กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – “เสรีพิศุทธ์” ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ขน 25 ส.ส.เข้าสภาฯ โวเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี มีโอกาสชนะ เหตุ ปชป.เจอภาวะชื่อเสีย จี้ “จุรินทร์” ลาออก เพื่อรับผิดชอบกรณี “ปริญญ์”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเสรีรวมไทย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มี ส.ส.ของพรรคและสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมกว่า 520 คน
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า ผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทยจะได้รับเลือกตั้ง เป็น ส.ส.เข้าสภาฯ 25 คน ซึ่งเพียงพอที่จะสนับสนุนชื่อตนให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเลือก สำหรับยุทธศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้งของพรรคจากนี้ไปต้องรอความชัดเจนของกติกาเลือกตั้ง โดยเฉพาะสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้เกณฑ์จำนวน 500 คน หรือ 100 คน เป็นตัวเลขเพื่อหาค่าเฉลี่ย ส.ส.ของพรรคการเมือง และในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนพร้อมจะลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อได้สิทธิช่วยลูกพรรคหาเสียงเลือกตั้งทุกพื้นที่ได้
“หากประชาชนอยากได้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ให้เลือกผมทั้งคนทั้งพรรค และผมเชื่อว่าประวัติ รวมถึงผลงานของผมที่ผ่านมา จะสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจะเน้นส่งคนที่ไว้วางใจได้ มีความรู้ มีความสามารถ ไม่ซื้อเสียง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการร่วมงานทางการเมืองกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรค และนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ว่า บุคคลทั้งสองเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีความรู้ ความสามารถ และจะช่วยงานของพรรคด้านการตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชัน แม้ขณะนี้จะยังไม่ยุบสภา แต่การทำงานจะมีความเข้มข้นมากขึ้น ส่วนนายสมชัย และนายวีระ จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบุคคลทั้งสอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่ จ.ราชบุรี เขต 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เดิมพรรคตั้งใจส่งลง เพื่อวัดกระแสความนิยมของพรรคว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กระแสของพรรคเป็นอย่างไร แต่ในวันเปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง พบว่ามีผู้สมัครเพียง 2 พรรค คือ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ ตรวจสอบแล้วว่าไม่ส่งลงเลือกตั้ง รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น ตนเชื่อว่าผู้สมัครของพรรคมีโอกาสชนะ เพราะนางณัฐทนันต์ นิธิภณยางสง่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เป็นถึงทนายความ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีแต่ชื่อเสีย ดังนั้น ตนเชื่อว่าประชาชนที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยพรรคจะชนะ. – สำนักข่าวไทย