กรุงเทพฯ 11 ส.ค. – ปลัด กทม. ประชุมซักซ้อมการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของสถานบริการ ทำเช็กลิสต์ให้เขตนำไปใช้เป็นแนวทางตรวจสอบ พร้อมเผยข้อมูลสถานบริการขึ้นเว็บไซต์ให้ประชาชนตรวจสอบและร้องเรียนได้
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ประชุมซักซ้อมการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โดยที่ประชุมได้มีการพูดถึงการเข้าตรวจสอบสถานบริการและสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวข้องหลายฉบับ ทั้ง พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม, พ.ร.ฎ.กำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2545, พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดประเภทและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการ พ.ศ. 2555 และ พ.ร.บ.การสาธารณสุข ซึ่งทาง กทม. ได้นำกฎหมายเหล่านี้ไปทำเป็นเช็กลิสต์ให้สำนักงานเขตนำไปใช้ เพื่อตรวจสอบสถานบริการ ทั้งเรื่องอาคาร ปัญหาเสียงดังรบกวน การระบายอากาศ แสงสว่าง ระบบความปลอดภัย
นายขจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงในจังหวัดชลบุรี จึงต้องมีการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในกรุงเทพมหานคร แม้ว่าที่ผ่านมามีการตรวจอย่างต่อเนื่อง แต่อยากให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเข้าใจ จึงได้เชิญสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักอนามัย สำนักโยธา สำนักเทศกิจ และตัวแทนจาก 6 กลุ่มเขตเข้าร่วมประชุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ กทม. ได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติและให้ประชาชนที่มาใช้บริการได้รับความปลอดภัย จึงอยากให้มีการซักซ้อมให้เกิดความเข้าใจและทำอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักอนามัยจะได้ส่งเช็กลิสต์ให้เขตใช้เป็นแนวทางเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ หากตรวจตามเช็กลิสต์พบความบกพร่องให้ทางเขตแจ้งเตือนผู้ประกอบการเพื่อแก้ไข แต่หากพบว่าไม่ปลอดภัยกับผู้ใช้บริการให้สั่งปิดได้ สำหรับสถานประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ กทม. กว่า 1,300 แห่ง ขณะนี้เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการ หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการสาธารณสุข แต่เพื่อให้ผู้ใช้บริการสบายใจ ได้หารือที่ประชุมเพื่อหาแนวทางนำข้อมูลสถานประกอบการที่มีการตรวจสอบแล้วและมีความปลอดภัย นำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งจัดให้มีช่องทางให้ประชาชนสามารถร้องเรียนได้ หากสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้สำนักอนามัยเป็นแม่งานหลัก ส่วนการตรวจเชิกรุกสถานประกอบการ 494 แห่ง มีการตรวจสอบครบแล้ว และมีการออกหนังสือแจ้งเตือนไปครบทุกแห่ง ในวันอังคารหน้าจะมีการรายงานความคืบหน้าอีกครั้ง โดยจะพยายามตรวจให้ครบ 100% ทุกสัปดาห์.-สำนักข่าวไทย