกิจต่าง ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้เป็นดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานส่งเสริมการเกษตร
ก้าวห้า การสร้างผู้ประกอบการเกษตรสมัยใหม่ มุ่งเน้นพัฒนา Smart Farmer และ Young Smart Famer ให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรสมัยใหม่ พัฒนายกระดับวิสาหกิจชุมชนให้เป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาเตรียมความพร้อมขององค์กรเกษตรกรเพื่อเป็นผู้ประกอบการเกษตร
ก้าวหก การส่งเสริมการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ เร่งรัดการผลิตและขยายพืชพันธุ์ดีให้กระจายสู่เกษตรกรอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกัน และกำจัดศัตรูพืช ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ก้าวเจ็ด สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายการทำงานในพื้นที่ โดยการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการทำงานของอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) รวมทั้งเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตร (ศพก.) ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) และหน่วยงานสนับสนุนต่างๆ ของกรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่
ก้าวแปด ผลักดันการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานต่าง ๆ จะดำเนินการจัดกิจกรรมภายใต้ MOU อย่างต่อเนื่อง เกิดผลสำเร็จที่ชัดเจน ยกระดับงานส่งเสริมการเกษตรให้อยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาการ
ก้าวเก้า พัฒนาศักยภาพและการบริหารจัดการองค์กร ถอดบทเรียนความสำเร็จ ขยายผลสู่พื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกันสร้างและสะสมผลงาน สร้างชื่อให้กรมส่งเสริมการเกษตร
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยงานระดับกรมในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2510 โดยมีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ครอบครัวเกษตรกร องค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและการจัดการสินค้าเกษตร รวมทั้งการฝึกอาชีพ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และให้บริการทางการเกษตร ศึกษา วิจัย และพัฒนางานด้านการส่งเสริมการเกษตร.-สำนักข่าวไทย