กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มอบเงิน 110,000 บาท ให้กับมารดาน้องปอนด์เหยื่อไขควงแทงศรีษะดับ ขณะที่ศรีวราห์เดินหน้าสอบปากคำในประเด็นต้องสงสัยเพื่อหาผู้ร่วมสังหารที่ยังหลบหนี
นางอารีรัตน์ ชมโลก และนางอรุณี ดีสุวรรณ มารดาและป้าของนายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหา 16 คน ร่วมกันรุมทำร้ายและใช้ไขควงแทงศีรษะจนเสียชีวิต เข้าให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพิ่มเติม โดยมีพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาร่วมสอบปากคำ
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุจะสอบถามในประเด็นความเสียหาย ส่วนการสอบปากคำพันตำรวจโทศักดินันท์ มูลมณี รองผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ บิดา รวมถึงมารดาของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนั้น สอบครบถ้วนแล้วโดยบิดาผู้ต้องหายืนยันไม่มีการข่มขู่พยาน หรือ วิ่งเต้นคดีช่วยเหลือบุตรชาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยผลการสอบสวนได้ เพราะถือว่าเป็นพยานหลังเกิดเหตุ จากนี้จะพิจารณาผลสอบปากคำผู้ต้องหาและพยานทั้งหมด รวมถึงมารดาและญาติของผู้เสียชีวิตหากพบพาดพิงบุคคลใด หรือแม้ผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวไปแล้วก็จะเรียกมาสอบเพิ่มเติม
ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 3 คนที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมก่อเหตุ ซึ่งในจำนวนนี้มีหลานของนักการเมืองด้วยนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และขณะนี้รอรับผลรายงานการตรวจสอบห้องพักของผู้ต้องหาย่านจรัญสนิทวงศ์ ที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้ รวมถึงประเด็นที่เจ้าของหอพักเข้าแจ้งความว่าก่อนหน้ามีรถยนต์ต้องสงสัยหลายคันมาถามหาบุคคลในหอพัก และพูดว่าจะมาเอาคืนด้วย
ทั้งนี้นางจันทร์ชม จินตยานนท์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินจำนวน 110,000 บาท ให้กับนางอารีรัตน์ มารดาของน้องปอนด์ ตามพระราชบัญญัติ ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544
ด้านนางอรุณี ดีสุวรรณ ป้าของน้องปอนด์ ระบุว่า หลังคดีถูกโอนมาที่กองปราบปราม ก็รู้สึกมั่นใจในการดำเนินคดีมากขึ้น ซึ่งตำรวจกองปราบปรามให้ความมั่นใจว่าจะดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาโดยคดีมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน ก็ยังเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปทั้งหมดแล้ว และมั่นใจว่าผู้ใช้ไขควงแทงหลานชายตรงกับผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนระบุ และได้รับข้อมูลจากเพื่อนผู้เสียชีวิตว่าถูกข่มขู่ ส่วนที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าสาเหตุที่ไม่ให้การกับตำรวจ สภ.ชะอำ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มผู้เสียหาย ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตั้งแต่เกิดคดีขึ้นไม่มีการข่มขู่และไม่รู้จักผู้มีอิทธิพล.-สำนักข่าวไทย