กรุงเทพฯ 7 ก.ย.- อธิบดีกรมชลประทาน ระบุสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชีที่ก่อนนี้ล้นตลิ่งบางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย โดยปริมาณน้ำสูงสุดของแม่น้ำชีเริ่มไหลลงสู่แม่น้ำมูลที่ จ.อุบลราชธานี แล้ว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.เมือง และวารินชำราบ สูงขึ้นอีก 9 เซนติเมตร จึงสั่งให้ระบายออกแม่น้ำโขงเต็มกำลัง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าระดับน้ำแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี จะทรงตัวใน 2 วัน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชีที่ก่อนหน้านี้น้ำจากแม่น้ำชีและลำน้ำสาขาล้นตลิ่งเข้าท่วมบางพื้นที่คลี่คลายตามลำดับ โดยปริมาณน้ำแม่น้ำชีที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำต่างๆ ลดลง ยกเว้นที่เขื่อนธาตุน้อย ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นน้ำเขื่อนสุดท้ายในแม่น้ำชี ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำมูลที่ จ.อุบลราชธานี การที่ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนธาตุน้อยเพิ่มขึ้น แสดงว่าปริมาณน้ำสูงสุดของแม่น้ำชีเริ่มไหลลงสู่แม่น้ำมูลแล้ว
เมื่อน้ำแม่น้ำชีลดลงจึงระบายน้ำจากต้นแม่น้ำมูลลงมาผ่านเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษเพิ่มขึ้นตามหลักการจัดจราจรน้ำ ส่งผลให้ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.7 ในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายก่อนออกสู่แม่น้ำโขงสูงขึ้น โดยวันนี้สูงกว่าเมื่อวาน 9 เซนติเมตร
นายประพิศ กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 7 เร่งระบายน้ำแม่น้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขงเต็มกำลัง ด้วยการเดินเครื่องผลักดันน้ำแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร ซึ่งติดตั้งไว้ 100 เครื่อง และเตรียมติดตั้งเพิ่ม 50 เครื่อง พร้อมกันนี้ยังติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮโดรโฟล (Hydro Flo) ซึ่งมีขนาดท่อ 30 นิ้ว เพื่อเร่งระบายน้ำข้ามแก่งสะพือด้วย
หากปริมาณน้ำแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านเขื่อนราศีไศลต่อเนื่องถึงเขื่อนหัวนา ลดระดับลง รวมทั้งไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่ตอนบนของทั้งลุ่มน้ำชีและมูล คาดว่าระดับน้ำแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี จะทรงตัวใน 2 วัน แต่ยังคงต้องเร่งระบายออกแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายนถึงตุลาคม.-สำนักข่าวไทย