กทม.22 มี.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจง ม.44 บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก 3 กรณี เข้มยกรถจอดกีดขวางจราจร คาดเข็มขัดนิรภัย และชำระค่าปรับใบสั่ง
พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงชี้แจงกรณีรัฐบาลมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่ามี 3 เรื่องเร่งด่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมขนส่งทางบก จะดำเนินการร่วมกัน คือ กรณีจอดรถกีดขวางจราจร เจ้าหน้าที่จราจรมีอำนาจยกรถไปเก็บรักษาได้ทันที โดยเจ้าของรถจะต้องรับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด, การบังคับใช้กฎหมายให้ผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เบื้องต้นจะเน้นบังคับใช้กับรถใหม่ที่มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนกรณีรถกระบะ หรือรถโดยสารรุ่นเก่า กรมขนส่งทางบกอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อให้ทันบังคับใช้ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ และกรณีผู้ที่ถูกออกใบสั่งแต่ไม่ชำระค่าปรับ ซึ่งสถิติพบว่าตั้งแต่ 1 ก.ย.2559 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ทำผิดกฎจราจร 680,000 ใบ มีเพียง 11% ที่ไปชำระค่าปรับ อีก 86% ไม่ชำระค่าปรับ และ 2% แจ้งยกเลิกใบสั่ง โดยผู้ที่ถูกออกใบสั่งหลังมีคำสั่ง คสช.เมื่อวานนี้(21 มี.ค.) จะต้องมาชำระค่าปรับภายใน 15 วัน หากยังไม่ชำระจะออกหนังสือเตือนให้มาชำระภายในเวลา 15 วัน หากไม่มาอีกก็จะบันทึกข้อมูลส่งไปยังกรมการขนส่งเพื่อให้ระงับการต่อภาษีประจำปีชั่วคราว ซึ่งจะต้องชำระค่าปรับก่อน โดยเปิดโอกาสให้สามารถชำระได้ผ่านทางนายทะเบียนกรมขนส่งได้ทันที หรือเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย กรณีผู้ที่ถูกออกใบสั่งแต่ไม่ได้กระทำผิดสามารถทำหนังสือโต้แย้งเพื่อพิจารณายกเลิกใบสั่งได้
อย่างไรก็ตาม จากนี้จะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงมาตรการดังกล่าว รวมทั้งในบางกรณีจะต้องมีกฎระเบียบออกมารองรับ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีผลเป็นรูปธรรมในช่วงสงกรานต์นี้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน.-สำนักข่าวไทย