กรุงเทพฯ 21 ส.ค.- อธิบดีกรมชลประทานเผย กำลังเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 100 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำแม่น้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขง โดยจะเดินเครื่องได้ในอีก 2 วัน โดยมีแผนติดตั้งเพิ่มอีก 200 เครื่อง พร้อมเตรียมกระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำไว้ใช้ป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม อ.วารินชำราบและ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ล่าสุดแขวนบานระบายน้ำเขื่อนลำโดมใหญ่ที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูลแล้วเพื่อช่วยระบายน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตรริมลำน้ำโดมใหญ่
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สำนักเครื่องจักรกลกำลังเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานีให้ครบ 100 เครื่องและจะเดินเครื่องได้ในวันที่ 23 ส.ค. นี้เพื่อเพิ่มอัตราการไหลของน้ำแม่น้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขง
สาเหตุที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหารเนื่องจากแก่งหินเป็นเหมือนฝายธรรมชาติที่ทำให้น้ำไหลได้ช้า อีกทั้งอ. พิบูลมังสาหารเป็นพื้นที่ที่ลำโดมใหญ่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูล ระยะนี้มีฝนตกหนักบริเวณเทือกเขาพนมดงรักใน อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำโดมใหญ่ทำให้มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เกษตรใน อ.เดชอุดม นาจะหลวย และนาเยียจึงต้องเร่งระบายน้ำทั้งลำโดมใหญ่และแม่น้ำมูล ล่าสุดสำนักงานชลประทานที่ 7 แขวนบานระบายน้ำเขื่อนลำโดมใหญ่เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก หากเดินเครื่องผลักดันน้ำจะระบายน้ำได้มากขึ้น แต่ถ้ายังมีฝนตกลงมาเพิ่มทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำทั้ง 2 สายยังสูงอยู่ ได้วางแผนติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มอีก 200 เครื่อง
สำหรับน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ M7 ในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี ปัจจุบันอยู่ที่ 111.05 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางซึ่งยังคงต่ำกว่าตลิ่ง ส่วนตลิ่ง อ.วารินชำราบ ซึ่งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำมูล แม้เสริมพนังกั้นน้ำแล้ว แต่ยังมีจุดฟันหลอ 3 จุดจึงให้เตรียมกระสอบทรายเข้าเสริม ตลอดจนเตรียมเครื่องสูบน้ำเข้าเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำมูล โดยจะเร่งติดตั้งภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย