กรุงเทพฯ 28 ส.ค.- อธิบดีกรมชลประทานระบุ การซ่อมแซมทำนบดินอ่างเก็บน้ำลำตะโคง จังหวัดบุรีรัมย์ที่ถูกน้ำกัดเซาะแล้วเสร็จ พร้อมก่อสร้างทำนบชั่วคราวโอบล้อมอีกชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลออก ขณะนี้กำลังเตรียมเสริมความสูงและความแข็งแรงของทำนบเพื่อเก็บกักน้ำ กำชับให้เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรลุ่มต่ำ 1,100 ไร่ที่มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า การซ่อมแซมทำนบดินของอ่างเก็บน้ำลำตะโคง ตำบลหัวฝาย อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ที่ถูกน้ำกัดเซาะเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 รายงานว่า นำบิ๊กแบ็ก (Bigbag) ถมปิดบริเวณทำนบดินชะลอความแรงของน้ำ หลังเกิดการกัดเซาะบริเวณรอยต่อของทำนบดินกับตัวอาคารระบายน้ำล้นฝั่งขวา (Horse Shoe Spillway)
อ่างเก็บน้ำลำตะโคงเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มีความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก 7.53 ล้าน ลบ.ม. โครงการชลประทานบุรีรัมย์รายงานการตรวจพบการกัดเซาะของน้ำบริเวณรอยต่อของทำนบดินกับตัวอาคารระบายน้ำล้นฝั่งขวา (Horse Shoe Spillway) จนเกิดการทะลุออกทำนบดินด้านท้าย (Piping) เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 26 สิงหาคม 2565 จึงเร่งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ด้านท้ายที่จะได้รับผลกระทบ พร้อมกับลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำด้วยการระบายน้ำออกทางประตูระบายน้ำ (Gate Spillway) แล้วนำเครื่องจักรกลเข้าไปถมปิดบริเวณทำนบดินด้วยกระสอบทราย (Big bag) เพื่อลดชะลอความแรงของน้ำและลดการกัดเซาะของน้ำที่กระทำต่อตัวเขื่อนที่ตรวจสอบพบว่า น้ำกัดเซาะบริเวณฐานรากใต้พื้นอาคารระบายน้ำล้นฝั่งขวาจนทำให้ตัวฝาย (Ogee Weir) และกำแพงด้านข้างฝั่งขวาของอาคารระบายน้ำล้นชำรุดเสียหาย จากนั้นก่อสร้างทำนบชั่วคราว (Coffer Dam) โอบล้อมบริเวณอาคารที่ชำรุดเสียหายและบริเวณตัวเขื่อนดินที่ถูกน้ำกัดเซาะ โดยจะเร่งเสริมความแข็งแรงและความสูงของทำนบเพิ่มเติม
สำหรับน้ำที่ไหลออกอ่างเก็บน้ำก่อนหน้านี้ อยู่ในเกณฑ์ 200 ลบ.ม./วินาทีซึ่งลำตะโคงด้านท้ายอ่างเก็บน้ำสามารถรับน้ำได้ถึง 300 ลบ.ม./วินาที ดังนั้นน้ำจึงยังอยู่ในลำน้ำ ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน แต่จะมีท่วมขังพื้นที่การเกษตรบริเวณที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งประมาณ 1,100 ไร่ซึ่งจะเร่งสูบระบายออก
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะโคง วันนี้ (28 สิงหาคม) เวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำในอ่าง 3.04 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 40.33% ของความจุที่ 7.53 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำในอ่างลดลงจากวานนี้ 49 เซนติเมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 12.44 ล้าน ลบ.ม. ระบาย 14.44 ล้าน. ลบ.ม. โดยย้ำให้เร่งเก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มเพื่อไว้ใช้ในฤดูแล้งต่อไป
อธิบดีกรมชลประทานมอบหมายให้สำนักชลประทานที่ 8 และสำนักเครื่องจักรกลหาแนวทางในการซ่อมแซมให้มั่นคงถาวรต่อไป นอกจากนี้ยังได้ส่งการให้นำสะพานแบรี่มาติดตั้งบริเวณทำนบดินที่เป็นช่องขาดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้สัญจรตามปกติ.-สำนักข่าวไทย