ทำเนียบรัฐบาล 2 ก.พ.- โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ตั้ง “ดอน-สุพัฒนพงษ์” สานต่อการทำงานตามข้อหารือเยือนซาอุฯ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทูต แรงงาน ท่องเที่ยว
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนับเป็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของสองประเทศในรอบ 30 ปี เกิดการหารือระดับทวิภาคีหลายมิติ ครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การทูต และแรงงาน นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและแรงงาน เร่งดำเนินการหลังการหารือ โดยมอบหมายนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งกรรมการเร่งดำเนินการติดตามการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์
“ให้กระทรวงแรงงานประสานไปยังหน่วยงานในกำกับ เร่งเตรียมความพร้อมการเยือนของรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อลงนาม MOU ซึ่งถือว่าเป็นการขับเคลื่อนที่เร็วกว่าที่กำหนดไว้ภายใน 2 เดือน ซึ่งความคืบหน้าในส่วนของกระทรวงแรงงานได้จัดหาแรงงานมีฝีมือตามความต้องการของซาอุดีอาระเบียกว่า 8 ล้านคน ในสาขาภาคบริการ โรงแรม สุขภาพและอุตสาหกรรมก่อสร้างโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยเร่งประชุมกับหน่วยงานในกำกับ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายการเดินทาง ภายใต้หลักการ รัฐจัดหา เอกชนจัดส่ง” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ได้สานต่อการหารือเกี่ยวกับการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ซึ่งระยะแรกจะแต่งตั้งเอกอัครราชทูตและการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคี การร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรอบพหุภาคีต่าง ๆ อาทิ องค์การ OIC (โอไอซี) อาเซียน GCC (จีซีซี) รวมถึงการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยในปีนี้ด้วย สำหรับด้านเศรษฐกิจ ไทยมุ่งเน้นสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอาหรับ โดยเฉพาะการเสริมสร้างบทบาทของอาหารฮาลาลของไทย ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวซาอุฯ ซึ่งจะเปิดเที่ยวบินจากซาอุดิอาระเบีย บินตรงมาสู่ประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้
“นายกฯ ระบุว่าเป็นโอกาสดีสำหรับประเทศไทยที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุฯ มีสัญญาณที่ดี ไทยต้องรีบคว้าโอกาสสำคัญนี้เร่งผลักดันเศรษฐกิจ รื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต ขยายตลาดแรงงานไทยและนโยบายเปิดประเทศสำหรับการท่องเที่ยว โดยเร่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานทุกวินาที เพื่อห้เกิดการสานต่อจากการหารือ ถือเป็นการกรุยทางแห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบีย ที่ถูกรื้อฟื้นในรอบ 30 ปี” นาย ธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย