นายกฯ ชื่นชมโครงการ “ขาณุวรลักษบุรี โมเดล” สำเร็จ

จ.กำแพงเพชร 7 ก.ค.-นายกฯ ชื่นชมการผลิตข้าวมาตรฐานเกษตรปลอดภัยของกลุ่มปลูกข้าว GAP “ขาณุวรลักษบุรี โมเดล” บอกต่างชาติสนใจข้าวไทย แต่ติดปัญหาขนส่งไกล ระบุถ้าบ้านเมืองสงบ มีแต่คนอยากมาลงทุน ย้ำไม่ใช่คนสร้างขัดแย้ง แต่มาเพื่อให้สงบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดสุดท้ายการลงพื้นที่จ.กำแพงเพชร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมการผลิตข้าวมาตรฐานเกษตรปลอดภัยของกลุ่มปลูกข้าว GAP “ขาณุวรลักษบุรี โมเดล” แนวทางการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน  โดยนายกรัฐมนตรีทดลองขับรถดำนา รุ่น 8 แถว นั่งขับ SPV 8 และชมโดรนพ่นปุ๋ย ก่อนนั่งพูดคุยกับเกษตรกร ว่า วันนี้มาดูผลสำเร็จในพื้นที่ เพื่อดูว่าจะทำอะไรต่อไปได้ ซึ่งความสำเร็จที่มีต้องเผื่อแผ่แบ่งปันและนำไปสู่การส่งออก

“รัฐบาลจะสนับสนุนการปลูกข้าวพันธุ์นุ่ม สิ่งที่ผมเห็นวันนี้คือการทำมาตั้งแต่ต้นทาง ผมรับปากจะหาทางดูตลาดการส่งออกให้ ซึ่งต่างชาติได้ติดต่อมา มีความต้องการสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าว แต่อีกปัญหาคือเส้นทางการขนส่งที่ไกล ทำให้มีปัญหาค่าขนส่งสูง ดังนั้น ต้องหารือร่วมกัน เพื่อร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกัน ไม่ใช่ตัดราคาหรือแย่งกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ชาวขานุโมเดลประสบความสำเร็จ ทำให้มีข้าวประจำถิ่น ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้กับผู้ที่ยังไม่พร้อมจะทำ สิ่งสำคัญคือโรงสี ที่ต้องดูแลช่วยเหลือเกษตรกร หากช่วยกันทำสิ่งใดได้ก็ต้องช่วย เพื่อที่จะทำให้ดีขึ้น เพราะเกษตรกรทนมาครึ่งชีวิต

“สิ่งสำคัญคือต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด ถ้าช่วยให้ประสบความสำเร็จ จะเป็นกุศลซึ่งจะย้อนกลับมาที่เราที่โรงสี นั่นคือกุศล คือการทำความดีให้คนอื่นมีความสุข วันนี้นายกฯ ก็ใช้วิธีนี้ ถ้าทำเมื่อไหร่ประสบความสำเร็จกับประชาชน นายกฯ ก็จะมีความสุข วันนี้ไม่ได้มาขอคะแนนเสียง ผมคือนายกฯ รับฟังทุกส่วนทั้งรัฐมนตรี ส.ส. ถ้าได้ทำงานก็จะทำต่อไปเรื่อย ๆ ให้มีผลงานเป็นรูปธรรม รัฐบาลถ้าอยู่ยาว ต้องมีผลงานแบบนี้ แต่ถ้าอยู่สั้น ๆ 1-2 ปี มีผลงานเล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่สำเร็จ รัฐบาลต้องทำงานแบบมียุทธศาสตร์ ไม่ได้ทำแบบสุกเอาเผากิน ไม่ได้ต้องการให้เงินทั้งหมดมาเป็นบุญคุณกับเรา แต่ให้เงินเพื่อไปสร้างความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความมั่นคง เสถียรภาพของรัฐบาล ถ้าประชาชนรักกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ทุกคนไปด้วยกัน จะทำให้คนอยากมาประเทศไทย ถ้าเขามา เขาก็อยากมาใช้เงิน อยากมาลงทุนกับเรา หลายประเทศเอาคนต่างประเทศเข้ามาไม่จำกัด ให้สิทธิประโยชน์คนพวกนี้ก็มากันหมด แต่คนสมองดี ๆ ไปหมด ให้สัญชาติส่งไป เรายังให้อย่างนั้นไม่ได้ แต่เราก็หาวิธีการให้เขามาอยู่เมืองไทย เรื่องต่อวีซ่า จะเห็นว่าต่างประเทศมาอยู่ประเทศไทย อย่างญี่ปุ่นมาแล้วไม่อยากกลับ เพราะอยู่ญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายสูง แต่คนไทยบางคนอยากไปอยู่ข้างนอก ซึ่งตนก็แปลกใจ


“ผมไม่ใช่คนสร้างความขัดแย้ง ผมเข้ามาเพื่อให้มันสงบ และวันนี้ผมก็ไม่อยากขัดแย้งอีก นั่นคือความหนักใจของผมวันนี้ ถ้าทะเลาะกันอีก สิ่งที่ผมทำไว้ ไปหมด เอกอัครราชทูต ทูต ผู้นำมา รองนายกฯ มา เขาบอกขอให้ประเทศไทยสงบสุขเท่านั้นเอง ด้านอื่นเขาพร้อมหมด และพร้อมจะมา มีเรื่องการลงทุนและรถไฟฟ้าพร้อมจะมาเกือบ 10 บริษัท จะมาทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนรถไฟฟ้าอันดับต้นของโลก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ขอใช้คำว่าเราเอาชนะโควิดได้แล้ว ชนะที่เราอยู่กับโควิดได้ คือใส่หน้ากาก ถ้าอยู่ในพื้นที่ไม่ปลอดภัย และอยู่ในโลกของการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก