จันทบุรี 21 มี.ค.-ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี เผยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับลูกชายนายตำรวจยศ ร.ต.ท. หลังใช้ไม้แทงสนุกตีหลานนายกเทศมนตรีเสียชีวิต พร้อมนำตัวฝากขัง
พันตำรวจเอก สุเทพ บุญค้ำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เผยความคืบหน้ากรณีชายอายุ 36 ปี ลูกชายของนายตำรวจยศร้อยตำรวจโท หัวหน้าตู้ยามแสลง สถานีตำรวจภูธร ก่อเหตุใช้ไม้แทงสนุกเกอร์ทำร้ายน้องโป๊ยเซียน อายุ 25 ปี พนักงานจ้างกองคลัง สังกัดสำนักงานเทศบาลเมืองจันทบุรี และยังเป็นหลานชายของนายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี จนเสียชีวิต หลังจากที่เมื่อวานนี้นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี พร้อมด้วย นางสุปราณี
สุทธิพัฒนกุล และ นางสิริวรรณ วิเชียรศิลป์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นป้า และแม่ของน้องโป๊ยเซียน ได้เข้าพบ พลตำรวจตรีจรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี เพื่อร้องขอให้เป็นตัวกลางในการทำคดีนี้ ให้ชอบธรรมมากที่สุด เพราะหวั่นเกรงว่าคดีอาจจะไม่คืบหน้า เหตุผู้ต้องหาเป็นลูกชายนายตำรวจในพื้นที่ ยืนยันหลังจากวันเกิดเหตุนายตำรวจคนดังกล่าวได้พาตัวลูกชายมามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวนเมื่อเช้าวันที่ 18 มี.ค. 60 หลังทราบว่าคู่กรณีที่ถูกทำร้ายได้เสียชีวิตแล้ว พร้อมให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุไปเพราะว่าความหึงหวง ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบสวนพร้อมรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ทั้งจากภาพกล้องวงจรปิด ประจักษ์พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เพิ่มเติมมาประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดี ในขณะนี้ ทาง พันตำรวจโท จงเดช ศรีตะวัน พนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบคดี ได้แจ้งข้อข้อกล่าวหาความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวฝากขังที่เรือนจำจังหวัดจันทบุรี ซึ่งอยู่ในระหว่างรอผลการผ่าศพชันสูตรจากทางโรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ มาประกอบกับสำนวนคดีอีกครั้ง
ขณะที่แม่ของ น้องโป๊ยเซียน ให้การทั้งน้ำตาว่า คืนวันที่ 17 มี.ค.เวลากว่า 22.00 น.ระหว่างลูกชายกำลังจะเข้านอน ได้มีเพื่อนโทรศัพท์มาหาและตามให้ออกไปข้างนอก ลูกชายขอออกไปบอกว่าไปเพียงชั่วโมงเดียวจะกลับมา แต่แล้วเวลา 01.05 น. ของวันที่ 18 มี.ค. ก็มีเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาล โทรมาแจ้งว่าลูกชายถูกทำร้าย จนช่วงเช้าวันเดียวกันก็เสียชีวิตลง ซึ่งตนยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีลูกชายเพียงคนเดียว เพิ่งเรียบจบปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ เอกบัญชี มาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณีจันทบุรี ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 และทำงานอยู่ที่เทศบาลเมืองจันทบุรี โดยที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาหรือบาดหมางกับใคร โดยอยากฝากให้ทางตำรวจ เดินคดีด้วยความยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย