รัฐสภา 6 เม.ย.-สุรชัยระบุสนช.จะพิจารณากฎหมายลูกแต่ละฉบับให้เสร็จใน 45 วันตามกรอบรธน. ยอมรับหากสมาชิกลาออกจำนวนมากอาจกระทบการพิจารณากฎหมาย
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติ(สนช.) คนที่1 กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถือครองหุ้นในกิจการผูกขาดตัดตอนหรือสัมปทานของรัฐ ซึ่งในรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดข้อห้ามและเงื่อนไขถึงการถือครองหุ้นของคู่สมรสและบุตรด้วยว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อไม่ให้ขัดกันในผลประโยชน์ โดยไม่ให้สมาชิกไปเกี่ยวข้องกับสัมปทานของรัฐในการถือครองหุ้น บทบัญญัติดังกล่าวมีผลตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศ แต่จะมีผลย้อนหลังหรือไม่ ต้องเทียบเคียงกับคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญเก่าในปี2550
“เรื่องนี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปี2550 แล้ว ส่วนสมาชิกจะตัดสินใจขายหุ้นหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องส่วนบุคคล หากจะทำเพื่อความสบายใจก็ขายหุ้นทิ้งได้ เท่าที่ทราบตอนนี้มีบางท่านที่ไม่อยากกังวลใจ ก็ขายหุ้นทิ้งไปบ้างแล้ว โดยข้อห้ามนี้รวมถึงภรรยาและบุตรด้วย” รองประธานสนช. กล่าว
ส่วนกระแสข่าวการลาออกจากการเป็นสนช.และสปท. เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง นายสุรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครมาปรึกษา แต่ส่วนตัวเห็นว่าตามรัฐธรรมนูญมีเวลา 90 วันที่ให้สมาชิกตัดสินใจลาออก ส่วนจะกระทบต่อการพิจารณากฎหมายลูกหรือไม่ ยอมรับว่าหากลาออกจำนวนมากก็ต้องมีผลกระทบอย่างไรก็ตาม สนช.มีหน้าที่ทำตามกรอบรัฐธรรมนูญ โดยต้องพิจารณากฎหมายต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด ขณะที่สนช.ตั้งคณะกรรมการมาศึกษาล่วงหน้าเกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายลูก โดยเฉพาะกฎหมายกกต.และกฎหมายพรรคการเมืองที่ได้พิจารณาคืบหน้าไปมากแล้ว
“ส่วนข้อบังคับการประชุมสนช.ได้ร่างให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเร็ว ๆ นี้ มั่นใจว่าสนช.จะสามารถทำงานได้ตามเป้า โดยวางกรอบเวลาในชั้นกรรมาธิการ ไม่เกิน 45 วัน ในการพิจารณากฎหมายแต่ละฉบับ” รองประธานสนช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images/1491471227196.jpg)