กรุงเทพฯ 23 ส.ค.-อธิบดีกรมชลประทานระบุ ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักทรงตัวจึงคงอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ป่าสักชลสิทธิ์ รวมถึงพระรามหก พร้อมกางแผนป้องกันกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยพร่องน้ำคลองที่เป็นรอยต่อกับกรุงเทพฯ ให้มีระดับกว่าเกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำเพิ่ม
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า จากการปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสักก่อนหน้านี้ ทำให้วันนี้อัตราการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอยูที่ 1,500 ลบ.ม./วินาที เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 400 ลบ.ม/วินาที และเขื่อนพระรามหก 420 ลบ.ม./วินาที สำหรับอัตราการะบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราดังกล่าวจะทำให้ระดับน้ำบริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำพื้นที่คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสูงขึ้น แต่ไม่ขยายวงกว้างไปสู่พื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจของทั้ง 2 จังหวัด รวมทั้งไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างแน่นอน
สำหรับแนวทางป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาและป่าสักตอนล่าง กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำด้วยการจัดจราจรน้ำให้สอดคล้องระหว่าง 3 เขื่อนคือ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหกที่อยู่ตอนล่างของแม่น้ำป่าสัก โดยการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เขื่อนเจ้าพระยาวางแผนระบายตามปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาเพื่อให้ลำน้ำมีพื้นที่รองรับฝนที่จะตกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังพร่องน้ำในคลองต่างๆ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อรองรับน้ำฝนที่ตกในทุ่ง ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หากมีน้ำจากจ. เพชรบูรณ์หลากมาต้องปรับเพิ่มการระบายเพื่อให้เขื่อนมีพื้นที่รองรับ
นายประพิศกล่าวย้ำว่า ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่ต้องกังวลว่า น้ำเหนือที่ระบายลงมาจะไหลมาท่วมกรุงเทพฯเนื่องจากกรมชลประทานบริหารจัดการไม่ให้น้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำอ. บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยาเกินกว่า 3,500 ลบ.ม/วินาทีซึ่งเป็นศักยภาพสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยหากเกินกว่านั้นจะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาในจ. ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ ล้นตลิ่ง วันนี้น้ำที่ไหลผ่านอ. บางไทรอยู่ที่ 1,482 ลบ.ม/วินาทีซึ่งยังไม่ถึงครึ่งของศักยภาพรองรับน้ำ
สำหรับแผนการดำเนินการเพื่อป้องกันกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่อาจได้รับผลกระทบทั้งจากน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และน้ำจากฝนที่ตกในพื้นที่ว่า ได้พร่องน้ำในคลองที่อยู่ตามรอยต่อกับกรุงเทพฯ ทั้งคลองบางขนาก ประเวศบุรีรมย์ หกวาสายล่าง สำโรง รวมถึงคลองชายทะเลให้ต่ำกว่าระดับเฝ้าระวัง ตลอดจนสูบน้ำออกทั้งทางแม่น้ำบางปะกงและคลองชายทะเลเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอที่รองรับน้ำ.-สำนักข่าวไทย