ทำเนียบรัฐบาล16 ส.ค.-นายกฯ เผย ครม.เห็นชอบลดหย่อนภาษีประจำปี รถรับจ้างสาธารณะ 90% เป็นเวลา 1 ปี พร้อมขยายเวลาสินเชื่อช่วยเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการอีก 1 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรีมีความเห็นใจผู้ประกอบการแท็กซี่ รถสามล้อรับจ้าง และรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤติน้ำมันของโลกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการประกอบอาชีพสูงขึ้น ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ซึ่งรัฐบาลพิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการลดผลกระทบดังกล่าวต่อกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพนี้ ที่มีจดทะเบียนไว้ ประมาณ 270,000 คัน ครม.อนุมัติหลักการให้ลดภาษีประจำปีลง 90% จากที่กฎหมายกำหนด ที่จะครบกำหนดเสียภาษีประจำปี ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-30 ก.ย. 2566 เช่น รถแท็กซี่ ลดการเสียภาษีจาก 685 บาท เหลือ 68.50 สตางค์ รถรับจ้าง 3 ล้อ 185 บาท เหลือ 18.50 สตางค์
“ที่ผ่านมารัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือเยียวยา กลุ่มอาชีพผู้ขับรถรับจ้าง ที่อายุเกิน 65 ปี จำนวน 16,694 คน ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบผู้ประกันตน วงเงินคนละ 5,000 บาท ซึ่งรัฐบาลจะต้องพิจารณาเป็นระยะ ๆ ไป ว่าจะดูแลใครได้บ้าง ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องเข้าใจ เพราะรัฐบาลก็มีรายได้จากภาษีเท่านั้นเอง วันนี้มีการลดหย่อนภาษี แต่จำเป็นต้องหาวิธีการที่เหมาะสม จึงต้องเลือกเป็นกลุ่ม ๆ ไป หาเลือกทั้งหมดก็คงไม่ไหว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติขยายเวลาวงเงินสินเชื่อ “EXIM Biz Transformation Loan” ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าประเทศไทย ออกไปอีก 1 ปี จากเดินสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.2565 เป็น 30 มิ.ย.2566 เพื่อให้การช่วยเหลือเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการอย่างทั่วถึง ตามกรอบวงเงินที่ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้ จำนวน 5,000 ล้านบาท สำหรับขนาดทุกธุรกิจ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันมีการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 1,583 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 3,049 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติวงเงิน เพื่อเยียวยากลุ่มศิลปินที่อายุเกิน 65 ปี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นแรงงานนอกระบบ ไม่เข้าข่ายผู้ประกันตน ตามกฎหมายประกันสังคมจำนวน 2,459 คน รายละ 5,000 บาท เป็นวงเงิน 12 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มตกค้างเดิม.-สำนักข่าวไทย