วิษณุ รับตามทรัพย์สินทักษิณในต่างประเทศยาก

 


16379ทำเนียบ 17 มี.ค.-นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แจ้งกรมสรรพากรให้เรียกเก็บภาษีจากนักการเมือง ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง เข้าข่ายการหลีกเลี่ยงภาษีประมาณ 60 คน ว่าได้รับรายงานแล้ว แต่เท่าที่ทราบมีนักการเมืองที่เข้าขายเลี่ยงภาษี ประมาณ 20-30 คน ไม่ใช่ 60 คน และยังไม่เห็นรายชื่อว่ามีใครบ้าง โดยแจ้งระหว่างที่มีการประชุมกรณีเรียกเก็บภาษีของนายทักษิณ และหากจะการดำเนินการเรียกเก็บภาษีก็จะต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนบรรทัดฐานว่าใครจะถูกหรือผิด อยู่ที่ศาลจะตัดสิน ซึ่งการดำเนินการจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติไม่ใช้มาตรา 44 และไม่อยากให้นำไปโยงกับการสร้างความปรองดองที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ เพราะเป็นคนละเรื่องกันและไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาต่อรองกับเรื่องสร้างความปรองดอง

“เรื่องนี้เรารู้อยู่แล้วก่อนจะทำว่าเป็นเรื่องที่พูดในสังคมว่าหากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยปล่อยให้กระบวนการหมดอายุความรัฐบาลก็จะโดยฟ้องมาตรา 157 ละเว้นปฎิบัติหน้าที่ แต่หากทำการเก็บภาษีก็จะโดนกล่าวหาเลือกปฎิบัติไล่บี้ทำอยู่ฝ่ายเดียว คนคนเดียว ได้ไป 4.7ล้านบาทไม่พอยังจะเอาอีก เราจึงไม่หลวมตัวออกมาตรา  44 แต่ให้ว่าตามกระบวนการปกติ เพราะเรื่องนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองตัดสินแล้วการซื้อขายหุ้นผิดกฎหมายดังนั้นจึงต้องทำตามกฎหมายและการเรียกเก็บภาษีก็ต้องดำเนินการแต่แม้เป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็มีกฎหมายกำหนดไว้ เหมือนคนไปขโมยของเมื่อศาลตัดสินให้มีโทษจำคุก 10 ปี หรือตลอดชีวิตแล้ว แต่ก็ต้องไล่บี้เอาทรัพย์สินคืน ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับศาลที่จะเป็นผู้ตัดสิน”นายวิษณุกล่าว


นายวิษณุ กล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีกับอดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากกระบวนการของสรรพากรแล้ว ยังมีกระบวนการของหน่วยงานอื่นดำเนินการควบคู่กันไปด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะเกรงจะเสียรูปคดี  พร้อมย้ำว่า การดำเนินการของรัฐบาล เนื่องจากสังคมตั้งข้อสังเกต หากรัฐบาลไม่ดำเนินการจะถูกกล่าวหา ว่าปล่อยปละละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ได้ และหากศาลตัดสินว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องจ่ายภาษี แต่ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ ก็ต้องไปพิสูจน์กันว่าทรัพย์สินที่โอนให้บุตรก่อน หรือหลังจากถูกฟ้องร้องดำเนินคดีภายใน 1 ปีหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ ก็สามารถนำกลับมา เพื่อจ่ายภาษีให้กรมสรรพากรได้

“การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจะต้องเรียกเก็บกับเจ้าตัว เพราะถือเป็นความผิดต่อบุคคล แต่ยอมรับว่าการตามทรัพย์สินของนายทักษิณในต่างประเทศทำได้ยาก เพราะติดข้อกฎหมาย ดังนั้นต้องดูว่าทรัพย์สินมีทรัพย์สินของนายทักษิณอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ หรือมีทรัพย์สินที่ยักย้ายถ่ายเทจำหน่ายไปยังบุคคลอื่นหรือไม่ถ้าสืบตรวจสอบพบก็สามารถที่จะเรียกเก็บได้ เหมือนกฎหมายล้มละลายผู้ที่ถูกฟ้องล้มละลายคือไม่มีทรัพย์สินติดตัว แต่ถ้าลูก ภรรยา ญาติพี่น้องมี และสืบทราบว่าเป็นการยักย้ายถ่านโอนให้ 1 ปีก่อนถูกศาลมีคำสั่งก็สามารถยึดเอาทรัพย์สินส่วนนั้นมาได้”นายวิษณุกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง