ปักกิ่ง 15 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติประจำปีในวันนี้ โดยได้กล่าวในหลากหลายประเด็นทั้งนโยบายเศรษฐกิจ การค้า และการต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้ากับสหรัฐเพราะจะไม่ช่วยให้การค้าเป็นธรรมมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายอาจมีวิธีคิดคำนวณที่แตกต่างกัน แต่เขาเชื่อว่าจะสามารถนั่งลงพูดคุยกันได้เพื่อหาทางออก เรื่องใดที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในขณะนี้ก็ควรเก็บไว้ก่อน เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป (อียู) ที่จีนไม่ได้ต้องการเกินดุลการค้าไปตลอด และเชื่อว่าสมดุลการค้าจะดีขึ้นอย่างมากหากอียูเพิ่มการส่งออกสินค้าไฮเทคมาจีนให้มากขึ้น ที่ผ่านมาทั้งสหรัฐและอียูควบคุมการส่งออกสินค้าไฮเทคทั้งที่ใช้ทางการทหารและทางพลเรือนมาจีนเพราะกังวลเรื่องความมั่นคง
นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวว่า จีนสนับสนุนกระแสโลกาภิวัฒน์และการค้าเสรี โดยจะเร่งเปิดเศรษฐกิจประเทศให้เร็วยิ่งขึ้น ขอให้ทุกฝ่ายเลิกทำนายว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวอย่างรุนแรงเสียที เพราะเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายปีมานี้น่าจะหักล้างคำทำนายดังกล่าวได้แล้ว อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่า การทำให้เศรษฐกิจจีนปีนี้ขยายตัวให้ได้ร้อยละ 6.5 ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายท่ามกลางความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศที่ยังคงดำรงอยู่ ขณะเดียวกันขอยืนยันว่า จีนไม่คิดใช้เงินหยวนอ่อนค่าเป็นเครื่องมือส่งเสริมการส่งออก พร้อมกับให้ความมั่นใจว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในขณะนี้มีเพียงพอสำหรับชำระค่าสินค้านำเข้าและหนี้ต่างประเทศ จีนจะลดภาษีและค่าธรรมเนียมบริษัทลง 1 ล้านล้านหยวน (ราว 5 ล้านล้านบาท) ในปีนี้ จะโยกย้ายแรงงานร่วม 1 ล้านคนตามมาตรการลดกำลังผลิต และต้องเร่งปฏิรูปขนานใหญ่แต่จะไม่ลอยแพคนงาน
ส่วนเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ จีนกำลังผลักดันให้มีการเจรจาเรื่องแนวทางปฏิบัติเพราะเป็นประเด็นภูมิภาคจึงควรให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรงเป็นผู้ตัดสินและแก้ไข ไม่อยากให้มีประเทศใดรู้สึกว่าจำเป็นต้องเลือกข้างเหมือนสมัยสงครามเย็น เช่นเดียวกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่ควรมีการเจรจาเพื่อคลายความตึงเครียดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และขอย้ำว่าจีนคัดค้านอย่างแข็งขันต่อการที่ไต้หวันจะแบกตัวเป็นเอกราช โดยขอให้ยึดมั่นในหลักการจีนเดียว.-สำนักข่าวไทย