ชี้หาร 500 ขัด รธน. หวังสืบทอดอำนาจ

รัฐสภา 7ก.ค.-ก้าวไกลค้านผลโหวตสูตรคำนวณ ส.ส.หาร 500 ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ เจตนาสืบทอดอำนาจ เชื่อมีการคุยกันที่ทำเนียบฯ ผิดหวัง ส.ว.กลับลำ ชี้ชัดไม่อิสระจริง


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในประเด็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งที่ประชุมรัฐสภาวานนี้ (6 ก ค.) ปรับเปลี่ยนจากการหารด้วย 100 มาเป็นหารด้วย 500 และขอตั้งข้อสังเกตว่า การลงมติของรัฐสภามิได้เป็นไปเพื่อต้องการจะออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีให้แก่ประชาชน แต่เป็นการลงมติเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เท่านั้น จนนำไปสู่การโหวตที่ขัดและไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

“ตามความเห็นของพวกผม ถือเป็นการลงมติที่อัปยศที่สุด พรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งดังกล่าว และจะคัดค้านถึงที่สุด รวมถึงคัดค้านกระบวนการสืบทอดอำนาจดังกล่าว และจะร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยและพี่น้องประชาชน เพื่อออกจาก “ระบอบประยุทธ์” ให้ได้ โดยจะทำถึงที่สุด ทั้งเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การตีความเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี 8 ปี” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว


นายชัยธวัช กล่าวว่า หากร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวผ่านรัฐสภาไปได้ ตามมาตรา 132 ของรัฐธรรมนูญ จะต้องส่งให้ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เราจะต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมีการส่งความเห็นกลับมาว่าร่างดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ชอบให้ได้

“เราต้องรอดูว่า ประธานรัฐสภาจะส่งไปให้ 3 องค์กร รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าส่งให้ กกต.เพียงอย่างเดียว เราคงต้องหารือกัน โดยเฉพาะพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เห็นร่วมกันว่าจะพิจารณาอย่างไร สิ่งที่เรากังวลที่สุด หากมีเจตนาจะสืบทอดอำนาจ โดยไม่สนใจกระบวนการใด ๆ สุดท้ายอาจจะนำไปสู่การเดดล็อก และทำให้ไม่มีพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งรองรับ หากเกิดการยุบสภาขึ้น ซึ่งเราไม่อยากเห็น เพราะเท่ากับเอาอำนาจทั้งหมดไปไว้ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวาน (6 ก.ค.) เป็นเรื่องน่าผิดหวัง เพราะในชั้นกรรมาธิการยืนยันมาตลอดว่า การคำนวณ ส.ส. ต้องหารด้วย 100 แต่อยู่ๆ กรรมาธิการในฝั่งวุฒิสภาก็เปลี่ยนท่าที ซึ่งเป็นการยืนยันชัดเจนว่ามีการแทรกแซงเกิดขึ้น ดังนั้น ยืนยันไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับการสืบทอดอำนาจ และจะขอต่อต้านอย่างแน่นอน และยังหวังว่าเมื่ออำนาจกลับคืนสู่มือของประชาชน หวังมือของประชาชนในการสนับสนุน


นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่พวกตนสงสัยและอยากถามว่าที่เคยพูดมาตลอดว่า ส.ว.มีความเป็นอิสระ เหตุใดครั้งนี้จึงไม่อิสระ เชื่อว่ากรณีนี้มีการพูดคุยกันที่ทำเนียบรัฐบาล ดังนั้น เท่ากับว่าการทำหน้าที่ของ ส.ว.ไม่ได้เป็นอิสระจริง พรรคก้าวไกลรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเห็นว่าการออกแบบระบบแบบนี้ ไม่ได้คำนึงถึงประชาชน แต่เป็นการออกแบบเลือกตั้งว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว