กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – ตำรวจเร่งตรวจพิสูจน์วัตถุพยานในคดีขาใหญ่ตลิ่งชันใช้ปืนข่มขู่ 3 พีอาร์สาว ในงานปาร์ตี้ส่วนตัว
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่พีอาร์สาวจากสถานบันเทิงชื่อดัง 3 คน แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ให้ดำเนินคดีกับนายเอกพล หรือเอก อายุ 35 ปี ฐานข่มขู่ทำให้ตกใจกลัว โดยระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเอกพล ได้จ้างให้ไปชงเหล้าและให้ความบันเทิงในงานปาร์ตี้ส่วนตัวในบ้านพักย่านซอยสวนผักตลิ่งชัน แต่เกิดความไม่พอใจที่สาวพีอาร์ ไม่ยอมให้ความบันเทิงลูกชาย อายุ 17 ปี ที่อยู่ในชุดนักเรียน จึงได้ใช้คำพูดข่มขู่ต่าง ๆ และอ้างว่าเคยก่อเหตุยิงต่อสู้กับตำรวจ สน.ตลิ่งชัน มาแล้ว พร้อมกับนำวัตถุคล้ายกระสุนเต็มกล่องมาวางต่อหน้าผู้เสียหายทั้ง 3 คน ว่า ล่าสุดตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ได้เชิญตัวนายเอกพล มาแจ้งข้อหาแล้ว ก่อนนำตัวไปตรวจค้นบ้านพักพบปืนบีบีกัน ลักษณะมีการดัดแปลงส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่ามีลักษณะเข้าข่ายเป็นอาวุธปืนหรือไม่ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไปก่อนระหว่างรอผลการตรวจสอบปืน
ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายอ้างว่ามีการบังคับให้พวกตนไปให้ความบันเทิงกับเยาวชนอายุ 17 ปี นั้น ทาง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนพิจารณาว่าเข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กหรือไม่
พล.ต.ต.จิรสันต์ ยอมรับว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีตำรวจในเครื่องแบบมาร่วมงานปาร์ตี้ส่วนตัวจริง ตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นตำรวจสังกัดใด หากพบว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย
ขณะที่เหตุการณ์ในพื้นที่ สน.สำราญราษฏร์ เมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. ที่นายเอกพล ถูกกล่าวหาว่าตามไปข่มขู่กลุ่มผู้เสียหายทั้ง 3 คน ในงานปาร์ตี้อีกงาน โดยผู้เสียหายอ้างว่ามีการชักอาวุธปืนข่มขู่ โดยนิ้วของนายเอกพล อยู่ในโกร่งไกพร้อมยิงนั้น ต้องตรวจพิสูจน์อาวุธปืนว่าเป็นของจริงหรือไม่ พร้อมกับสอบปากคำผู้เสียหายโดยละเอียดเพื่อนำข้อเท็จจริงไปพิจารณาข้อหาที่ถูกต้อง
สำหรับประวัติของนายเอกพลนั้นเคยถูกดำเนินคดีความผิดต่อเสรีภาพ ในเหตุการณ์บุกไปข่มขู่และอุ้มคนในงานบวชไปทำร้ายร่างกายเมื่อปี 2563 โดยเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปลายปี 2564 จากนั้นได้ออกมาประกอบอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ แต่ยังไม่ถึงขั้นเข้าข่ายมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล และไม่เคยก่อเหตุยิงต่อสู้ตำรวจตามที่กล่าวอ้าง. -สำนักข่าวไทย