ทำเนียบรัฐบาล 30 พ.ค.- “อนุทิน” ยันภท.ไฟเขียวผ่านงบฯปี 66 วอนอย่าเล่นการเมืองกับ พ.ร.บ.งบฯ เชื่อ “ชัชชาติ”ไม่หนักใจรถไฟฟ้าสายสีเขียว มั่นใจทำถูกต้องเพื่อประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขกล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.นี้ ว่า พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านขู่ที่จะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯก่อนรับหลักการนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย
ส่วนจะถึงขั้นมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดเตรียมการเรื่องงบประมาณไม่ใช่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี (ครม.)ทำ แต่ทุกอย่างเริ่มจากความต้องการของประชาชน และผ่านการกลั่งกรองนำเสนอจากข้าราชการประจำ ครม.ที่มีหน้าที่พิจารณาและส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎร
นายอนุทิน กล่าวว่า หากฝ่ายค้านเห็นว่า รัฐมนตรีคนใดปฎิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เหมาะสม และทุจริตก็ควรจะใช้วาระในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ เพื่ออภิปรายตัวรัฐมนตรีตรงๆ เพราะเรื่องงบประมาณมีผลต่อการเร่งนำมาใช้กับประชาชน หากร่างพ.ร.บ.งบฯปัญหาก็จะมีผลกระทบกับการใช้แหล่งงบประมาณอีกมากมาย
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ ที่กระทรวงสาธารณสุขถูกจัดอันดับงบประมาณอยู่ในลำดับที่ 9 นายอนุทิน กล่าวว่า ยังมีอีกหลายขั้นตอน
เมื่อถามถึง กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย เตรียมลงพื้นที่อีสานใต้ในเดือนมิ.ย.นี้ จะกระทบต่อฐานเสียงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หลังจากมีส.ส.พรรคเพื่อไทยไปต้อนรับ นายอนุทินขณะพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 9- 10 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะลงพื้นที่ทางการเมือง ที่ต้องเริ่มรณรงค์เตรียมการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความนิยมให้กับประชาชน ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และไม่มีพื้นที่ของใคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ใครมีโอกาสก็สามารถลงไปในพื้นที่เพื่อชี้แจงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เลือกเข้ามาเป็นผู้แทน ทั้งนี้ ขอให้มองเรื่องดังกล่าวเป็นองคาพยพของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองแต่ละพรรคต้องไม่หยุดสร้างนโยบายให้ประชาชนเห็นว่า จับต้องได้ พูดแล้วทำ
เมื่อถามถึงกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่ากทม. ออกมาระบุว่าเรื่องไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ใช่ความรับผิดชอบของกทม.ฝ่ายเดียว รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือในด้านใดบ้างนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าจะต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องและต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสัญญาสัมปทานหรืออะไรก็ตาม และเชื่อว่าไม่มีใครโยนเรื่องดังกล่าวให้นายชัชชาติรับผิดชอบ ซึ่งควรจะให้เวลานายชัชชาติได้เข้ามาศึกษาข้อมูลที่มาที่ไปของเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะกระทรวงคมนาคมได้ส่งคำถามไปยังกทม.หลายครั้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายชัชชาติจะได้เข้าไปศึกษารายละเอียดในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ อะไรควรจะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและเชื่อว่าสำหรับนายชัชชาติไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ลำบาก ยากเย็น เพราะมีฉันทานุมัติจากประชาชน 1.3 ล้านเสียง นายชัชชาติต้องคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และน่าจะยึดตามข้อกฎหมายทุกประการ
ส่วนแนวทางของผู้ว่าฯกทม.คนใหม่สอดรับกับแนวทางของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและถูกกฎหมายถือว่าสอดรับกับทุกฝ่าย
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานบันเทิงจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ว่า ที่ผ่านมาได้กำชับวิธีการต่างๆที่จะทำให้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายรับทราบและจะเร่งดูเรื่องของระบบไทยแลนด์พาส ซึ่งในวันที่ 1 มิ.ย.คนไทยจะไม่ต้องกรอกระบบดังกล่าวแล้วและในอนาคตจะยกเลิกทั้งหมด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น ส่วนจังหวัดที่จะให้ถอดหน้ากากอนามัยจะเป็นพื้นที่ใด นายอนุทิน กล่าวว่า หากยังไม่จำเป็นประชาชนก็ยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ตามปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมากแต่หากมีคนจำนวนน้อยแล้วมั่นใจว่ามีความปลอดภัยก็สามารถที่จะถอดหน้ากากอนามัยได้ ต่อให้ไม่มีโควิด-19 ก็สามารถใส่แมสก์ได้ ไม่ได้ห้ามอะไร.-สำนักข่าวไทย