ทำเนียบรัฐบาล 8 เม.ย.-นายกฯ มอบเงินช่วยเหลือจนท.ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 140 ราย วงเงินกว่า 4 ล้านบาท ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมบริจาคช่วยเหลือ เน้นย้ำให้ดูแลผู้เสียสละอย่างดีที่สุด ให้กำลังใจทุกฝ่าย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 140 ราย เป็นเงิน 4,220,000 บาท จากเงินบริจาคบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)” โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมพิธี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งบัญชีเงินบริจาค “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)” ว่า ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ช่วยเหลือและสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยเป็นความร่วมมือของรัฐบาล ภาครัฐ เอกชน และประชาชน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกจากการช่วยเหลือตามระบบราชการของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และครอบครัวที่เสียสละตนเองทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่
“ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เสียสละร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ขอให้มีการบริหารจัดการเงินดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน เน้นย้ำการดูแลเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละอย่างดีที่สุด พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ร่วมกันดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอให้มีความตั้งใจ ตั้งมั่นในการทำความดี รักษาคุณงามความดีที่ได้กระทำด้วยความเสียสละ อย่าท้อแท้ และมีกำลังกายกำลังใจที่ดีในการใช้ชีวิตต่อไปด้วยความปลอดภัย ซึ่งในขณะนี้นับเป็นโอกาสที่ดี ที่ต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทย หลังจากผ่อนคลายมาตรการแล้วบางส่วน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นซึ่งนับเป็นสิ่งที่ดี ขอให้ทุกคนยังคงปฏิบัติตนตามข้อกำหนด เพื่อความปลอดภัยและการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย