ลำปาง 24 ธ.ค. – พาไปดูความสำเร็จของหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ จ.ลำปาง ซึ่งอพยพจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เมื่อกว่า 30 ปีก่อน มาอยู่พื้นที่แห่งใหม่ ซึ่งเป็นดินภูเขาไฟ ปลูกพืชไม่ได้ผล จนได้รับการช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานส่งเสริมให้ปลูกพืชไร้ดิน สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน และยังต่อยอดสู่การทำผลิตภัณฑ์ชุมชนอีกหลายอย่าง
พื้นที่ว่างเปล่าในหมู่บ้านใหม่นาแขม ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ถูกใช้เป็นที่ตั้งโรงเรือนสำหรับปลูกผักไร้ดิน หรือ “ไฮโดรโปนิกส์” ของชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิด ทั้งขึ้นฉ่าย คะน้า ผักบุ้ง รวมถึงผักที่ตลาดต้องการ อย่างผักสลัด กวางตุ้งญี่ปุ่น ผักกาดขาวโคกาเนะ ซึ่งชาวบ้านจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาดูแล จนส่งขายให้ตลาด ซึ่งแทบไม่พอขาย โดยเฉพาะขึ้นฉ่าย ขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 70 บาท รวมๆ แล้วผักไร้ดินสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในกลุ่มไม่ต่ำกว่าเดือนละ 8,000 บาท ยังไม่รวมที่แต่ละคนปลูกผักไร้ดินในบ้านของตัวเองด้วย
ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้อพยพจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เมื่อกว่า 30 ปีก่อน มาอยู่ที่นี่ ซึ่งมีสภาพเป็นดินภูเขาไฟ ปลูกพืชผักแทบไม่ได้ผล จนหลายหน่วยงาน รวมทั้งนักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เข้ามาแนะนำการปลูกพืชไร้ดินแบบง่ายๆ ใช้ต้นทุนต่ำ แต่ให้ผลผลิตสูง และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่และมีรายได้ดีขึ้น
การปลูกผักใช้เวลาไม่มาก ชาวบ้านจึงรวมกลุ่มกันทำการเกษตรและผลิตสินค้าชุมชนตามความถนัดได้อีก มีทั้งการเพาะเห็ด การทำแหนม และสินค้าขึ้นชื่อของหมู่บ้านอย่าง “มะขามแก้ว” ซึ่งขายดิบขายดี เป็นที่ชื่นชอบของตลาด เพราะเป็นมะขามแก้วที่ชาวบ้านทดลองจนได้สูตรพิเศษของที่นี่ มีทั้งมะขามแก้วรสขิง รสมะพร้าว และรสจี๊ดจ๊าด
ชุมชนบ้านใหม่นาแขม จึงเป็นอีกตัวอย่างในการปรับเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการใหม่ๆ ในการทำเกษตรให้เข้ากับสภาพพื้นที่ เน้นการพึ่งพาตัวเองและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง จนตอนนี้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่เมาะ. – สำนักข่าวไทย