กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคใต้และส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพ ธนาคารจึงเตรียมวงเงิน 500 ล้านบาท จัดทำ “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2560” ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส. กรณีหลักประกัน (ที่อยู่อาศัยที่ จดจำนองกับธนาคาร) ได้รับผลกระทบธนาคารจะลดภาระดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อนชำระ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี นาน 3 เดือนแรก เดือนที่ 4-12 อัตราดอกเบี้ย MRR ลบร้อยละ 2.50 ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย MRR ลบร้อยละ 2.00 ต่อปี ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย MRR ลบร้อยละ 1.00 ต่อปี และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้กรณี ลูกค้าสวัสดิการ ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR ลบร้อยละ 1.00 ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR ลบร้อยละ 0.50 ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. อยู่ที่ร้อยละ 6.75 ต่อปี)
มาตรการที่ 2 สำหรับลูกค้าใหม่ หรือลูกค้าเดิมของ ธอส.ที่อาคารหรือบ้านได้รับความเสี ยหายสามารถขอกู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ เพื่อปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม หรือกู้ซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี นาน 3 ปี หลังจากนั้นกรณีลูกค้าสวัสดิการ คิดอัตราดอกเบี้ย MRR ลบร้อยละ 1.00 ต่อปี ส่วนลูกค้ารายย่อย คิดอัตราดอกเบี้ย MRR ลบร้อยละ 0.50 ต่อปี
สำหรับวงเงินให้กู้ต่อรายธนาคารกำหนดไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 หลักประกัน คุณสมบัติของผู้ที่สามารถเข้าร่วม “โครงการเงินกู้เพื่อช่ วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2560” จะต้องเป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่ ซึ่งที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรสและได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัย ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส.ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์.-สำนักข่าวไทย