กรุงเทพฯ 20 ส.ค.- อธิบดีกรมชลประทานระบุ ประสานแจ้งเตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาให้เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก 40-80 เซนติเมตรระหว่างวันที่ 20-26 ส.ค. เนื่องจากจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้งเพื่อรองรับน้ำเหนือที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้แจ้งเตือนไปยัง 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานครให้เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเกิดฝนตกหนักในภาคเหนือ อีกทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 20 – 24 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 1,600 – 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและมีน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ 1,900 – 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตามปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 1,500 – 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาจะเป็นการทยอยปรับซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ดังนี้
– วันที่ 20 ส.ค. จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งระบายที่ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20 เซนติเมตร ในวันที่ 20 – 23 ส.ค.
– วันที่ 23 – 25 ส.ค. จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,500 – 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 40 – 80 เซนติเมตรในวันที่ 24 – 26 ส.ค.
นายประพิศ กล่าวว่า กำชับให้โครงการชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำท่า รวมถึงภาวะน้ำทะเลหนุนในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำและเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำ ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำได้แก่ การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุด แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือ และเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ โดยคำนึงถึงพื้นที่ลุ่มต่ำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเเล้วเสร็จ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจะแจ้งให้ทราบต่อไป สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอไปยังสำนักงานชลประทานในพื้นที่หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน.- สำนักข่าวไทย