ทำเนียบ 26 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีหารือคณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ ยืนยัน ความพร้อมของไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Expo2028 -Phuket, Thailand
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นาย อเลน แบร์เช่ (Mr. Alain Berger) ประธานคณะกรรมการบริหาร พร้อมคณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions: BIE) เข้าเยี่ยมคารวะและหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อสำรวจพื้นที่การจัดงานจัดเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ที่จังหวัดภูเก็ต ที่ประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพภายใต้ชื่องาน Expo2028-Phuket, Thailand โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รถมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางอรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEP นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงาน TCEP นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับคณะกรรมการบริหารฯ และคณะกรรมการ BIE และได้แสดงจุดยืนประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo2028 – Phuket, Thailand พร้อมกับให้ให้ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการจาก BIE ถึงศักยภาพ ความพร้อมของประเทศไทย ตลอดจนความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ของรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน เพื่อให้ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานนิทรรศกาลระดับโลกในครั้งนี้
ทั้งนี้รัฐบาลได้เสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ภายใต้แนวคิด “ชีวิตแห่งอนาคต – แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว” (Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity) มุ่งส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน บนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน รวมทั้งชุมชนต่าง ๆ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาของจังหวัดภูเก็ตที่มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การศึกษา นวัตกรรม บริการในระดับมาตรฐานนานาชาติ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนและสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในการเป็นเจ้าภาพที่ดีเพื่อต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งล่าสุดได้มีการนำเข้าหารือในมติคณะรัฐมนตรีและอนุมัติในกรอบงบประมาณแล้ว
ด้านนาย Alain Berger ประธานคณะกรรมการบริหาร BIE กล่าวว่า ได้รับทราบถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นของไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่สำคัญในการพิจารณาคัดเลือกประเทศหรือเมืองเจ้าภาพจัดงาน โดยทางคณะกรรมการ BIE จะประเมินความเป็นไปได้ของโครงการฯ ที่ไทยเสนอ ตลอดจนการสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งจากรัฐบาล หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชน ผ่านการสำรวจความพร้อมของพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต และจะจัดทำรายงานการสำรวจพื้นที่และศักยภาพของไทยเพื่อประกอบการพิจารณาโครงการต่อไป ซึ่งทาง BIE เน้นย้ำถึงการนำเสนอโครงการที่จะสามารถจุดประกายแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นและต่อยอดไปยังภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยมีความเหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน เนื่องจากภูเก็ตเป็น 1 ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ที่รัฐบาลมุ่งผลักดันให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก (Medical Tourism Destination) รวมทั้งเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น มีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมชิโน – โปรตุกีส อีกทั้งเมืองยังมีความทันสมัยโดยยังสามารถดำรงศิลปะและวัฒนธรรมของตนเองได้อย่างเด่นชัด และเป็นจังหวัดแรกที่เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ผ่านโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ซึ่งถือเป็นต้นแบบของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ภูเก็ตยังมีความพร้อมด้านการบริหารจัดการ ซึ่งรัฐบาลมีแผนพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการท่องเที่ยวของภาคส่วนบริการที่เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่การคมนาคมขนส่ง การควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวที่เหมาะสม ควบคู่กับการบริหารจัดการทางสาธารณสุขตามแนวทางวิถีใหม่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เน้นการบูรณาการจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าภาพเพื่อจัดเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ปี 2028 มีประเทศที่เสนอตัวแข่งขันทั้งหมด 5 ประเทศประกอบด้วย ไทย เซอร์เบียร์ สเปน อาร์เจนตินา และสหรัฐอเมริกา ซึ่งตามขั้นตอนการคัดเลือก แต่ละประเทศจะต้องนำเสนอข้อมูลความพร้อมของประเทศทั้งหมด 3 ครั้ง และ BIE ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมสถานที่จัดงาน 2 ครั้ง และประกาศผลการคัดเลือกในช่วงเดือนมิ.ย. 2566. สำนักข่าวไทย