กรมชลประทาน 9 พ.ย.-กรมชลประทานระบุ สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนพื้นที่ภาคใต้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนัก ชุมพรและหาดใหญ่ โดยเตรียมใช้โครงการพระราชดำริ บรรเทาปัญหาอุทกภัย
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันได้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว กรมชลประทาน ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ โดยการตรวจสอบความพร้อมใช้งานของระบบชลประทาน ทั้งอาคารชลประทาน ระบบส่งน้ำ ระบบระบายน้ำ คันกั้นน้ำ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที พร้อมกับให้ตรวจสอบระบบป้องกันน้ำท่วมของหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในส่วนของจังหวัด เทศบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากพบว่ามีปัญหาหรือมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถรองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ให้รีบแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมปรับปรุงให้สามารถใช้งานป้องกันอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ นายสัญชัย กล่าวว่า ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 49,762 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปี 2558 จำนวน 8,737 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 26,236 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะ 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำใช้การได้ 3,115 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 4,838 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำใช้การได้ 912 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 998 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 9,863 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร และอื่นๆตลอดในช่วงฤดูแล้งปี 2559/60
ขณะที่สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 715 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในอัตรา 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2559
ส่วนสถานการณ์น้ำในจังหวัดเพชรบุรี ภายหลังจากเขื่อนเพชรได้ลดการระบายน้ำลง ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ต่ำกว่าตลิ่งแล้วตลอดทั้งลำน้ำ สภาพในบริเวณตัวเมืองเพชรบุรี น้ำแห้งเกือบหมดแล้ว สำนักงานชลประทานที่ 14 และหน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้าช่วยเหลือในพื้นที่ ดำเนินการซ่อมคันดินที่เสียหาย และเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขัง โดยใช้เครื่องสูบน้ำของกรมชลประทาน 20 เครื่อง เครื่องสูบน้ำของเทศบาลเมืองเพชรบุรี 8 เครื่อง และสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค7 จังหวัดราชบุรี จำนวน 3 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 31 เครื่อง นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานวัดเขาตะเครา 8 เครื่อง ที่บริเวณท่อระบายน้ำบางขุนไทร อำเภอบ้านแหลม 2 เครื่อง และที่บริเวณคลองบางน้ำเชี่ยว อำเภอบ้านแหลม 2 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 12 เครื่อง พร้อมด้วยรถแบ๊คโฮ 2 คัน และเตรียมรถบรรทุกน้ำไว้สนับสนุนการอุปโภคบริโภคอีก 2 คัน-สำนักข่าวไทย