กรมชลฯ แจง น้ำท่วมกทม.-ปทุมธานี จากฝนตกหนัก ไม่ใช่จากระบายน้ำเหนือ

กรุงเทพฯ 13 ก.ย.- กรมชลประทานเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมในพื้นที่กทม. และปทุมธานีมาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ ไม่ใช่การระบายน้ำเหนือผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ย้ำการรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทุ่ง 2 ฝั่งซึ่งมีฝนตกหนักเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะลุ่มน้ำท่าจีน มีน้ำที่ระบายจากทุ่งสองพี่น้องและบางปลาม้าลงสู่แม่น้ำท่าจีนเป็นปริมาณมาก ทำให้เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรบริเวณที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำเหนือที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นทำให้ต้องระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทเพิ่มให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า ในการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานใช้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นเครื่องมือหลักในการหน่วงและระบายตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ขณะที่น้ำส่วนเกินเร่งระบายออกทะเลตามที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยืนยันว่า แม้จะมีฝนตกลงมาเพิ่มในช่วงปลายฤดูฝน รวมถึงอาจมีพายุ ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย 2 ลูกในเดือนกันยายนถึงตุลาคม แต่ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาคือ เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ยังสามารถรับน้ำได้อีก 10,651 ล้านลูกบาศก์เมตร


ส่วนที่มีกระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ 4 เขื่อนมีไม่มาก ส่งผลให้ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาไม่มากเหมือนปีก่อนๆ แต่เหตุใดกรมชลประทานปล่อยน้ำลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ไม่แบ่งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งตะวันตกให้เข้าสู่แม่น้ำท่าจีน จึงทำให้มีน้ำท่วมขังในจังหวัดปทุมธานี กรมชลประทานยืนยันว่า น้ำที่ท่วมขังในจังหวัดปทุมธานีไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมา แต่เพราะมีฝนตกหนักบริเวณลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะในจังหวัดปทุมธานีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันและในวันที่ 8 กันยายน ฝนตกหนักในจังหวัดปทุมธานีมากที่สุดในประเทศไทย ปริมาณฝน 24 ชั่งโมงที่วัดได้ที่สถานีประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์มากถึง 157 มิลลิเมตร ปริมาณฝนที่มากกว่า 100 มิลลิเมตรถือเป็นฝนตกหนักในเกณฑ์ที่จะส่งผลต่อการระบายน้ำ หากรวมปริมาณฝน 3 วันมากกว่า 300 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์สูงเกินระดับวิกฤติ เช่นเดียวกับในกรุงเทพฯ ที่ฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำในคลองหลายๆ สายสูงเกินระดับวิกฤติ

ทั้งนี้แม่น้ำท่าจีนรับน้ำจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูระบายน้ำพลเทพ จังหวัดชัยนาท บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที แต่ที่ลุ่มน้ำท่าจีนมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระบายออกท้ายประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาผ่านอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี 175 ลบ.ม./วินาที แล้วมีน้ำที่ระบายออกจากทุ่งสองพี่น้องและบางปลาม้าจากฝนที่ตกลงมาไหลมารวมเป็น 320 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปัจจุบันระดับน้ำท้ายประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาอยู่ที่ 5.18 ม.รทก. ซึ่งเกินระดับควบคุมที่ 4.50 ม.รทก. น้ำจึงเอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

ส่วนการรับน้ำเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รับผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์เข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก รับเพียง 41 ลบ.ม./วินาที แล้วไหลต่อไปยังแม่น้ำป่าสัก จากนั้นไหลผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์สู่คลองระพีพัฒน์ตามลำดับ โดยกรมชลประทานควบคุมไม่ให้น้ำไหลต่อไปยังคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ด้วยการระบายผ่านประตูระบายน้ำพระศรีศิลป์และพระศรีเสาวภาคในอัตรา 3-5 ลบ.ม./วินาทีเท่านั้น


พร้อมกันนี้ยังย้ำถึงการผันน้ำเหนือเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ 11 ทุ่งตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนของกอนช. ว่า เมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว จะเตรียมพื้นที่ให้พร้อม แต่จะดำเนินการเป็นมาตรการสุดท้าย เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วยการใช้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นเครื่องมือหน่วงและระบายน้ำเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนการระบายผ่านลำน้ำหลักเป็นเส้นทางที่สามารถระบายน้ำออกทะเลได้เร็วที่สุด แต่ขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างยังไม่ต้องเป็นกังวลเพราะกรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่เกิน 3,500 ลบ.ม./วินาทีซึ่งปัจจุบันอยู่ที่  2,374 ลบ.ม./วินาที โดยปริมาณน้ำที่ไม่เกินเกณฑ์ 3,500 ลบ.ม./วินาทีจะไม่เกิดผลกระทบต่อกทม. และปริมณฑล

ส่วนที่กอนช. และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์การเกิดพายุว่า ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยสั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่อยู่ตามเแนวร่องฝนและที่มีแนวโน้มว่า จะได้รับอิทธิพลจากพายุ โดยต้องบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำแบบพลวัต (Dinamic Operation Curve) ซึ่งต้องสอดคล้องกับการคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเนื่องจากต้องคำนึงการการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งด้วย

นายประพิศย้ำว่า การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ต้องเป็นไปตามแนวทาง “ต้นเก็บ-กลางหน่วง-ปลายระบาย” คือ ต้นน้ำต้องเก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำ กลางน้ำต้องหน่วงน้ำเพื่อไม่ให้น้ำเหนือไหลลงสู่ตอนล่างอย่างรวดเร็วเกินไปจนทำให้เกิดน้ำท่วม และปลายน้ำต้องเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำในลำน้ำเพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน

ดังนั้นในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนหลัก 4 เขื่อนซึ่งอยู่ต้นน้ำทำหน้าที่เก็บกักน้ำ กลางน้ำมีเขื่อนเจ้าพระยาทำหน้าที่หน่วงน้ำ ขณะเดียวกันดำเนินทุกมาตรการเร่งระบายน้ำช่วงปลายน้ำออกสู่ทะเลได้แก่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มที่สถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำต่างๆ ที่มีจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่กทม. และปริมณฑลเสริมเพื่อเสริมศักยภาพ ที่คลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณทางน้ำเข้า ด้านหน้าสถานีท่าถั่วจะขุดขยายเพื่อช่วยชักน้ำด้านเหนือน้ำให้เข้าสถานีสูบน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งจะทำให้น้ำที่ระบายจากกทม. ลงสู่คลองประเวศน์บุรีรมย์ระบายออกสู่แม่น้ำบางปะกงได้เร็ว ส่วนคลองชายทะเลพร่องน้ำให้ต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมเพื่อรอรับน้ำที่ระบายลงมา แล้วใช้สถานีสูบน้ำบริเวณแนวคลองชายทะเล  9 แห่งที่มีศักยภาพการระบายน้ำรวมกันประมาณ 22.18 ล้านลบ.ม./วันเร่งระบายน้ำออก พร้อมให้เปิด-ปิดประตูระบายน้ำตามจังหวะการขึ้น-ลงของน้ำทะเล โดยอาศัยจังหวะที่น้ำทะเลลง เปิดบานระบายให้น้ำไหลได้สะดวก

นอกจากนี้ยังสนับสนุนเครื่องจักร-เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเข้าช่วยเหลือทุกพื้นที่เพื่อลดกระทบของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย