กระบี่ 10 พ.ย.-ช้างเผือก ถือเป็นราชพาหนะคู่บุญบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย และเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน ในบรรดาช้างเผือกคู่บารมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีคุณพระเศวตฯ ช้างเผือกที่คล้องได้ที่ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งต่อมาได้รับการเลื่อนยศเป็นช้างเผือกชั้นเอก หรือช้างเผือกลำดับที่หนึ่ง
พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงใช้พระหัตถ์จับงวงช้างเผือกคู่บารมีภาพนี้ ถูกบันทึกไว้เมื่อครั้งจัดพิธีสมโภชโรงช้างต้น เมื่อปี พ.ศ 2547 ณ วังไกลกังวล หัวหิน พระราชทานเลื่อนชั้นยศคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกคู่บารมี จากช้างเผือกโท สู่ช้างเผือกเอก ถือเป็นลำดับชั้นยศสูงสุด ในจำนวน 19 ช้างเผือกคู่บารมี
คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกคู่บารมี ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดในป่าลำทับ จ.กระบี่ ควาญช้างคล้องได้เมื่อปี 2499 ในตอนนั้นมีอายุราว 6 ปี นายเสริม คงหวัง ควาญช้างผู้ดูแลให้ชื่อว่า พลายแก้ว ด้วยตรงตามคชลักษณ์ 7 ประการ คือ มีตาขาว เพดานขาว เล็บขาว ขนขาว พื้นหนังสีคล้ายหม้อใหม่ ขนหางขาว และอัณฑะโกศขาว เป็นช้างเผือกในตระกูลพรหมพงศ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นช้างที่พระพรหมสร้าง ในปี 2501 พลายแก้วถูกถวายให้เป็นช้างเผือกคู่บารมี และได้รับการสมโภชขึ้นระวาง ณ โรงช้างพระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2502 ได้รับพระราชทานนามว่า “พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาติ สยามราษฎรสวัสดิ์ประสิทธิ์ รัตนกุญชร นิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรพิตรสารศักดิเลิศฟ้า”
ตำนานของคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ยังได้ถูกบอกเล่าผ่านทางนางกิจจา คงหวัง บุตรสาวของนายเสริม คงหวัง ควาญช้างที่ดูแลคุณพระเศวตฯ เมื่อครั้งยังเป็นพลายแก้วว่า คุณพระเศวตฯ เป็นช้างที่มีนิสัยเฉลียวฉลาด มีความจำดีเยี่ยม เห็นได้จากเมื่อครั้งที่ผู้เป็นพ่อเข้าไปเยี่ยมคุณพระเศวตฯ ที่วังไกลกังวล คุณพระเศวตเปล่งเสียงร้องลั่น น้ำตาไหล ทันทีที่ได้เจอผู้เป็นพ่อ แม้ว่าจะจากกันมาเป็นเวลานานแล้ว
ปัจจุบัน ความผูกพันระหว่างคุณพระเศวตรอดุลยเดชพาหนฯ ช้างเผือกคู่บารมีในหลวงรัชกาลที่ 9 กับชาว จ.กระบี่ ยังได้ถูกถ่ายทอดผ่านวิชาเรียนของโรงเรียนประชานุเคราะห์ลำทับ เพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้เกิดความภาคภูมิใจในบ้านเกิด ที่เป็นต้นกำเนิดของช้างเผือกคู่บารมี อนาคต อ.ลำทับ ยังได้เตรียม จัดเป็นการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์
คุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ล้มลง ณ วังไกลกังวล เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2553 รวมระยะเวลาการถวายงานแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเวลารวม 52 ปี.-สำนักข่าวไทย